ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์’ ระบุมีความพยายามซื้อตัว ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์จากบางพรรคการเมือง แต่ส่วนตัวไม่ว่าอะไรถือเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ขอให้พูดความจริงกับประชาชน อย่าตลบตะแลง
วันนี้(29 มิ.ย.47) เวลา 08.15น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ ข่าวยามเช้า ทางคลื่นวิทยุ 101.0 เมกะเฮิรต์ ถึงกระแสข่าวการซื้อตัว ส.ส.เพื่อหวังผลการเลือกตั้งในปีหน้าว่า คิดว่าไม่มีอะไรที่เป็นข้อสังเกต แต่ต้องยอมรับว่ามีความพยายามดึงคนที่มีเสียงเป็นนิยมออกไปจากพรรคการเมืองเดิมนั้นมีอยู่จริงแม้กระทั่งในพรรคประชาธิปัตย์เอง ซึ่งขณะนี้ตนก็ได้บอกในสิ่งที่รู้กับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคฯไปแล้วว่าอย่าประมาท เพราะแม้แต่ในภาคใต้ก็มีการไปหยั่งเสียงชาวบ้านระหว่างผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคการเมืองดังกล่าว และเมื่อเสียงแพ้คนของพรรคประชาธิปัตย์ก็จะมีการเปลี่ยนตัวผู้สมัคร หรือดึงตัวส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์โดยมีการเสนอข้อแลกเปลี่ยนให้
เมื่อถามว่า ส.ส.ในพรรคหวั่นไหวกับข้อเสนอหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า เรื่องความคิดคงจะบอกกกันยาก แต่ผู้ที่มาบอกกับตนว่าถูกซื้อตัวก็ถือเป็นผู้ที่มีจุดยืนที่ชัดเจนว่าไม่ไป อย่างไรก็ตามคิดว่าเรื่องนี้จะต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ‘ขณะนี้เราเห็นความพยายามที่จะดึงคนจากพรรคการเมืองที่มีเสียงอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นที่นิยมก็ยังมีการทำกันอยู่ ที่ผมพูดเรื่องนี้เพราะเห็นว่าไม่ยุติธรรมกับพรรคการเมือง ที่เวลาข่าวออกมาจากฝ่ายหนึ่งมักจะพูดในทำนองว่าไม่สนใจ ส.ส.พรรคอื่น มีคนพร้อมอยู่แล้ว แต่ในเบื้องหลังจริงๆยังมีความพยายามทาบทามต่อรองอยู่อย่างรุนแรง อันนี้คือความไม่ยุติธรรม ถ้าบอกตรงๆว่าผมอยากได้คนของคุณ พรรคนั้นคนนั้น ผมพยายามไปเจรจาเขามาก็ไม่มา อย่างนี้ผมจะไม่ว่าอะไรเลย ผมถือว่าให้ความจริงกับชาวบ้านอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่ไปทำตลบตะแลง ต่อหน้าชาวบ้านพูดอย่างหนึ่งลับหลังทำอย่างหนึ่ง ผมคิดว่าอย่างนั้นมันหลอกลวง และเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมกับพรรคการเมืองและนักการเมืองอื่น มันเสมือนหนึ่งว่าที่เขาไปเพราะอยู่ไม่ได้แต่ความจริงคนไม่รู้ว่ามีการเสนอเงื่อนไขอยู่เบื้องหลัง’ นายชวนกล่าว
ต่อข้อถามว่าข้อเสนอที่เป็นตัวเลขประมาณเท่าไหร่ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในส่วนของตัวเลขนั้นตนไม่อยากพูดอะไรตอนนี้ เพราะเมื่อถึงเวลาความจริงก็จะปรากฏออกมาเอง ทั้งนี้คิดว่านักการเมืองบางคนในชีวิตคงไม่มีโอกาสที่จะมีเงินหลายสิบล้าน หากไม่มีการโกงหรือทุจริตคอร์รัปชั่น ดังนั้นข้อเสนอเหล่านี้แม้ตัว ส.ส.เองจะมั่นคง แต่ก็อาจจะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหวั่นไหวได้ แต่ก็แล้วแต่พฤติกรรมและค่านิยมของสังคมด้วย เช่น หากสังคมยังยอมรับนักการเมืองที่เปลี่ยนพรรคบ่อยก็อาจจะทำให้มีความคิดที่ว่านักการเมืองที่ย้ายพรรคเอาตัวรอดคือนักการเมืองที่ฉลาด ซึ่งไม่จริงเพราะนักการเมืองต้องมีจุดยืนและอุดมการณ์ที่ชัดเจน
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์มีกลยุทธในการช่วยเหลือ ส.ส.ในพรรค เพื่อเป็นกำลังใจหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ตนได้บอกกับหัวหน้าพรรครับทราบในวันที่มีการพิจารณางบประมาณว่าเกิดพฤติกรรม เช่นการต่อรอง เสนอเงื่อนไข หรือนัดเจรจา โดยผู้ที่มาเจรจาก็เป็นคนระดับรัฐมนตรี สำหรับในส่วนของ ส.ส.ภาคกลางนั้นจะมีการย้ายพรรคหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบเรื่อง แต่นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ รองหัวหน้าพรรคที่รับผิดชอบภาคกลางก็บอกว่ามีอาการ เพราะมีคนมาเสนอให้มากและมีลักษณะว่าคนของเราเองก็ลังเลแต่จะเป็นใครนั้นยังไม่ชัดเจน
‘ในส่วนของภาคใต้นั้นยังไม่มีอาการ เพราะว่าการเลือกตั้งที่สงขลาครั้งที่แล้วก็ทำให้ ส.ส.รู้ว่าอะไรเป็นอะไร และทำให้ ส.ส.รัฐบาลปรับทีท่าไป คือแต่เดิมจะเอาคนมาแข่งและคิดว่าจะได้ไป 20 ที่นั่ง แต่เมื่อผลออกมาว่าแม้จะใช้เงินใช้อิทธิพลข้าราชการหน่วยงานต่างๆก็แล้ว ผลยังออกมาคือพรรคประชาธิปัตย์ชนะ ผมคิดว่าเขาคงปรับท่าทีว่าถ้าอย่างนั้นก็หาคนที่ได้แน่นอน เพียงแต่เสนอเงื่อนไขสูงหน่อยจะไม่ดีกว่าหรือ จึงได้มีความพยายามซื้อตัว’ นายชวนกล่าว
ส่วนกระแสข่าวที่ว่าส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุว่าอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้อะไรนั้น นายชวนกล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่แน่ใจ แต่ในยุคที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค เชื่อมั่นว่าไม่มีอย่างแน่นอน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าส.ส.ลูกพรรครู้ว่าตนไม่มี ก็เลยไม่เอาเรื่องทำนองนี้ขึ้นมาพูด แต่ขณะนี้ไม่ทราบว่าหัวหน้าหรือเลขาฯไปตกลงอะไรกับ ส.ส.ในพรรคหรือไม่ แต่ขณะนี้ตนก็พยายามช่วยพรรคดูว่าจังหวัดใดที่ไม่ชัดเจนและมีแนวโน้มว่าจะออก ก็ให้มีการเตรียมคนสำรองเอาไว้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 29 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
วันนี้(29 มิ.ย.47) เวลา 08.15น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ ข่าวยามเช้า ทางคลื่นวิทยุ 101.0 เมกะเฮิรต์ ถึงกระแสข่าวการซื้อตัว ส.ส.เพื่อหวังผลการเลือกตั้งในปีหน้าว่า คิดว่าไม่มีอะไรที่เป็นข้อสังเกต แต่ต้องยอมรับว่ามีความพยายามดึงคนที่มีเสียงเป็นนิยมออกไปจากพรรคการเมืองเดิมนั้นมีอยู่จริงแม้กระทั่งในพรรคประชาธิปัตย์เอง ซึ่งขณะนี้ตนก็ได้บอกในสิ่งที่รู้กับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคฯไปแล้วว่าอย่าประมาท เพราะแม้แต่ในภาคใต้ก็มีการไปหยั่งเสียงชาวบ้านระหว่างผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคการเมืองดังกล่าว และเมื่อเสียงแพ้คนของพรรคประชาธิปัตย์ก็จะมีการเปลี่ยนตัวผู้สมัคร หรือดึงตัวส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์โดยมีการเสนอข้อแลกเปลี่ยนให้
เมื่อถามว่า ส.ส.ในพรรคหวั่นไหวกับข้อเสนอหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า เรื่องความคิดคงจะบอกกกันยาก แต่ผู้ที่มาบอกกับตนว่าถูกซื้อตัวก็ถือเป็นผู้ที่มีจุดยืนที่ชัดเจนว่าไม่ไป อย่างไรก็ตามคิดว่าเรื่องนี้จะต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ‘ขณะนี้เราเห็นความพยายามที่จะดึงคนจากพรรคการเมืองที่มีเสียงอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นที่นิยมก็ยังมีการทำกันอยู่ ที่ผมพูดเรื่องนี้เพราะเห็นว่าไม่ยุติธรรมกับพรรคการเมือง ที่เวลาข่าวออกมาจากฝ่ายหนึ่งมักจะพูดในทำนองว่าไม่สนใจ ส.ส.พรรคอื่น มีคนพร้อมอยู่แล้ว แต่ในเบื้องหลังจริงๆยังมีความพยายามทาบทามต่อรองอยู่อย่างรุนแรง อันนี้คือความไม่ยุติธรรม ถ้าบอกตรงๆว่าผมอยากได้คนของคุณ พรรคนั้นคนนั้น ผมพยายามไปเจรจาเขามาก็ไม่มา อย่างนี้ผมจะไม่ว่าอะไรเลย ผมถือว่าให้ความจริงกับชาวบ้านอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่ไปทำตลบตะแลง ต่อหน้าชาวบ้านพูดอย่างหนึ่งลับหลังทำอย่างหนึ่ง ผมคิดว่าอย่างนั้นมันหลอกลวง และเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมกับพรรคการเมืองและนักการเมืองอื่น มันเสมือนหนึ่งว่าที่เขาไปเพราะอยู่ไม่ได้แต่ความจริงคนไม่รู้ว่ามีการเสนอเงื่อนไขอยู่เบื้องหลัง’ นายชวนกล่าว
ต่อข้อถามว่าข้อเสนอที่เป็นตัวเลขประมาณเท่าไหร่ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในส่วนของตัวเลขนั้นตนไม่อยากพูดอะไรตอนนี้ เพราะเมื่อถึงเวลาความจริงก็จะปรากฏออกมาเอง ทั้งนี้คิดว่านักการเมืองบางคนในชีวิตคงไม่มีโอกาสที่จะมีเงินหลายสิบล้าน หากไม่มีการโกงหรือทุจริตคอร์รัปชั่น ดังนั้นข้อเสนอเหล่านี้แม้ตัว ส.ส.เองจะมั่นคง แต่ก็อาจจะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหวั่นไหวได้ แต่ก็แล้วแต่พฤติกรรมและค่านิยมของสังคมด้วย เช่น หากสังคมยังยอมรับนักการเมืองที่เปลี่ยนพรรคบ่อยก็อาจจะทำให้มีความคิดที่ว่านักการเมืองที่ย้ายพรรคเอาตัวรอดคือนักการเมืองที่ฉลาด ซึ่งไม่จริงเพราะนักการเมืองต้องมีจุดยืนและอุดมการณ์ที่ชัดเจน
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์มีกลยุทธในการช่วยเหลือ ส.ส.ในพรรค เพื่อเป็นกำลังใจหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ตนได้บอกกับหัวหน้าพรรครับทราบในวันที่มีการพิจารณางบประมาณว่าเกิดพฤติกรรม เช่นการต่อรอง เสนอเงื่อนไข หรือนัดเจรจา โดยผู้ที่มาเจรจาก็เป็นคนระดับรัฐมนตรี สำหรับในส่วนของ ส.ส.ภาคกลางนั้นจะมีการย้ายพรรคหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบเรื่อง แต่นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ รองหัวหน้าพรรคที่รับผิดชอบภาคกลางก็บอกว่ามีอาการ เพราะมีคนมาเสนอให้มากและมีลักษณะว่าคนของเราเองก็ลังเลแต่จะเป็นใครนั้นยังไม่ชัดเจน
‘ในส่วนของภาคใต้นั้นยังไม่มีอาการ เพราะว่าการเลือกตั้งที่สงขลาครั้งที่แล้วก็ทำให้ ส.ส.รู้ว่าอะไรเป็นอะไร และทำให้ ส.ส.รัฐบาลปรับทีท่าไป คือแต่เดิมจะเอาคนมาแข่งและคิดว่าจะได้ไป 20 ที่นั่ง แต่เมื่อผลออกมาว่าแม้จะใช้เงินใช้อิทธิพลข้าราชการหน่วยงานต่างๆก็แล้ว ผลยังออกมาคือพรรคประชาธิปัตย์ชนะ ผมคิดว่าเขาคงปรับท่าทีว่าถ้าอย่างนั้นก็หาคนที่ได้แน่นอน เพียงแต่เสนอเงื่อนไขสูงหน่อยจะไม่ดีกว่าหรือ จึงได้มีความพยายามซื้อตัว’ นายชวนกล่าว
ส่วนกระแสข่าวที่ว่าส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุว่าอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้อะไรนั้น นายชวนกล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่แน่ใจ แต่ในยุคที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค เชื่อมั่นว่าไม่มีอย่างแน่นอน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าส.ส.ลูกพรรครู้ว่าตนไม่มี ก็เลยไม่เอาเรื่องทำนองนี้ขึ้นมาพูด แต่ขณะนี้ไม่ทราบว่าหัวหน้าหรือเลขาฯไปตกลงอะไรกับ ส.ส.ในพรรคหรือไม่ แต่ขณะนี้ตนก็พยายามช่วยพรรคดูว่าจังหวัดใดที่ไม่ชัดเจนและมีแนวโน้มว่าจะออก ก็ให้มีการเตรียมคนสำรองเอาไว้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 29 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-