ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่าปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีความรุนแรงอยู่ และยืนยันว่าพยายามทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่แล้ว อยากจะเห็น ส.ส.ในพื้นที่ออกมาแก้ไขปัญหาบ้างว่า คณะทำงานจังหวัดชายแดนภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า ส.ส.ทุกคนในพื้นที่ รวมทั้ง ส.ส.ที่มีประสบการณ์ เข้าใจและมีข้อมูลของปัญหาในพื้นที่ ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่มาตลอด การที่รัฐบาลหรือผู้รับผิดชอบออกมาเรียกร้องในลักษณะนี้เหมือนกับเป็นการตัดความรับผิดชอบ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอแนะความเห็น ในหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นคำประกาศปัตตานี ซึ่งมีรายละเอียดชัดเจนในการที่จะใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และก็เป็นเหมือนสัญญาประชาคมที่มีไว้กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศและในพื้นที่ว่าจะดำเนินการแก้ไขในลักษณะนี้ การนำเสนอในสภาผู้แทนราษฎร 9 มาตรการดับไฟใต้ รวมทั้งการเสนอญัตติ หรือกระทู้ต่างๆดังนั้นประเด็นคือ รัฐบาลได้นำเอาความคิดเห็นเหล่านี้ ไปปฏิบัติมากน้อยเพียงใด
“การที่เจอปัญหา เผชิญปัญหา แล้วก็ไขปัญหาไม่ได้ แล้วมาเรียกร้องให้ส.ส.ในพื้นที่ออกมาร่วมรับผิดชอบ ดูเสมือนหนึ่งว่า ส.ส.ในพื้นที่ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้แสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ไม่มีลู่ทางแนวทางในการที่แก้ไขปัญหา ขอยืนยันว่าพวกเราทำหน้าที่ของเราทุกวัน ทั้งในพื้นที่ ทั้งในสภา ทั้งในพรรค ทั้งผ่านสื่อมวลชน ก็ขอยืนยันในภาระหน้าที่ที่ทำอยู่ และขอเรียกร้องว่า ไม่ควรที่จะปัดความรับผิดชอบไปให้ฝ่ายอื่น การทำร่วมกันทำอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าฝ่ายที่มีหน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติโดยตรงได้ทำเต็มที่มากน้อยแค่ไหน” ดร.สุรินทร์กล่าว
นายสุรเชษฐ์ แวอาแซ ชี้แจงว่า การให้สัมภาษณ์ของผบ.ส.ส.วันนี้ เป็นการยอมรับว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยการกำกับดูแลของฝ่ายทหารนั้นล้มเหลว วันนี้มาขอความร่วมมือเรียกร้องให้ส.ส.โดยเฉพาะซีกของฝ่ายค้าน ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ทั้งๆที่พวกเรานั้นเรียกร้องมาตลอด เราได้เยี่ยมเยียนรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนทุกสัปดาห์ แต่เมื่อจะนำเสนอให้กับหน่วยงานของรัฐนั้น เจ้าหน้าที่ของรัฐกลับไม่ให้ความสำคัญ รัฐบาลนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับพรรคที่อยู่ในซีกของฝายค้าน เพราะฉะนั้นจึงมีความขาดตอนในการแลกเปลี่ยนข้อมูล
“ปัญหาที่ได้มีการถกเถียงแล้วก็นำเสนอในการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาที่ผ่านมา ก็ถือเป็นแนวทางหนึ่ง ที่นำเสนอให้ฝ่ายบริหารนำไปสู่แนวทางการแก้ปัญหา รัฐบาลไม่ควรจะดื้อแพ่ง รัฐบาลจะต้องยอมรับว่า การแก้ปัญหาที่ผ่านมานั้นผิดพลาดมาตลอด วันนี้พวกเราในฐานะส.ส.อยากจะพูดให้เสียงดังให้ทางรัฐบาลได้ยินได้ฟังว่า พี่น้องใน 3 จังหวัดเขาล้มตายเป็นรายวัน วันนี้พี่น้องประชาชนสับสนกับการดูแลปกป้องคุ้มครองของเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่ทำหน้าที่โดยสมบูรณ์ วันนี้ผมร้องเรียนผ่านสื่อไปถึงรัฐบาล ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของรัฐยังหละหลวมให้ความสำคัญในเรื่องของการแก้ไขปัญหาน้อยมาก ถ้าหากรัฐบาลยังดำเนินการอย่างนี้ คนไทยไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดในพื้นที่ 3 จังหวัดจะต้องล้มตายกันอีกมาก ก็ขอร้องเรียนผ่านสื่อ ถ้ารัฐบาลนี้เห็นความสำคัญของส.ส. ทุกท่านไม่ว่าสังกัดพรรคไหน เห็นว่าปัญหาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนเป็นวาระแห่งชาติ ก็ควรที่จะประสานมือและร่วมมือร่วมใจกันมาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นนำข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาต่อไป” นายสุรเชษฐ์กล่าว
นายเจะอามิง โตะตาหยง กล่าวว่า ส.ส.ในสัดส่วนของฝ่ายค้านได้เสนอปัญหากับรัฐบาลแล้ว แต่รัฐบาลกลับไม่ตอบสนอง สิ่งที่สำคัญคือรัฐบาลไม่ตอบสนองและปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ก็รุนแรงมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าแนวทางในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และรัฐกำลังจะโยนความผิดว่าเป็นเรื่องของฝ่ายค้านที่ไม่ให้ความร่วมมือ ทั้งที่จริงคือความล้มเหลว ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และนโยบายที่ผิดพลาดมาโดยตลอด ขอยืนยันว่า พรรคฝ่ายค้านได้ให้ความสำคัญดำเนินการมาโดยตลอด โดยเฉพาะการยื่นญัตติในสภา ยื่นญัตติในสภา 2 เดือนกว่าจึงจะกลับมาพิจารณา เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพูดจึงไม่เป็นความจริง
นายพีรยศ ราฮิมมูลา กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ได้ให้การยอมรับในคำประกาศปัตตานีถึงขนาดเทคะแนนเสียงให้แก่พรรคประชาธิปัตย์ ได้ชนะท่วมท้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะฉะนั้นการที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ออกมาให้สัมภาษณ์เรียกร้องให้ส.ส.ในพื้นที่ให้ความร่วมมือ ให้แก้ไขปัญหาของประชาชนนั้น จริงๆ แล้ว ส.ส.ของเราทุกคน ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้วเท่าที่สามารถทำได้ในข้อจำกัดที่เป็นฝ่ายค้าน และสิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากคือ หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่ภาคใต้ที่ผ่านมา เป็นการแสดงให้เห็นถึงการยกเลิกรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ในพื้นที่ชั่วคราว หรือมีการแขวนรัฐธรรมนูญชั่วคราวในพื้นที่ตรงนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บางหน่วยงาน บางคน ไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และไม่มีครั้งใดในประวัติศาสตร์ ของพื้นที่จังหวัดชยแดนภาคใต้ที่ศักดิ์ศรีของบรรดาผู้นำทางศาสนาถูกทำลาย และสิ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนก็คือ การเกิดนิคมแม่ม่าย ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อันนี้ชี้ให้เห็นถึงความบกพร่อง ล้มเหลว ในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ นำไปสู่เหตุการณ์ฆ่ารายวันจนถึงปัจจุบันนี้ เพราะฉะนั้นตนในฐานะส.ส.ขอเรียกร้องให้ทางรัฐบาล ได้กรุณา คืนรัฐธรรมนูญให้แก่ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้อย่างรวดเร็ว อันหมายถึงการคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และความยุติธรรมต่างๆ ให้แก่ประชาชน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 14 มิ.ย. 2548--จบ--
“การที่เจอปัญหา เผชิญปัญหา แล้วก็ไขปัญหาไม่ได้ แล้วมาเรียกร้องให้ส.ส.ในพื้นที่ออกมาร่วมรับผิดชอบ ดูเสมือนหนึ่งว่า ส.ส.ในพื้นที่ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้แสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ไม่มีลู่ทางแนวทางในการที่แก้ไขปัญหา ขอยืนยันว่าพวกเราทำหน้าที่ของเราทุกวัน ทั้งในพื้นที่ ทั้งในสภา ทั้งในพรรค ทั้งผ่านสื่อมวลชน ก็ขอยืนยันในภาระหน้าที่ที่ทำอยู่ และขอเรียกร้องว่า ไม่ควรที่จะปัดความรับผิดชอบไปให้ฝ่ายอื่น การทำร่วมกันทำอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าฝ่ายที่มีหน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติโดยตรงได้ทำเต็มที่มากน้อยแค่ไหน” ดร.สุรินทร์กล่าว
นายสุรเชษฐ์ แวอาแซ ชี้แจงว่า การให้สัมภาษณ์ของผบ.ส.ส.วันนี้ เป็นการยอมรับว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยการกำกับดูแลของฝ่ายทหารนั้นล้มเหลว วันนี้มาขอความร่วมมือเรียกร้องให้ส.ส.โดยเฉพาะซีกของฝ่ายค้าน ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ทั้งๆที่พวกเรานั้นเรียกร้องมาตลอด เราได้เยี่ยมเยียนรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนทุกสัปดาห์ แต่เมื่อจะนำเสนอให้กับหน่วยงานของรัฐนั้น เจ้าหน้าที่ของรัฐกลับไม่ให้ความสำคัญ รัฐบาลนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับพรรคที่อยู่ในซีกของฝายค้าน เพราะฉะนั้นจึงมีความขาดตอนในการแลกเปลี่ยนข้อมูล
“ปัญหาที่ได้มีการถกเถียงแล้วก็นำเสนอในการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาที่ผ่านมา ก็ถือเป็นแนวทางหนึ่ง ที่นำเสนอให้ฝ่ายบริหารนำไปสู่แนวทางการแก้ปัญหา รัฐบาลไม่ควรจะดื้อแพ่ง รัฐบาลจะต้องยอมรับว่า การแก้ปัญหาที่ผ่านมานั้นผิดพลาดมาตลอด วันนี้พวกเราในฐานะส.ส.อยากจะพูดให้เสียงดังให้ทางรัฐบาลได้ยินได้ฟังว่า พี่น้องใน 3 จังหวัดเขาล้มตายเป็นรายวัน วันนี้พี่น้องประชาชนสับสนกับการดูแลปกป้องคุ้มครองของเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่ทำหน้าที่โดยสมบูรณ์ วันนี้ผมร้องเรียนผ่านสื่อไปถึงรัฐบาล ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของรัฐยังหละหลวมให้ความสำคัญในเรื่องของการแก้ไขปัญหาน้อยมาก ถ้าหากรัฐบาลยังดำเนินการอย่างนี้ คนไทยไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดในพื้นที่ 3 จังหวัดจะต้องล้มตายกันอีกมาก ก็ขอร้องเรียนผ่านสื่อ ถ้ารัฐบาลนี้เห็นความสำคัญของส.ส. ทุกท่านไม่ว่าสังกัดพรรคไหน เห็นว่าปัญหาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนเป็นวาระแห่งชาติ ก็ควรที่จะประสานมือและร่วมมือร่วมใจกันมาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นนำข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาต่อไป” นายสุรเชษฐ์กล่าว
นายเจะอามิง โตะตาหยง กล่าวว่า ส.ส.ในสัดส่วนของฝ่ายค้านได้เสนอปัญหากับรัฐบาลแล้ว แต่รัฐบาลกลับไม่ตอบสนอง สิ่งที่สำคัญคือรัฐบาลไม่ตอบสนองและปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ก็รุนแรงมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าแนวทางในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และรัฐกำลังจะโยนความผิดว่าเป็นเรื่องของฝ่ายค้านที่ไม่ให้ความร่วมมือ ทั้งที่จริงคือความล้มเหลว ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และนโยบายที่ผิดพลาดมาโดยตลอด ขอยืนยันว่า พรรคฝ่ายค้านได้ให้ความสำคัญดำเนินการมาโดยตลอด โดยเฉพาะการยื่นญัตติในสภา ยื่นญัตติในสภา 2 เดือนกว่าจึงจะกลับมาพิจารณา เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพูดจึงไม่เป็นความจริง
นายพีรยศ ราฮิมมูลา กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ได้ให้การยอมรับในคำประกาศปัตตานีถึงขนาดเทคะแนนเสียงให้แก่พรรคประชาธิปัตย์ ได้ชนะท่วมท้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะฉะนั้นการที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ออกมาให้สัมภาษณ์เรียกร้องให้ส.ส.ในพื้นที่ให้ความร่วมมือ ให้แก้ไขปัญหาของประชาชนนั้น จริงๆ แล้ว ส.ส.ของเราทุกคน ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้วเท่าที่สามารถทำได้ในข้อจำกัดที่เป็นฝ่ายค้าน และสิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากคือ หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่ภาคใต้ที่ผ่านมา เป็นการแสดงให้เห็นถึงการยกเลิกรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ในพื้นที่ชั่วคราว หรือมีการแขวนรัฐธรรมนูญชั่วคราวในพื้นที่ตรงนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บางหน่วยงาน บางคน ไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และไม่มีครั้งใดในประวัติศาสตร์ ของพื้นที่จังหวัดชยแดนภาคใต้ที่ศักดิ์ศรีของบรรดาผู้นำทางศาสนาถูกทำลาย และสิ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนก็คือ การเกิดนิคมแม่ม่าย ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อันนี้ชี้ให้เห็นถึงความบกพร่อง ล้มเหลว ในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ นำไปสู่เหตุการณ์ฆ่ารายวันจนถึงปัจจุบันนี้ เพราะฉะนั้นตนในฐานะส.ส.ขอเรียกร้องให้ทางรัฐบาล ได้กรุณา คืนรัฐธรรมนูญให้แก่ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้อย่างรวดเร็ว อันหมายถึงการคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และความยุติธรรมต่างๆ ให้แก่ประชาชน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 14 มิ.ย. 2548--จบ--