‘ประธานที่ปรึกษาปชป.’ ระบุส.ส.ปชป.ถูกซื้อตัว 32 ล้านเป็นเรื่องจริง ส่วนเรื่องรายละเอียดรอให้ผู้ที่ถูกทาบทามออกมาเปิดเผยความจริงให้ประชาชนได้รับทราบเอง แฉเป็นความพยายามของพรรคการเมืองที่จะกวาดให้ได้ 400 เสียง
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการซื้อตัว ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่าบุคคลที่นายชวนพูดว่าถูกซื้อตัวด้วยเงินจำนวนถึง 32 ล้านบาทเป็นนายทวี สุระบาล ส.ส.ตรังของพรรคประชาธิปัตย์ว่า เรื่องนี้เอาไว้ถึงเวลาแล้วจะบอก แต่ที่ตนพูดเรื่องตัวเลขได้เพราะคำบอกเล่าที่รับฟังมามีความชัดเจนมีรายละเอียดทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามในข้อเท็จจริงของการต่อรองขอให้เจ้าตัวเป็นผู้มาเปิดเผยเองจะดีกว่า
‘ระดับรมต.เป็นผู้มาเจรจาด้วยตัวเอง คือการเจรจาผมเข้าใจว่าไม่ใช่รายเดียวหลายราย แต่รายอื่นเขาอาจจะไม่อยากให้เปิดเผยและไม่ให้ข้อมูลที่ชัดเจนกว่านี้ ความจริงมีมากกว่านี้หลายภาค ซึ่งความจริงพวกผมถือว่าหากว่าคนของเราดีแล้วคนอื่นอยากได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่าต้องพูดตรงไปตรงมา ไม่ใช่มาพูดให้พรรคอื่นเสียหายว่าสมาชิกอยู่ไม่ได้หรือพรรคใหม่ดีกว่า ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะความจริงคือการไปเจรจาต่อรองกับเขา เสนอเงื่อนไขให้เขาเสนอสิ่งที่คิดว่าพรรคเดิมให้ไม่ได้ แต่ว่าก็ไม่ใช่ให้ไม่ได้ คนจะไปส่วนใหญ่เขาก็ไป ผมเรียนว่าส่วนใหญ่นั้นก็อาจจะมีบางคนที่ลังเลใจในขณะนี้ซึ่งเรื่องเงินผมคิดว่าไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องข้อเสนออื่น ผมคิดว่าต้องรอให้เจ้าตัวเขาเปิดเผยเพราะเป็นเรื่องที่พิศดาร’ นายชวนกล่าว
ต่อข้อถามว่าขณะนี้มีจังหวัดใดบ้างในภาคใต้ที่โดนเจาะมากที่สุด ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า จังหวัดตรังถือเป็นความพยายามอันดับหนึ่งที่มีมานานแล้ว แต่ว่าหลังสุดเมื่อมีการเจรจากันอย่างชัดเจนตนจึงกล้าพูด ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ทราบความเคลื่อนไหวมาบ้างแต่ก็ไม่ได้ห้าม และก็ได้บอกไปว่าหากใครต้องการไปก็ไม่ว่าอะไร ซึ่งตนได้บอกให้หัวหน้าพรรครับรู้เรื่องดังกล่าวแล้ว ส่วนในจังหวัดอื่นนั้นตนไม่ทราบในรายละเอียด ส่วนหลังจากนี้ผู้ที่ถูกทาบทามจะออกมาเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบหรือไม่นั้น ตนคิดว่าควรออกมาบอกกับประชาชน โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ของตัวเอง เมื่อถามว่าส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในส่วนของภาคใต้จะมีการย้ายพรรคหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ขณะนี้ขอยืนยันว่ายังไม่มี เพราะโดยพื้นฐานก็น่าจะรู้ว่า ส.ส.ที่ย้ายพรรคจะอยู่ยาก
เมื่อถามว่าประชาธิปัตย์ไม่มีการไปดูด ส.ส.พรรคอื่นในลักษณะนี้บ้าง ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ทำไม่ได้เพราะไม่ใช่แนวและพรรคเองก็ไม่มีเป้าหมายว่าจะต้องมีตัวเลข ส.ส. 400 เสียงขึ้น ประชาธิปัตย์คิดว่าได้ส.ส.มาเท่าไหร่ก็ต้องเท่านั้น เพราะการพุ่งเป้าหมายว่าจะได้เท่าไหร่ ในที่สุดก็ต้องไปหาคนที่ได้จริงๆ ซึ่งก็ต้องไปทำการหยั่งเสียงชาวบ้านว่าพื้นที่นี้ถ้าเลือกตั้งใครจะได้ และแทนที่จะเอาคนที่ไม่แน่ใจว่าจะชนะ ก็มาซื้อตัวคนที่คิดว่าจะชนะแน่ๆดีกว่า ซึ่งก็เป็นแนวคิดที่ว่าเป็นการลงทุนเพื่อดึงคนเหล่านี้มา ซึ่งหากทำได้ตัวเลขที่วางเป้าเอาไว้ 400 เสียงจึงจะเป็นไปได้
‘ถ้าทำแบบประชาธิปัตย์ก็จะไม่ได้ไปหยั่งเสียงก่อนว่าคนนี้จะได้หรือไม่ เหมือนอย่างกทม.พรรคไทยรักไทยก็ไม่ส่งเพราะหยั่งเสียงก่อนว่าคนที่จะลงมีโอกาสได้หรือไม่ และคนที่คิดว่าจะส่งสมัครคะแนนไม่ดีก็ตัดสินใจไม่ส่ง แต่ก็หมายความว่าเราต้องมีเงินพอที่จะไปทำถึงขนาดนั้น และมีเงินพอที่จะไปหว่านล้อมคนที่คิดว่าจะได้ แต่ในภาคใต้มันไม่เสมอไป เพราะคนที่เปลี่ยนพรรคแม้เสียงจะดีแต่วันเลือกตั้งมันอาจจะพลิกก็ได้ อย่างที่เคยเห็นในอดีตมาแล้ว แต่โดยทั่วไปแล้วมันมีความหมายทุกภาค ไม่มากก็น้อยมันมี ภาคใต้ก็มีแต่ว่ามันอาจจะมีความหมายน้อยกว่าภาคอื่นหน่อย เพราะบางคนอาจจะยึดอุดมการณ์ รวมทั้ง ส.ส.เดิมหรือพรรคการเมืองเดิม เขาก็ทำความดีมาคนก็มองเห็นอยู่ คนก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ทั้งหมดอย่างที่เราห็นว่าใช้อะไรไปแล้วก็ตามก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนคนสงขลาให้เป็นอย่างอื่นได้ ตรงนี้ผมคิดว่าเป็นจุดที่รัฐบาลก็รู้ว่าเขาอยากได้ 400 เสียงขึ้นไปเพื่ออภิปรายรมต.ไม่ได้ แต่การจะได้ 400 เสียงขึ้นไปมันไม่มีทางอื่น ทีนี้บังเอิญการเลือกตั้งสงขลามันเริ่มปรากฏขึ้นมาก่อนว่าความหวังที่จะได้ 20 เสียงในภาคใต้มันไม่แน่เสมอไป เห็นว่าทุ่มเทไปเต็มที่แล้วยังออกมาเช่นนั้น ผมคิดว่าความหวังในภาคใต้เขาคงลดลงไป ที่พูดเพราะผมต้องการให้เห็นว่ารัฐบาลพูดอย่างหนึ่งแต่ผู้ปฏิบัติก็ทำอีกอย่างหนึ่ง จึงไม่ตรงไปตรงมา ถ้าตรงไปตรงมาไม่มีใครวิจารณ์เลย บอกตรงๆเลยว่าส.ส.ประชาธิปัตย์เราอยากได้เราก็ทาบทามและเราเสนอเงื่อนไขแล้ว ถ้าบอกแบบนี้ผมจะไม่ว่าอะไรเลย’ นายชวนกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการซื้อตัว ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่าบุคคลที่นายชวนพูดว่าถูกซื้อตัวด้วยเงินจำนวนถึง 32 ล้านบาทเป็นนายทวี สุระบาล ส.ส.ตรังของพรรคประชาธิปัตย์ว่า เรื่องนี้เอาไว้ถึงเวลาแล้วจะบอก แต่ที่ตนพูดเรื่องตัวเลขได้เพราะคำบอกเล่าที่รับฟังมามีความชัดเจนมีรายละเอียดทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามในข้อเท็จจริงของการต่อรองขอให้เจ้าตัวเป็นผู้มาเปิดเผยเองจะดีกว่า
‘ระดับรมต.เป็นผู้มาเจรจาด้วยตัวเอง คือการเจรจาผมเข้าใจว่าไม่ใช่รายเดียวหลายราย แต่รายอื่นเขาอาจจะไม่อยากให้เปิดเผยและไม่ให้ข้อมูลที่ชัดเจนกว่านี้ ความจริงมีมากกว่านี้หลายภาค ซึ่งความจริงพวกผมถือว่าหากว่าคนของเราดีแล้วคนอื่นอยากได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่าต้องพูดตรงไปตรงมา ไม่ใช่มาพูดให้พรรคอื่นเสียหายว่าสมาชิกอยู่ไม่ได้หรือพรรคใหม่ดีกว่า ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะความจริงคือการไปเจรจาต่อรองกับเขา เสนอเงื่อนไขให้เขาเสนอสิ่งที่คิดว่าพรรคเดิมให้ไม่ได้ แต่ว่าก็ไม่ใช่ให้ไม่ได้ คนจะไปส่วนใหญ่เขาก็ไป ผมเรียนว่าส่วนใหญ่นั้นก็อาจจะมีบางคนที่ลังเลใจในขณะนี้ซึ่งเรื่องเงินผมคิดว่าไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องข้อเสนออื่น ผมคิดว่าต้องรอให้เจ้าตัวเขาเปิดเผยเพราะเป็นเรื่องที่พิศดาร’ นายชวนกล่าว
ต่อข้อถามว่าขณะนี้มีจังหวัดใดบ้างในภาคใต้ที่โดนเจาะมากที่สุด ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า จังหวัดตรังถือเป็นความพยายามอันดับหนึ่งที่มีมานานแล้ว แต่ว่าหลังสุดเมื่อมีการเจรจากันอย่างชัดเจนตนจึงกล้าพูด ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ทราบความเคลื่อนไหวมาบ้างแต่ก็ไม่ได้ห้าม และก็ได้บอกไปว่าหากใครต้องการไปก็ไม่ว่าอะไร ซึ่งตนได้บอกให้หัวหน้าพรรครับรู้เรื่องดังกล่าวแล้ว ส่วนในจังหวัดอื่นนั้นตนไม่ทราบในรายละเอียด ส่วนหลังจากนี้ผู้ที่ถูกทาบทามจะออกมาเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบหรือไม่นั้น ตนคิดว่าควรออกมาบอกกับประชาชน โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ของตัวเอง เมื่อถามว่าส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในส่วนของภาคใต้จะมีการย้ายพรรคหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ขณะนี้ขอยืนยันว่ายังไม่มี เพราะโดยพื้นฐานก็น่าจะรู้ว่า ส.ส.ที่ย้ายพรรคจะอยู่ยาก
เมื่อถามว่าประชาธิปัตย์ไม่มีการไปดูด ส.ส.พรรคอื่นในลักษณะนี้บ้าง ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ทำไม่ได้เพราะไม่ใช่แนวและพรรคเองก็ไม่มีเป้าหมายว่าจะต้องมีตัวเลข ส.ส. 400 เสียงขึ้น ประชาธิปัตย์คิดว่าได้ส.ส.มาเท่าไหร่ก็ต้องเท่านั้น เพราะการพุ่งเป้าหมายว่าจะได้เท่าไหร่ ในที่สุดก็ต้องไปหาคนที่ได้จริงๆ ซึ่งก็ต้องไปทำการหยั่งเสียงชาวบ้านว่าพื้นที่นี้ถ้าเลือกตั้งใครจะได้ และแทนที่จะเอาคนที่ไม่แน่ใจว่าจะชนะ ก็มาซื้อตัวคนที่คิดว่าจะชนะแน่ๆดีกว่า ซึ่งก็เป็นแนวคิดที่ว่าเป็นการลงทุนเพื่อดึงคนเหล่านี้มา ซึ่งหากทำได้ตัวเลขที่วางเป้าเอาไว้ 400 เสียงจึงจะเป็นไปได้
‘ถ้าทำแบบประชาธิปัตย์ก็จะไม่ได้ไปหยั่งเสียงก่อนว่าคนนี้จะได้หรือไม่ เหมือนอย่างกทม.พรรคไทยรักไทยก็ไม่ส่งเพราะหยั่งเสียงก่อนว่าคนที่จะลงมีโอกาสได้หรือไม่ และคนที่คิดว่าจะส่งสมัครคะแนนไม่ดีก็ตัดสินใจไม่ส่ง แต่ก็หมายความว่าเราต้องมีเงินพอที่จะไปทำถึงขนาดนั้น และมีเงินพอที่จะไปหว่านล้อมคนที่คิดว่าจะได้ แต่ในภาคใต้มันไม่เสมอไป เพราะคนที่เปลี่ยนพรรคแม้เสียงจะดีแต่วันเลือกตั้งมันอาจจะพลิกก็ได้ อย่างที่เคยเห็นในอดีตมาแล้ว แต่โดยทั่วไปแล้วมันมีความหมายทุกภาค ไม่มากก็น้อยมันมี ภาคใต้ก็มีแต่ว่ามันอาจจะมีความหมายน้อยกว่าภาคอื่นหน่อย เพราะบางคนอาจจะยึดอุดมการณ์ รวมทั้ง ส.ส.เดิมหรือพรรคการเมืองเดิม เขาก็ทำความดีมาคนก็มองเห็นอยู่ คนก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ทั้งหมดอย่างที่เราห็นว่าใช้อะไรไปแล้วก็ตามก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนคนสงขลาให้เป็นอย่างอื่นได้ ตรงนี้ผมคิดว่าเป็นจุดที่รัฐบาลก็รู้ว่าเขาอยากได้ 400 เสียงขึ้นไปเพื่ออภิปรายรมต.ไม่ได้ แต่การจะได้ 400 เสียงขึ้นไปมันไม่มีทางอื่น ทีนี้บังเอิญการเลือกตั้งสงขลามันเริ่มปรากฏขึ้นมาก่อนว่าความหวังที่จะได้ 20 เสียงในภาคใต้มันไม่แน่เสมอไป เห็นว่าทุ่มเทไปเต็มที่แล้วยังออกมาเช่นนั้น ผมคิดว่าความหวังในภาคใต้เขาคงลดลงไป ที่พูดเพราะผมต้องการให้เห็นว่ารัฐบาลพูดอย่างหนึ่งแต่ผู้ปฏิบัติก็ทำอีกอย่างหนึ่ง จึงไม่ตรงไปตรงมา ถ้าตรงไปตรงมาไม่มีใครวิจารณ์เลย บอกตรงๆเลยว่าส.ส.ประชาธิปัตย์เราอยากได้เราก็ทาบทามและเราเสนอเงื่อนไขแล้ว ถ้าบอกแบบนี้ผมจะไม่ว่าอะไรเลย’ นายชวนกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-