ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ‘ชวน หลีกภัย’ ยอมรับพรรคการเมืองทางเลือกที่ 3 ส่งผลต่อพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่หวั่นไหวอะไรเพราะเคยผ่านเหตุการณ์ทำนองนี้มาหลายครั้งแล้ว พร้อมให้ ส.ส.ที่ยังอยู่เดินหน้าทำงานต่อไป
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการจัดตั้งพรรคทางเลือกที่ 3 ที่มีกระแสข่าวว่าจะให้ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค นายอรรคพล สรสุชาติ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเลขาธิการพรรคทางเลือกที่ 3 และพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพรรคว่า ตนไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ซึ่งเท่าที่ทราบก็มาจาการติดตามข่าวจากสื่อมวลชนเท่านั้น
เมื่อถามว่าทั้งนายอรรคพลและดร.เอนกออกมายอมรับว่าเป็นเรื่องจริง นายชวนกล่าวว่า หากมีการยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง แต่ทั้งนี้ก็ควรไปถามผู้ที่ออกมายอมรับจะดีกว่า ‘ถ้าเขาออกมายืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ก็เป็นเรื่องของเขา เราไม่ทราบเพราะเขาไม่ได้บอกเรา เพราะฉะนั้นต้องไปถามเขา’ นายชวนกล่าว และยอมรับว่าหากเป็นเรื่องจริงพรรคก็ต้องสูญเสียบุคลากรที่เป็นกำลังของพรรค แต่เรื่องนี้จะจริงเท็จอย่างไรนั้นในส่วนตนไม่ทราบเรื่อง
‘ผมเห็นข่าวนี้ในหนังสือพิมพ์ว่ามีการคิดจะตั้งพรรคใหม่ และเมื่อวานก็มีคนถาม ผมก็บอกว่ามันคงจะมีพรรคที่ 2 พรรคที่ 3 พรรคที่ 4 เกิดขึ้น อาจจะมีก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมคิดว่าใครจะไปจัดตั้งพรรคใหม่ก็เป็นเรื่องของเขา ซึ่งหากประสงค์จะให้เป็นทางเลือกหรือให้ประชาชนมีโอกาสเลือกพรรคการเมืองใหม่ก็เป็นเรื่องที่ดีไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าในส่วนของพรรค ถ้าคนของพรรคออกไป แน่นอนส่วนนั้นพรรคก็ขาดกำลังคนส่วนหนึ่งไป แต่สิ่งเหล่านี้มันเรื่องของความอิสระของและคนที่เขาจะทำงานการมืองโดยการไปตั้งพรรคใหม่หรืออยู่พรรคเดิม’ นายชวนกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ที่ออกไปจัดตั้งพรรคใหม่ เป็นคนที่แตกหน่อออกไปจากพรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นจะมีการเชื่อมโยงระหว่างกันหรือไม่ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนไม่ทราบ พรรคดังกล่าวจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ตนก็ไม่ทราบ เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องสู้กับพรรคไทยรักไทยและขณะนี้ก็ยังเกิดพรรคทางเลือกใหม่ขึ้นมาอีก นายชวนกล่าวว่า อุปสรรคกับการทำงานเป็นของคู่กันซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับคนที่รักการทำงาน ‘ถ้าคนในพรรครวมกลุ่มกันทำงานก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าสมมติว่ามีการออกไปพรรคก็สูญเสียกำลังไปส่วนหนึ่งอย่างแน่นอน’ นายชวนกล่าว
เมื่อถามว่าสถานการณ์แบบนี้ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์กำลังตกต่ำหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า พรรคคงไม่ตกต่ำไปกว่านี้ เพราะอยู่ในฐานะพรรคการเมืองธรรมดาที่ทำงานมายาวนาน 50 กว่าปีก็ต้องถือว่ายืนยงมาตลอด ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งกรณีการเข้าออกของส.ส.ก็เป็นเรื่องธรรมดา ต่อข้อถามว่าขณะนี้พรรคกำลังเผชิญทั้งศึกในและศึกนอก นายชวนกล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่การทำงานจะต้องเกิดปัญหา จะให้ทุกคนคิดเหมือนกันหมดก็คงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งคิดว่าผู้ที่อยู่ในพรรคมานานจะเข้าใจและขอให้ทำงานต่อไป ส่วนสถานการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรนั้น ตนคิดว่าน่าจะปกติ ซึ่งตนในฐานะที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์มานานก็จะเห็นเหตุการณ์อย่างนี้เสมอ จึงไม่แปลกใจอะไรเพราะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
‘ผมคิดว่าการที่พรรคและคนส่วนใหญ่ในพรรคยืนหยัดทำงานตามอุดมการณ์เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ เพราะว่าท่ามกลางกระแสค่านิยมที่เปลี่ยนแปลงไป การที่พรรคการเมืองและนักการเมืองส่วนใหญ่ยืนยงอยู่ก็เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ เราจะไปหวังให้ทุกคนคิดเหมือนกันหมด ก้เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ต้องยอมรับความจริง และเราจะไปคิดว่าพรรคการเมืองที่ตั้งมาแล้วไม่มีปัญหาก็เป็นไปไม่ได้ ปัญหาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามปกติ ก็เป็นมาอย่างนี้ตลอดจึงไม่ค่อยแปลกใจอะไร แต่ว่าใครจะออกจะไปก็เสียดาย เพราะว่าทุกคนก็ร่วมงานกันมาและเป็นกำลังของพรรคทั้งสิ้น ผมบอกว่าทุกคนเป็นทรัพยากรที่มีค่าแตกต่างกันไปตามสภาพของแต่ละคน บางคนก็มีค่าในพื้นที่ บางคนก็มีค่าในภาพรวม ทุกคนมีค่าทั้งสิ้น’ นายชวนกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 2 ก.ค. 2547--จบ--
-ดท-
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการจัดตั้งพรรคทางเลือกที่ 3 ที่มีกระแสข่าวว่าจะให้ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค นายอรรคพล สรสุชาติ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเลขาธิการพรรคทางเลือกที่ 3 และพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพรรคว่า ตนไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ซึ่งเท่าที่ทราบก็มาจาการติดตามข่าวจากสื่อมวลชนเท่านั้น
เมื่อถามว่าทั้งนายอรรคพลและดร.เอนกออกมายอมรับว่าเป็นเรื่องจริง นายชวนกล่าวว่า หากมีการยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง แต่ทั้งนี้ก็ควรไปถามผู้ที่ออกมายอมรับจะดีกว่า ‘ถ้าเขาออกมายืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ก็เป็นเรื่องของเขา เราไม่ทราบเพราะเขาไม่ได้บอกเรา เพราะฉะนั้นต้องไปถามเขา’ นายชวนกล่าว และยอมรับว่าหากเป็นเรื่องจริงพรรคก็ต้องสูญเสียบุคลากรที่เป็นกำลังของพรรค แต่เรื่องนี้จะจริงเท็จอย่างไรนั้นในส่วนตนไม่ทราบเรื่อง
‘ผมเห็นข่าวนี้ในหนังสือพิมพ์ว่ามีการคิดจะตั้งพรรคใหม่ และเมื่อวานก็มีคนถาม ผมก็บอกว่ามันคงจะมีพรรคที่ 2 พรรคที่ 3 พรรคที่ 4 เกิดขึ้น อาจจะมีก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมคิดว่าใครจะไปจัดตั้งพรรคใหม่ก็เป็นเรื่องของเขา ซึ่งหากประสงค์จะให้เป็นทางเลือกหรือให้ประชาชนมีโอกาสเลือกพรรคการเมืองใหม่ก็เป็นเรื่องที่ดีไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าในส่วนของพรรค ถ้าคนของพรรคออกไป แน่นอนส่วนนั้นพรรคก็ขาดกำลังคนส่วนหนึ่งไป แต่สิ่งเหล่านี้มันเรื่องของความอิสระของและคนที่เขาจะทำงานการมืองโดยการไปตั้งพรรคใหม่หรืออยู่พรรคเดิม’ นายชวนกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ที่ออกไปจัดตั้งพรรคใหม่ เป็นคนที่แตกหน่อออกไปจากพรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นจะมีการเชื่อมโยงระหว่างกันหรือไม่ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนไม่ทราบ พรรคดังกล่าวจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ตนก็ไม่ทราบ เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องสู้กับพรรคไทยรักไทยและขณะนี้ก็ยังเกิดพรรคทางเลือกใหม่ขึ้นมาอีก นายชวนกล่าวว่า อุปสรรคกับการทำงานเป็นของคู่กันซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับคนที่รักการทำงาน ‘ถ้าคนในพรรครวมกลุ่มกันทำงานก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าสมมติว่ามีการออกไปพรรคก็สูญเสียกำลังไปส่วนหนึ่งอย่างแน่นอน’ นายชวนกล่าว
เมื่อถามว่าสถานการณ์แบบนี้ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์กำลังตกต่ำหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า พรรคคงไม่ตกต่ำไปกว่านี้ เพราะอยู่ในฐานะพรรคการเมืองธรรมดาที่ทำงานมายาวนาน 50 กว่าปีก็ต้องถือว่ายืนยงมาตลอด ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งกรณีการเข้าออกของส.ส.ก็เป็นเรื่องธรรมดา ต่อข้อถามว่าขณะนี้พรรคกำลังเผชิญทั้งศึกในและศึกนอก นายชวนกล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่การทำงานจะต้องเกิดปัญหา จะให้ทุกคนคิดเหมือนกันหมดก็คงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งคิดว่าผู้ที่อยู่ในพรรคมานานจะเข้าใจและขอให้ทำงานต่อไป ส่วนสถานการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรนั้น ตนคิดว่าน่าจะปกติ ซึ่งตนในฐานะที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์มานานก็จะเห็นเหตุการณ์อย่างนี้เสมอ จึงไม่แปลกใจอะไรเพราะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
‘ผมคิดว่าการที่พรรคและคนส่วนใหญ่ในพรรคยืนหยัดทำงานตามอุดมการณ์เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ เพราะว่าท่ามกลางกระแสค่านิยมที่เปลี่ยนแปลงไป การที่พรรคการเมืองและนักการเมืองส่วนใหญ่ยืนยงอยู่ก็เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ เราจะไปหวังให้ทุกคนคิดเหมือนกันหมด ก้เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ต้องยอมรับความจริง และเราจะไปคิดว่าพรรคการเมืองที่ตั้งมาแล้วไม่มีปัญหาก็เป็นไปไม่ได้ ปัญหาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามปกติ ก็เป็นมาอย่างนี้ตลอดจึงไม่ค่อยแปลกใจอะไร แต่ว่าใครจะออกจะไปก็เสียดาย เพราะว่าทุกคนก็ร่วมงานกันมาและเป็นกำลังของพรรคทั้งสิ้น ผมบอกว่าทุกคนเป็นทรัพยากรที่มีค่าแตกต่างกันไปตามสภาพของแต่ละคน บางคนก็มีค่าในพื้นที่ บางคนก็มีค่าในภาพรวม ทุกคนมีค่าทั้งสิ้น’ นายชวนกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 2 ก.ค. 2547--จบ--
-ดท-