เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (7 ก.ค. 47) ที่พรรคประชาธิปัตย์ หลังการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กว่า 9 ชม. ได้จัดแถลงถึงการประชุม ส.ส.พรรคฯโดยแกนนำพรรค อาทิ
นายบัญญัติ กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นการประชุมที่ใช้เวลานานที่สุดตั้งแต่ตั้งพรรคมา และเป็นการประชุมที่ได้รับความร่วมมือจากสมาชิกเป็นอย่างดี การประชุมวันนี้ประชุมถึง 4 เรื่อง โดยเรื่องแรกเป็นเรื่องของพรรคทางเลือกที่ 3 ซึ่งเมื่อวานนี้คณะผู้บริหารได้แถลงไปครั้งหนึ่งแล้ว การประชุมนัดนี้เป็นการประชุมที่สืบเนื่องต่อมาจากเมื่อวาน ซึ่งวันนี้จะให้ความชัดเจนกับสมาชิกว่า พรรคที่3 ก็คือพรรคที่ 3 พรรคประชาธิปัตย์ ก็คือพรรคประชาธิปัตย์
พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับพรรคที่ 3 และไม่ได้คิดว่านั่นเป็นเครือข่ายหรือสาขาของพรรค นั่นคือทุกพรรคต่างมีเอกเทศ ซึ่งความชัดเจนที่เกิดขึ้น จะไม่มีสมาชิกไปร่วมกับพรรคที่สาม นอกจากที่ได้ไปร่วมแล้วเท่านั้น ซึ่งเป็นคำยืนยันจากที่ประชุมในวันนี้ซึ่งค่อนข้างชัดเจนมาก ที่อยู่วันนี้ทุกคนก็พร้อมจะเสริมสร้าง ความเข้มเข็งของพรรคต่อไปอย่างเต็มที่
การประชุมเรื่องที่ 2 การเตรียมความพร้อมในการเตรียมการเลือกตั้ง เราได้เตรียมการมาพอสมควร พูดได้ว่ามีความพร้อมกว่า 80% ซึ่งมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่า เราจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งครบทั้ง 400 เขตเลือกตั้ง
เรื่องที่ 3 เป็นเรื่องที่ใช้เวลาในการประชุมมากที่สุด คือคณะผู้บริหารเปิดเวทีฟังความคิดเห็นของสมาชิกที่มาร่วมประชุม วิพากษ์วิจารณ์การบริหารการจัดการพรรค รวมทั้งระดมความคิดในการให้ข้อแนะนำในการบริหารพรรคในส่วนที่มีปัญหาอยู่ รวมถึงส่วนที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์การเลือกตั้งด้วย
“ผมคิดว่าเวลาส่วนใหญ่ที่เราใช้ในการประชุมกว่า 75% ของเวลาทั้งหมด ซึ่งคณะผู้บริหารได้รับฟังความคิดเห็นของสมาชิก ทั้งในเรื่องการบริหารจัดการ การจัดการปัญหาต่างๆ และมีเรื่องสำคัญหลายเรื่องตลอดถึงยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง ”
ซึ่งจากแนวคิดดังกล่าวจะได้นำไปปรับปรุงในส่วนของการบริหารจัดการ ให้มีความข้องตัวมากขึ้น รวมทั้งการบริหารการจัดการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง ซึ่งพรรคก็ได้เตรียมการมาตลอดให้มีความรัดกุม รอบคอบและเข้มแข็งมากขึ้น
เรื่องที่ 4 เป็นเรื่องที่น่าสบายใจที่สุดคือ ขณะนี้มีบุคคลหลายคนยืนยันที่จะอาสาช่วยพรรคอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นภายใต้ความร่วมมือและความตั้งใจที่ได้หารือในวันนี้ จะนำไปสู่ความเข้มแข็งของพรรคอย่างแน่นอน
ต่อข้อถามที่ว่า มีใครบ้างที่จะเข้ามาขันอาสาช่วยพรรค นายบัญญัติกล่าวว่า ตนคิดว่าคำตอบในส่วนนี้จะเห็นอย่างเป็นรูปธรรมในหนึ่งถึงสองสัปดาห์และจะมีการมอบหมายอย่างเป็นสัดส่วนจะได้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งมีหลักประกันจากคำมั่นสัญญาที่ได้พูดกันในวันนี้
ต่อคำถามที่ว่ากรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ให้สัมภาษณ์ไล่นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ซี่งนายบัญญัติตอบว่าวันนี้ยังไม่ได้พบกับนายศิริวัฒน์ ในกรณีการให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.สนั่นที่ผ่านมา ขอยืนยันว่าไม่มีการขับไล่แต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตนคิดว่า นายศิริวัฒน์ จะอยู่กับพรรคหรือจะย้ายไปอยู่พรรคไหน เพราะเป็นสิทธิของสมาชิกฯ
ส่วนกรณีกระแสที่บอกว่าหากพรรคประชาธิปัตย์สงบ พล.ต.สนั่นอาจย้ายกลับเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคฯ อีกครั้ง นายบัญญัติ กล่าวว่าเป็นการกล่าวทีเล่นทีจริง ส่วนสมาชิกพรรคฯ คนอื่นๆ จะย้ายไปอยู่พรรคอื่นนั้น นายบัญญัติกล่าวยืนยันว่าไม่มีแน่นอน
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรคฯ กล่าวว่า จากที่ได้รับฟังความคิดเห็นของเพื่อนสมาชิกในวันนี้ คณะบริหารและสมาชิกได้ขอความชัดเจนจากตน ในกรณีที่มีความสนิทสนมกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รวมถึงนายอรรคพล สรสุชาติ นั้น ผมขอยืนยันว่าตลอดระยะเวลา 1 ปีกว่าที่ได้ทำงานให้กับพรรคฯ ในตำแหน่งเลขาธิการพรรค เมื่อสมาชิกได้เลือกให้มาเป็นเลขาธิการพรรค ตนขอทำงานให้พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนเรื่องความสนิทสนมกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์นั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งได้ยืนยันกับหัวหน้าพรรคฯ ไปหลายครั้งแล้วว่า จะขออยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานเพื่อพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป
ต่อข้อซักถามที่ว่า หากถูกกดดันจากสมาชิกในพรรคฯ จะทำอย่างไร เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าเรื่องความกดดันนั้น ตนคิดว่ามันเป็นความรู้สึกของความสงสัยในกรณีความสนิทสนมกับ พล.ต.สนั่น จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าจะสามารถแยกแยะเรื่องดังกล่าวได้หรือไม่ ซึ่งก็ขอตอบว่า ตลอดเวลา 1 ปีที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค ตนได้แยกเรื่องส่วนตัวกับหน้าที่ เพราะตนทำงานให้กับพรรคประชาธิปัตย์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าจากการประชุมที่ใช้เวลานานพอสมควร ซึ่งมีสมาชิกอยู่ครบถ้วนถึง 9 ช.ม. ซึ่งยืนยันว่าเป็นเอกลักษณ์ของประชาธิปัตย์ ซึ่งไม่มีพรรคไหนทำได้อย่างพรรคเรา
เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า มากกว่าการแสดงสัตยาบันอันใด เพราะหาก ส.ส. ไม่มีใจที่จะร่วมในการประชุม ไม่มีใจที่จะสร้างพรรคต่อไป ก็คงไม่มีใครอยู่ร่วมกันอย่างนี้ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ตนเชื่อว่า แม้จะมีความเห็นที่หลากหลาย เพราะพรรคเรามีความเป็นประชาธิปไตย เพราะ ส.ส.ของเราเป็นตัวแทนประชาชน ไม่ใช่ลูกจ้างของใคร และการประชุมที่ใช้ระยะเวลายาวนาน เพราะภารกิจของพรรคไม่ใช่แค่เพียงการเลือกตั้ง แต่ภารกิจของฝ่ายค้านในเรื่องการตรวจสอบรัฐบาล มีหลายเรื่องที่พรรคจะต้องตรวจสอบให้สังคมได้เห็นไม่ว่าจะเป็นเรื่องเขตการค้าเสรี (FTA) การยึดสื่อต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องทำให้ดีที่สุด และตนขอยืนยันว่าไม่ว่าอะไรทางการเมืองจะเกิดขึ้นก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังยืนยันคงเป็นสถาบันทางการเมือง ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นสถาบันการเมืองที่แตกต่างจากพรรคอื่น
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 7 ก.ค. 2547--จบ--
-ดท-
นายบัญญัติ กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นการประชุมที่ใช้เวลานานที่สุดตั้งแต่ตั้งพรรคมา และเป็นการประชุมที่ได้รับความร่วมมือจากสมาชิกเป็นอย่างดี การประชุมวันนี้ประชุมถึง 4 เรื่อง โดยเรื่องแรกเป็นเรื่องของพรรคทางเลือกที่ 3 ซึ่งเมื่อวานนี้คณะผู้บริหารได้แถลงไปครั้งหนึ่งแล้ว การประชุมนัดนี้เป็นการประชุมที่สืบเนื่องต่อมาจากเมื่อวาน ซึ่งวันนี้จะให้ความชัดเจนกับสมาชิกว่า พรรคที่3 ก็คือพรรคที่ 3 พรรคประชาธิปัตย์ ก็คือพรรคประชาธิปัตย์
พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับพรรคที่ 3 และไม่ได้คิดว่านั่นเป็นเครือข่ายหรือสาขาของพรรค นั่นคือทุกพรรคต่างมีเอกเทศ ซึ่งความชัดเจนที่เกิดขึ้น จะไม่มีสมาชิกไปร่วมกับพรรคที่สาม นอกจากที่ได้ไปร่วมแล้วเท่านั้น ซึ่งเป็นคำยืนยันจากที่ประชุมในวันนี้ซึ่งค่อนข้างชัดเจนมาก ที่อยู่วันนี้ทุกคนก็พร้อมจะเสริมสร้าง ความเข้มเข็งของพรรคต่อไปอย่างเต็มที่
การประชุมเรื่องที่ 2 การเตรียมความพร้อมในการเตรียมการเลือกตั้ง เราได้เตรียมการมาพอสมควร พูดได้ว่ามีความพร้อมกว่า 80% ซึ่งมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่า เราจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งครบทั้ง 400 เขตเลือกตั้ง
เรื่องที่ 3 เป็นเรื่องที่ใช้เวลาในการประชุมมากที่สุด คือคณะผู้บริหารเปิดเวทีฟังความคิดเห็นของสมาชิกที่มาร่วมประชุม วิพากษ์วิจารณ์การบริหารการจัดการพรรค รวมทั้งระดมความคิดในการให้ข้อแนะนำในการบริหารพรรคในส่วนที่มีปัญหาอยู่ รวมถึงส่วนที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์การเลือกตั้งด้วย
“ผมคิดว่าเวลาส่วนใหญ่ที่เราใช้ในการประชุมกว่า 75% ของเวลาทั้งหมด ซึ่งคณะผู้บริหารได้รับฟังความคิดเห็นของสมาชิก ทั้งในเรื่องการบริหารจัดการ การจัดการปัญหาต่างๆ และมีเรื่องสำคัญหลายเรื่องตลอดถึงยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง ”
ซึ่งจากแนวคิดดังกล่าวจะได้นำไปปรับปรุงในส่วนของการบริหารจัดการ ให้มีความข้องตัวมากขึ้น รวมทั้งการบริหารการจัดการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง ซึ่งพรรคก็ได้เตรียมการมาตลอดให้มีความรัดกุม รอบคอบและเข้มแข็งมากขึ้น
เรื่องที่ 4 เป็นเรื่องที่น่าสบายใจที่สุดคือ ขณะนี้มีบุคคลหลายคนยืนยันที่จะอาสาช่วยพรรคอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นภายใต้ความร่วมมือและความตั้งใจที่ได้หารือในวันนี้ จะนำไปสู่ความเข้มแข็งของพรรคอย่างแน่นอน
ต่อข้อถามที่ว่า มีใครบ้างที่จะเข้ามาขันอาสาช่วยพรรค นายบัญญัติกล่าวว่า ตนคิดว่าคำตอบในส่วนนี้จะเห็นอย่างเป็นรูปธรรมในหนึ่งถึงสองสัปดาห์และจะมีการมอบหมายอย่างเป็นสัดส่วนจะได้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งมีหลักประกันจากคำมั่นสัญญาที่ได้พูดกันในวันนี้
ต่อคำถามที่ว่ากรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ให้สัมภาษณ์ไล่นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ซี่งนายบัญญัติตอบว่าวันนี้ยังไม่ได้พบกับนายศิริวัฒน์ ในกรณีการให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.สนั่นที่ผ่านมา ขอยืนยันว่าไม่มีการขับไล่แต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตนคิดว่า นายศิริวัฒน์ จะอยู่กับพรรคหรือจะย้ายไปอยู่พรรคไหน เพราะเป็นสิทธิของสมาชิกฯ
ส่วนกรณีกระแสที่บอกว่าหากพรรคประชาธิปัตย์สงบ พล.ต.สนั่นอาจย้ายกลับเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคฯ อีกครั้ง นายบัญญัติ กล่าวว่าเป็นการกล่าวทีเล่นทีจริง ส่วนสมาชิกพรรคฯ คนอื่นๆ จะย้ายไปอยู่พรรคอื่นนั้น นายบัญญัติกล่าวยืนยันว่าไม่มีแน่นอน
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรคฯ กล่าวว่า จากที่ได้รับฟังความคิดเห็นของเพื่อนสมาชิกในวันนี้ คณะบริหารและสมาชิกได้ขอความชัดเจนจากตน ในกรณีที่มีความสนิทสนมกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รวมถึงนายอรรคพล สรสุชาติ นั้น ผมขอยืนยันว่าตลอดระยะเวลา 1 ปีกว่าที่ได้ทำงานให้กับพรรคฯ ในตำแหน่งเลขาธิการพรรค เมื่อสมาชิกได้เลือกให้มาเป็นเลขาธิการพรรค ตนขอทำงานให้พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนเรื่องความสนิทสนมกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์นั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งได้ยืนยันกับหัวหน้าพรรคฯ ไปหลายครั้งแล้วว่า จะขออยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานเพื่อพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป
ต่อข้อซักถามที่ว่า หากถูกกดดันจากสมาชิกในพรรคฯ จะทำอย่างไร เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าเรื่องความกดดันนั้น ตนคิดว่ามันเป็นความรู้สึกของความสงสัยในกรณีความสนิทสนมกับ พล.ต.สนั่น จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าจะสามารถแยกแยะเรื่องดังกล่าวได้หรือไม่ ซึ่งก็ขอตอบว่า ตลอดเวลา 1 ปีที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค ตนได้แยกเรื่องส่วนตัวกับหน้าที่ เพราะตนทำงานให้กับพรรคประชาธิปัตย์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าจากการประชุมที่ใช้เวลานานพอสมควร ซึ่งมีสมาชิกอยู่ครบถ้วนถึง 9 ช.ม. ซึ่งยืนยันว่าเป็นเอกลักษณ์ของประชาธิปัตย์ ซึ่งไม่มีพรรคไหนทำได้อย่างพรรคเรา
เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า มากกว่าการแสดงสัตยาบันอันใด เพราะหาก ส.ส. ไม่มีใจที่จะร่วมในการประชุม ไม่มีใจที่จะสร้างพรรคต่อไป ก็คงไม่มีใครอยู่ร่วมกันอย่างนี้ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ตนเชื่อว่า แม้จะมีความเห็นที่หลากหลาย เพราะพรรคเรามีความเป็นประชาธิปไตย เพราะ ส.ส.ของเราเป็นตัวแทนประชาชน ไม่ใช่ลูกจ้างของใคร และการประชุมที่ใช้ระยะเวลายาวนาน เพราะภารกิจของพรรคไม่ใช่แค่เพียงการเลือกตั้ง แต่ภารกิจของฝ่ายค้านในเรื่องการตรวจสอบรัฐบาล มีหลายเรื่องที่พรรคจะต้องตรวจสอบให้สังคมได้เห็นไม่ว่าจะเป็นเรื่องเขตการค้าเสรี (FTA) การยึดสื่อต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องทำให้ดีที่สุด และตนขอยืนยันว่าไม่ว่าอะไรทางการเมืองจะเกิดขึ้นก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังยืนยันคงเป็นสถาบันทางการเมือง ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นสถาบันการเมืองที่แตกต่างจากพรรคอื่น
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 7 ก.ค. 2547--จบ--
-ดท-