นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดเผยว่า การส่งออกมันสำปะหลัง
ในช่วงเดือนมิถุนายน 2547 นั้น มีการชะลอตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากอยู่ในช่วงปลายฤดูกาลเพาะปลูก ปริมาณ
หัวมันสดที่เข้าสู่กระบวนการแปรรูปเพื่อส่งออกจึงน้อยลง แต่ทั้งนี้เมื่อพิจารณาข้อมูลในภาพรวมตั้งแต่เดือน
มกราคม - มิถุนายน 2547 พบว่าการส่งออกยังคงขยายร้อยละ 21.76 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี
2546 โดยมีมูลค่าการส่งออกรวมประมาณ 15,860 ล้านบาท โดยจำแนกเป็นการส่งออกมันเส้นจำนวน 1.29
ล้านตัน มูลค่า 3,689.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2546 ร้อยละ 15.42 และ 14.92
ตามลำดับ และส่งออกในรูปมันอัดเม็ดจำนวน 1.55 ล้านตัน มูลค่า 4,451.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2546
ร้อยละ 82.53 และ 99.05 ตามลำดับ โดยมีตลาดหลักในการส่งออกมันเส้นและมันอัดเม็ด คือ ตลาดจีน
สหภาพยุโรป สวิตเซอร์แลนด์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น สำหรับการส่งออกแป้งมันสำปะหลัง ตั้งแต่เดือนมกราคม -
พฤษภาคม 2547 มีการส่งออกในรูปของแป้งมันสำปะหลังดิบประมาณ 0.49 ล้านตัน มูลค่า 3,328.93 ล้าน
บาท ตลาดหลักได้แก่ ตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก ได้แก่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น มาเลเซีย จีน อินโดนีเซีย
และฮ่องกง และมีการส่งออกในรูปแป้งมันสำปะหลังแปรรูปประมาณ 0.26 ล้านตัน มูลค่า 4,072.49 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.36 และ 3.88 ตามลำดับ ในตลาดหลัก คือ ตลาดญี่ปุ่น จีน เนเธอร์แลนด์ และอินโดนีเซีย
อีกทั้ง ยังมีการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในรูปเม็ดสาคู และกากมันสำปะหลัง เป็นมูลค่ากว่า 317 ล้านบาท
ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2546 ร้อยละ 97.09
นอกจากนี้ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ยังเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในส่วนของตลาดต่าง
ประเทศนั้น ตลาดจีนและสหภาพยุโปรยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีสำหรับการส่งออกสินค้ามันสำปะหลังไทย แต่มีข่าวดี คือ
รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ประกาศขยายโควตาอัตราภาษีพิเศษภายใต้ความตกลงองค์การการค้าโลก ในการนำเข้า
ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังสำหรับปี 2547 เพื่อรองรับอุตสาหกรรมภายในประเทศ โดยแป้งมันสำปะหลังดิบพิกัดฯ
1108.14 ได้ขยายโควตาเพิ่มขึ้นจาก 2,400 ตัน เป็น 9,200 ตัน ภายใต้อัตราภาษีพิเศษที่ร้อยละ 9 (
อัตราภาษีปกติร้อยละ 455) ส่วนแป้งมันสำปะหลังแปรรูป พิกัดฯ 3505.10.90 ขยายโควตาเพิ่มขึ้นจาก
45,692 ตัน เป็น 102,440 ตัน ภายใต้อัตราภาษีพิเศษร้อยละ 8 (อัตราภาษีปกติร้อยละ 385.7) โดยมีผล
ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2547 เป็นต้นไป แต่ทั้งนี้ ผู้ส่งออกต้องให้ความเอาใจใส่ต่อคุณภาพมาตรฐานของสินค้า ให้
เป็นไปตามมาตรฐานการส่งออก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้นำเข้าและผู้ใช้ต่อไป เพราะปัจจุบันเกาหลีใต้มี
การนำเข้าจากไทยอยู่แล้ว โดยในส่วนของแป้งดิบนั้น มีการนำเข้าเฉลี่ยปีละประมาณ 7,250 ตัน คิดเป็น
มูลค่ากว่า 70 ล้านบาทต่อปี ซึ่งมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 40.85 ต่อปี ส่วนแป้งแปรรูป มีการนำเข้า
เฉลี่ยปีละประมาณ 12,669 ตัน มูลค่าถึง 265 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 74.47 ต่อปี
ดังนั้น จึงเป็นโอกาสอันดีของผู้ส่งออกไทยที่จะขยายการส่งออกไปยังตลาดเกาหลีใต้
--กรมการค้าต่างประเทศ กรกฎาคม 2547--
-สส-
ในช่วงเดือนมิถุนายน 2547 นั้น มีการชะลอตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากอยู่ในช่วงปลายฤดูกาลเพาะปลูก ปริมาณ
หัวมันสดที่เข้าสู่กระบวนการแปรรูปเพื่อส่งออกจึงน้อยลง แต่ทั้งนี้เมื่อพิจารณาข้อมูลในภาพรวมตั้งแต่เดือน
มกราคม - มิถุนายน 2547 พบว่าการส่งออกยังคงขยายร้อยละ 21.76 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี
2546 โดยมีมูลค่าการส่งออกรวมประมาณ 15,860 ล้านบาท โดยจำแนกเป็นการส่งออกมันเส้นจำนวน 1.29
ล้านตัน มูลค่า 3,689.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2546 ร้อยละ 15.42 และ 14.92
ตามลำดับ และส่งออกในรูปมันอัดเม็ดจำนวน 1.55 ล้านตัน มูลค่า 4,451.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2546
ร้อยละ 82.53 และ 99.05 ตามลำดับ โดยมีตลาดหลักในการส่งออกมันเส้นและมันอัดเม็ด คือ ตลาดจีน
สหภาพยุโรป สวิตเซอร์แลนด์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น สำหรับการส่งออกแป้งมันสำปะหลัง ตั้งแต่เดือนมกราคม -
พฤษภาคม 2547 มีการส่งออกในรูปของแป้งมันสำปะหลังดิบประมาณ 0.49 ล้านตัน มูลค่า 3,328.93 ล้าน
บาท ตลาดหลักได้แก่ ตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก ได้แก่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น มาเลเซีย จีน อินโดนีเซีย
และฮ่องกง และมีการส่งออกในรูปแป้งมันสำปะหลังแปรรูปประมาณ 0.26 ล้านตัน มูลค่า 4,072.49 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.36 และ 3.88 ตามลำดับ ในตลาดหลัก คือ ตลาดญี่ปุ่น จีน เนเธอร์แลนด์ และอินโดนีเซีย
อีกทั้ง ยังมีการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในรูปเม็ดสาคู และกากมันสำปะหลัง เป็นมูลค่ากว่า 317 ล้านบาท
ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2546 ร้อยละ 97.09
นอกจากนี้ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ยังเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในส่วนของตลาดต่าง
ประเทศนั้น ตลาดจีนและสหภาพยุโปรยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีสำหรับการส่งออกสินค้ามันสำปะหลังไทย แต่มีข่าวดี คือ
รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ประกาศขยายโควตาอัตราภาษีพิเศษภายใต้ความตกลงองค์การการค้าโลก ในการนำเข้า
ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังสำหรับปี 2547 เพื่อรองรับอุตสาหกรรมภายในประเทศ โดยแป้งมันสำปะหลังดิบพิกัดฯ
1108.14 ได้ขยายโควตาเพิ่มขึ้นจาก 2,400 ตัน เป็น 9,200 ตัน ภายใต้อัตราภาษีพิเศษที่ร้อยละ 9 (
อัตราภาษีปกติร้อยละ 455) ส่วนแป้งมันสำปะหลังแปรรูป พิกัดฯ 3505.10.90 ขยายโควตาเพิ่มขึ้นจาก
45,692 ตัน เป็น 102,440 ตัน ภายใต้อัตราภาษีพิเศษร้อยละ 8 (อัตราภาษีปกติร้อยละ 385.7) โดยมีผล
ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2547 เป็นต้นไป แต่ทั้งนี้ ผู้ส่งออกต้องให้ความเอาใจใส่ต่อคุณภาพมาตรฐานของสินค้า ให้
เป็นไปตามมาตรฐานการส่งออก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้นำเข้าและผู้ใช้ต่อไป เพราะปัจจุบันเกาหลีใต้มี
การนำเข้าจากไทยอยู่แล้ว โดยในส่วนของแป้งดิบนั้น มีการนำเข้าเฉลี่ยปีละประมาณ 7,250 ตัน คิดเป็น
มูลค่ากว่า 70 ล้านบาทต่อปี ซึ่งมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 40.85 ต่อปี ส่วนแป้งแปรรูป มีการนำเข้า
เฉลี่ยปีละประมาณ 12,669 ตัน มูลค่าถึง 265 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 74.47 ต่อปี
ดังนั้น จึงเป็นโอกาสอันดีของผู้ส่งออกไทยที่จะขยายการส่งออกไปยังตลาดเกาหลีใต้
--กรมการค้าต่างประเทศ กรกฎาคม 2547--
-สส-