แท็ก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
พรรคประชาธิปัตย์
เอกพจน์ ปานแย้ม
ประดิษฐ์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ลาออกหลายคนว่า ได้รับทราบการลาออกของ ส.ส. ของพรรคฯ 3 คน คือนายเอกพจน์ ปานแย้ม ส.ส.ปทุมธานี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.สิงห์บุรี และนายไพศาล จันทวารา ส.ส.อำนาจเจริญ ซึ่งตนเคยพูดไปแล้วว่าจะมี ส.ส.ลาออกจำนวนหนึ่ง และคงไม่ออกไปอยู่พรรคไทยรักไทย ดังนั้นการที่นายเอกพจน์และนายชัยวุฒิจะย้ายไปพรรคชาติไทย จึงเป็นเรื่องที่ไม่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย ดังนั้นรองหัวหน้าพรรคฯที่รับผิดชอบดูแลในพื้นที่ต่างๆ ก็ได้มีการประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา จึงมีการเตรียมความพร้อมในการส่งผู้สมัครฯลงรับเลือกตั้งไว้แล้ว
‘แต่ละคนอาจจะมีเหตุผลแตกต่างกันไป ผมว่าคุณเอกพจน์เป็นผู้ที่ให้สัมภาษณ์ค่อนข้างละเอียด เรื่องนี้เขาบอกว่ามีหลายปัจจัยประกอบกัน ในส่วนของคุณชัยวุฒินั้นก็ดูจะมีเงื่อนไขพิเศษเพิ่มขึ้นมา ตรงที่ว่าในจังหวัดสิงห์บุรีจะยุบเหลือ 1 เขตเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นก็มีปัญหาการแข่งขันดุเดือดเข้มข้นขึ้น และอาจจะเป็นเงื่อนไขพื้นที่ส่วนหนึ่งด้วย ส่วนกรณีคุณไพศาลยังไม่ได้สอบถามกันอย่างจริงจัง ’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
สำหรับคำวิจารณ์ที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ช่วงนี้เลือดไหลไม่หยุดนั้น รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนได้เคยพูดอย่างตรงไปตรงมาแล้วว่า จะต้องมี ส.ส. ลาออกหรือย้ายพรรค ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาก่อนการเลือกตั้ง แต่ว่าทางผู้บริหารก็ต้องเร่งดำเนินการทบทวนว่าจะให้พรรคประชาธิปัตย์เดินต่อไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งได้อย่างไร ‘ เป็นธรรมดาครับ มีมรสุมบ้าง สะดุดบ้าง มีปัญหาบ้าง ก็ต้องแก้ไขกันไป สำคัญคือการดำรงไว้ในความเป็นสถาบันทางการเมืองของพรรค ’ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมรับประทานอาหารกับ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ร่วมด้วยนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่คนในวงการเมืองจะพบปะกัน ทั้งนี้ตนคิดว่าเมื่อเลขาธิการพรรคฯยืนยันชัดเจนว่ามีความตั้งใจที่จะทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ก็คงไม่น่าจะไปทำอะไรที่อยู่นอกเหนือแนวทางของพรรคฯ ซึ่งพรรคฯก็ไม่ได้มีความหวั่นไหวในเรื่องนี้
สำหรับที่มีการวิจารณ์กันว่านายอภิสิทธิ์อาจจะต้องรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เร็วขึ้นนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนได้ยืนยันและพูดในที่ประชุมชัดเจนไปแล้วว่าไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงพรรคฯในขณะนี้ ‘ในยามนี้คงไม่ใช่เวลาที่ผมจะคิดเปลี่ยนแปลงหรือขับไสไล่ส่งหัวหน้าพรรคฯ แต่ว่าถ้าท่านหัวหน้าท่านได้แสดงความชัดเจนแล้วว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าทำการเมืองตามแนวทางของพรรค ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องอะไรกับพรรคการเมืองใหม่ทั้งสิ้น แยกการบริหารออกจากกันโดยเด็ดขาด ผมก็มีหน้าที่ที่จะช่วยเหลือท่านในการทำงานให้กับพรรคอย่างเต็มที่ต่อไป‘ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 14 ก.ค. 2547--จบ--
-ดท-
‘แต่ละคนอาจจะมีเหตุผลแตกต่างกันไป ผมว่าคุณเอกพจน์เป็นผู้ที่ให้สัมภาษณ์ค่อนข้างละเอียด เรื่องนี้เขาบอกว่ามีหลายปัจจัยประกอบกัน ในส่วนของคุณชัยวุฒินั้นก็ดูจะมีเงื่อนไขพิเศษเพิ่มขึ้นมา ตรงที่ว่าในจังหวัดสิงห์บุรีจะยุบเหลือ 1 เขตเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นก็มีปัญหาการแข่งขันดุเดือดเข้มข้นขึ้น และอาจจะเป็นเงื่อนไขพื้นที่ส่วนหนึ่งด้วย ส่วนกรณีคุณไพศาลยังไม่ได้สอบถามกันอย่างจริงจัง ’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
สำหรับคำวิจารณ์ที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ช่วงนี้เลือดไหลไม่หยุดนั้น รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนได้เคยพูดอย่างตรงไปตรงมาแล้วว่า จะต้องมี ส.ส. ลาออกหรือย้ายพรรค ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาก่อนการเลือกตั้ง แต่ว่าทางผู้บริหารก็ต้องเร่งดำเนินการทบทวนว่าจะให้พรรคประชาธิปัตย์เดินต่อไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งได้อย่างไร ‘ เป็นธรรมดาครับ มีมรสุมบ้าง สะดุดบ้าง มีปัญหาบ้าง ก็ต้องแก้ไขกันไป สำคัญคือการดำรงไว้ในความเป็นสถาบันทางการเมืองของพรรค ’ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมรับประทานอาหารกับ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ร่วมด้วยนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่คนในวงการเมืองจะพบปะกัน ทั้งนี้ตนคิดว่าเมื่อเลขาธิการพรรคฯยืนยันชัดเจนว่ามีความตั้งใจที่จะทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ก็คงไม่น่าจะไปทำอะไรที่อยู่นอกเหนือแนวทางของพรรคฯ ซึ่งพรรคฯก็ไม่ได้มีความหวั่นไหวในเรื่องนี้
สำหรับที่มีการวิจารณ์กันว่านายอภิสิทธิ์อาจจะต้องรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เร็วขึ้นนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนได้ยืนยันและพูดในที่ประชุมชัดเจนไปแล้วว่าไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงพรรคฯในขณะนี้ ‘ในยามนี้คงไม่ใช่เวลาที่ผมจะคิดเปลี่ยนแปลงหรือขับไสไล่ส่งหัวหน้าพรรคฯ แต่ว่าถ้าท่านหัวหน้าท่านได้แสดงความชัดเจนแล้วว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าทำการเมืองตามแนวทางของพรรค ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องอะไรกับพรรคการเมืองใหม่ทั้งสิ้น แยกการบริหารออกจากกันโดยเด็ดขาด ผมก็มีหน้าที่ที่จะช่วยเหลือท่านในการทำงานให้กับพรรคอย่างเต็มที่ต่อไป‘ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 14 ก.ค. 2547--จบ--
-ดท-