นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองวันนี้ การเมืองของประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคอันตราย เพราะขณะนี้การเมืองเป็นเรื่องของการใช้เงิน เพื่อการแสวงหาอำนาจ และใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์ เพื่อครองอำนาจให้ยาวนาน
‘วงจรในลักษณะนี้ เป็นวงจรที่เลวร้ายยิ่งกว่าวงจรอุบาทว์ที่เคยเกิดในประเทศไทย แต่วงจรที่กำลังเกิดขึ้นในการเมืองไทยในขณะนี้ เป็นวงจรนรก ซึ่งจะทำให้ประชาชนไทยตกนรกโดยไม่รู้ตัว ตกนรก ทั้งๆที่มีความรู้สึกว่าอยู่ในสวรรค์’นายองอาจกล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องอันตรายมากสำหรับการเมืองไทย ที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือ ทั้งสังคม นักการเมือง แทบไม่มีความรู้สึกว่าพยายามการใช้เงินในการแสวงหาอำนาจ และไปใช้อำนาจในการเข้าไปกอบโกยผลประโยชน์ ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบทุจริตเชิงนโยบาย ซึ่งกำลังถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติทางสังคม
จากการติดตามการความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในขณะนี้พรรคฯเห็นว่าขณะนี้รัฐบาลพรรคไทยรักไทย ไม่เพียงตั้งเป้าหมายเพียง 400 เสียง เพื่อหลีกเลี่ยงการอภิปรายฯ แต่เป้าหมายที่สำคัญคือพยายามที่จะดูดส.ส ไปจากพรรคประชาธิปัตย์ เพิ่มมากขึ้น ทั้งที่จำนวนส.ส.ของไทยรักไทย ก็มากเกินกว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ปรากฎว่ารัฐบาลพยายามเข้าไปดูด ส.ส.ในพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะในบางจังหวัดในภาคใต้
จุดมุ่งหมายของรัฐบาลไทยรักไทย มีความพยายามจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์สูญพันธ์ไปจากการเมืองไทย จึงมีความพยายามใช้วิธีดูด ส.ส.ประชาธิปัตย์ ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งตนคิดว่าวิธีการของรัฐบาลโดยการนำของพรรคไทยรักไทย เป็นความพยายามให้พรรคประชาธิปัตย์ หมดโอกาสที่จะทำงานทางการเมือง ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ขอยืนยันกับประชาชนว่า ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ จำนวนไม่น้อย ที่กำลังถูกดูด ยังมีความแน่วแน่ มั่นคง ที่จะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อดำเนินการตามอุดมการณ์ที่จะรับใช้ประชาชน ต่อไป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 25 ก.ค. 2547--จบ--
-ดท-
‘วงจรในลักษณะนี้ เป็นวงจรที่เลวร้ายยิ่งกว่าวงจรอุบาทว์ที่เคยเกิดในประเทศไทย แต่วงจรที่กำลังเกิดขึ้นในการเมืองไทยในขณะนี้ เป็นวงจรนรก ซึ่งจะทำให้ประชาชนไทยตกนรกโดยไม่รู้ตัว ตกนรก ทั้งๆที่มีความรู้สึกว่าอยู่ในสวรรค์’นายองอาจกล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องอันตรายมากสำหรับการเมืองไทย ที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือ ทั้งสังคม นักการเมือง แทบไม่มีความรู้สึกว่าพยายามการใช้เงินในการแสวงหาอำนาจ และไปใช้อำนาจในการเข้าไปกอบโกยผลประโยชน์ ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบทุจริตเชิงนโยบาย ซึ่งกำลังถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติทางสังคม
จากการติดตามการความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในขณะนี้พรรคฯเห็นว่าขณะนี้รัฐบาลพรรคไทยรักไทย ไม่เพียงตั้งเป้าหมายเพียง 400 เสียง เพื่อหลีกเลี่ยงการอภิปรายฯ แต่เป้าหมายที่สำคัญคือพยายามที่จะดูดส.ส ไปจากพรรคประชาธิปัตย์ เพิ่มมากขึ้น ทั้งที่จำนวนส.ส.ของไทยรักไทย ก็มากเกินกว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ปรากฎว่ารัฐบาลพยายามเข้าไปดูด ส.ส.ในพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะในบางจังหวัดในภาคใต้
จุดมุ่งหมายของรัฐบาลไทยรักไทย มีความพยายามจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์สูญพันธ์ไปจากการเมืองไทย จึงมีความพยายามใช้วิธีดูด ส.ส.ประชาธิปัตย์ ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งตนคิดว่าวิธีการของรัฐบาลโดยการนำของพรรคไทยรักไทย เป็นความพยายามให้พรรคประชาธิปัตย์ หมดโอกาสที่จะทำงานทางการเมือง ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ขอยืนยันกับประชาชนว่า ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ จำนวนไม่น้อย ที่กำลังถูกดูด ยังมีความแน่วแน่ มั่นคง ที่จะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อดำเนินการตามอุดมการณ์ที่จะรับใช้ประชาชน ต่อไป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 25 ก.ค. 2547--จบ--
-ดท-