แท็ก
SME
ในยุคที่สมุนไพรไทยเป็นที่นิยม ธุรกิจหลายประเภทได้นำสมุนไพรไทยในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้กับสินค้าต่างๆ มากมาย ทั้งสินค้ากลุ่มสปาที่มาแรงอย่างฉุดไม่อยู่ก็อาศัยสมุนไพรไทยสารพัดเป็นส่วนผสม เครื่องดื่มสมุนไพรหลายชนิดได้ทยอยออกสู่ตลาด รวมถึงธุรกิจชาสมุนไพรไทยที่เป็นธุรกิจที่ผู้ประกอบการ SME ให้ความสนใจและยังมองเห็นช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งสินค้ากลุ่มชาสมุนไพรยังเป็นสินค้าหนึ่งที่ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากภาครัฐทั้งกรมส่งเสริมการส่งออกและกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งผู้ประกอบการ SME จำนวนไม่น้อยที่สามารถเข้าสู่ธุรกิจนี้ได้โดยไม่ยากนัก
Tea Time Today เป็นผู้ประกอบการ SME รายหนึ่งที่เลือกประกอบธุรกิจชาสมุนไพรจาก การเป็นผู้ชอบดื่มชา ทั้งชาไทยและชาจากประเทศต่างๆ รวมทั้งนิยมสมุนไพรไทยที่นำมาทำเป็นเครื่องดื่ม จึงเกิดความคิดที่จะนำใบชาแท้ๆ มาลองผสมกับสมุนไพรไทยหลายๆ ชนิดที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย ซึ่งพบว่ามีรสชาดลงตัวอยู่หลายชนิดด้วยกัน แต่เนื่องจากในตลาดมีชาสมุนไพรอยู่มากมาย ทั้งชาไทยและชานำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ต้องใช้เวลาศึกษาข้อมูลตลาดชาในประเทศอย่างละเอียด โดยคิดว่าหากจะผลิตชาสู่ตลาดคงจะไม่ใช่เรื่องง่าย หากสินค้าไม่มีความแตกต่างจากชาสมุนไพรที่มีจำหน่ายในท้องตลาด จึงได้ปรึกษาและสอบถามข้อมูลทั้งจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและจากผู้ผลิตใบชาในประเทศ จนได้วัตถุดิบใบชาแท้ๆ ที่ผลิตในประเทศไทย นำมาผสมกับสมุนไพรไทยหลายๆ ชนิด ออกมาเป็นชาที่ผสมผสานกับรสชาดของสมุนไพรไทยแท้ๆ ที่มีทั้งความหอมของกลิ่นใบชาและความหอมของกลิ่นสมุนไพรไทยได้อย่างลงตัว และได้ทดลองตลาดในขั้นแรกมี 3 รสชาดให้เลือกดื่ม ได้แก่ ชาดำ ชาแดง ชาเขียว ซึ่งชาผสมสมุนไพรทั้ง 3 รสชาดมีส่วนผสมของสมุนไพรสีต่างๆ ตามชื่อของชา คือดำ แดงและเขียว และใบชา ภายใต้ชื่อเครื่องหมายการค้า " Tea Time "
เนื่องจากเป็นการเริ่มต้นธุรกิจ จึงไม่ได้ทำการผลิตเอง แต่ได้วางแผนการผลิตโดยเป็นการจ้างผลิต โดยได้ขอรับคำปรึกษาและคำแนะนำจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อหาผู้ผลิตให้ ซึ่งได้รับคำแนะนำจากกรมส่งเสริม-อุตสาหกรรมโดยเลือกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรตำบลป่าโมกข์ อำเภอป่าโมกข์ จังหวัดอ่างทอง เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชาสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด โดยกำหนดสูตรการผลิตเองทั้งหมด มีการดูแลขั้นตอนการผลิตไปพร้อมกับกลุ่มผู้รับจ้างผลิต เพื่อให้มั่นใจทั้งความสด สะอาด รสชาดที่สม่ำเสมอและได้มาตรฐาน ที่ผ่านมามีกำลังการผลิตเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า และหากสามารถทำการตลาดได้ดี ก็จะเป็นการสร้างงานให้กับกลุ่มแม่บ้านฯ ได้อย่างสม่ำเสมอ อนึ่งกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรตำบลป่าโมกข์ที่ทำการผลิตให้นี้ เป็นกลุ่มแม่บ้านที่ได้รับรางวัลโอท็อปดีเด่นของจังหวัดอ่างทอง
ขั้นตอนการผลิตได้รับมาตรฐาน GMP ( Good Manufacturing Process ) จากกระทรวงอุตสาหกรรม ทำให้สามารถรับรองได้ถึงความสะอาดและขั้นตอนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ช่องทางการตลาดของสินค้านั้น การจัดทำบรรจุภัณฑ์ของชาเป็นแบบสวยงาม ดูทันสมัย แตกต่างจากชาสมุนไพรไทยทั่วๆ ไปที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ทำให้การตลาดเริ่มต้นจากการเป็นของซื้อฝาก ของขวัญและของที่ระลึก โดยได้เปิดตัวครั้งแรกในงาน Bangkok International Gift and House Ware 2004 ที่จัดโดยกรมส่งเสริมการส่งออก ปัจจุบันทำการตลาดหลายช่องทาง เช่น การขายตรง การขายผ่านร้านค้าโดยฝากขายในร้านเบเกอรี่หลายสาขาในกรุงเทพฯ การออกในงานแสดงสินค้า เช่น งาน BIG 2004 ที่จัดขึ้นในเดือนเมษายน 2547 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี และงาน Health and Beauty Fair 2004 ในเดือนกันยายน ที่ศูนย์การประชุมไบเทค บางนา โดยการออกงานแสดงสินค้านี้เป็นช่องทางที่สามารถส่งออกสินค้าได้ อย่างไรก็ตามการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆ ที่จัดโดยภาครัฐ เป็นการเริ่มต้นที่สำคัญมากในด้านการส่งออกที่สามารถประชาสัมพันธ์ให้ผู้นำเข้าสินค้าในต่างประเทศที่เข้าร่วมงานได้เห็นและได้รู้จักสินค้ามากขึ้น แต่การเข้าร่วมงานสำหรับผู้ประกอบการรายเล็กก็เป็นเรื่องที่สร้างความหนักใจในเรื่องค่าใช้จ่าย
เนื่องจากต้องใช้งบประมาณสูงทั้งเรื่องค่าเช่าบูธ ค่าตกแต่งบูธ สำหรับ SME ถือเป็นภาระหนึ่งที่ทำให้งบในการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก หากภาครัฐที่จัดงานสามารถแบ่งโซนการจำหน่ายโดยให้ราคาพิเศษกับผู้ประกอบการรายเล็กๆ ก็จะเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถเข้าร่วมในงานแสดงสินค้าต่างๆ เหล่านี้ได้มากขึ้น
สำหรับกลยุทธ์การตลาดในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2547 และในปี 2548 นั้นตลาดในประเทศยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ความต้องการของตลาดยังมีมาก ผู้ประกอบการรายเล็กสามารถอยู่ได้โดยไม่ลำบากมากนัก การจะเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุดคือการประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านหลายๆ ช่องทาง การจัดวางแผ่นพับและจัดโปรโมชั่นชิมชาฟรี ตามร้านที่สินค้าวางจำหน่าย รวมทั้งการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่จัดโดยภาครัฐตลอดปี เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ นอกจากนี้ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของกรมส่งเสริมการส่งออกเพื่อให้เป็นหนึ่งในสินค้าที่กรมฯ ให้การส่งเสริม ตลอดจนเพื่อให้ได้รับทราบข่าวต่างๆ จากกรมฯ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสินค้าได้
ในอนาคตคาดว่าหากสินค้าเป็นที่รู้จักในตลาดในประเทศแล้ว การทำตลาดต่างประเทศก็คงไม่ไกลเกินเอื้อม หากมีผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท ที ไทม์ ทูเดย์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-726-9506
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-
Tea Time Today เป็นผู้ประกอบการ SME รายหนึ่งที่เลือกประกอบธุรกิจชาสมุนไพรจาก การเป็นผู้ชอบดื่มชา ทั้งชาไทยและชาจากประเทศต่างๆ รวมทั้งนิยมสมุนไพรไทยที่นำมาทำเป็นเครื่องดื่ม จึงเกิดความคิดที่จะนำใบชาแท้ๆ มาลองผสมกับสมุนไพรไทยหลายๆ ชนิดที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย ซึ่งพบว่ามีรสชาดลงตัวอยู่หลายชนิดด้วยกัน แต่เนื่องจากในตลาดมีชาสมุนไพรอยู่มากมาย ทั้งชาไทยและชานำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ต้องใช้เวลาศึกษาข้อมูลตลาดชาในประเทศอย่างละเอียด โดยคิดว่าหากจะผลิตชาสู่ตลาดคงจะไม่ใช่เรื่องง่าย หากสินค้าไม่มีความแตกต่างจากชาสมุนไพรที่มีจำหน่ายในท้องตลาด จึงได้ปรึกษาและสอบถามข้อมูลทั้งจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและจากผู้ผลิตใบชาในประเทศ จนได้วัตถุดิบใบชาแท้ๆ ที่ผลิตในประเทศไทย นำมาผสมกับสมุนไพรไทยหลายๆ ชนิด ออกมาเป็นชาที่ผสมผสานกับรสชาดของสมุนไพรไทยแท้ๆ ที่มีทั้งความหอมของกลิ่นใบชาและความหอมของกลิ่นสมุนไพรไทยได้อย่างลงตัว และได้ทดลองตลาดในขั้นแรกมี 3 รสชาดให้เลือกดื่ม ได้แก่ ชาดำ ชาแดง ชาเขียว ซึ่งชาผสมสมุนไพรทั้ง 3 รสชาดมีส่วนผสมของสมุนไพรสีต่างๆ ตามชื่อของชา คือดำ แดงและเขียว และใบชา ภายใต้ชื่อเครื่องหมายการค้า " Tea Time "
เนื่องจากเป็นการเริ่มต้นธุรกิจ จึงไม่ได้ทำการผลิตเอง แต่ได้วางแผนการผลิตโดยเป็นการจ้างผลิต โดยได้ขอรับคำปรึกษาและคำแนะนำจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อหาผู้ผลิตให้ ซึ่งได้รับคำแนะนำจากกรมส่งเสริม-อุตสาหกรรมโดยเลือกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรตำบลป่าโมกข์ อำเภอป่าโมกข์ จังหวัดอ่างทอง เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชาสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด โดยกำหนดสูตรการผลิตเองทั้งหมด มีการดูแลขั้นตอนการผลิตไปพร้อมกับกลุ่มผู้รับจ้างผลิต เพื่อให้มั่นใจทั้งความสด สะอาด รสชาดที่สม่ำเสมอและได้มาตรฐาน ที่ผ่านมามีกำลังการผลิตเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า และหากสามารถทำการตลาดได้ดี ก็จะเป็นการสร้างงานให้กับกลุ่มแม่บ้านฯ ได้อย่างสม่ำเสมอ อนึ่งกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรตำบลป่าโมกข์ที่ทำการผลิตให้นี้ เป็นกลุ่มแม่บ้านที่ได้รับรางวัลโอท็อปดีเด่นของจังหวัดอ่างทอง
ขั้นตอนการผลิตได้รับมาตรฐาน GMP ( Good Manufacturing Process ) จากกระทรวงอุตสาหกรรม ทำให้สามารถรับรองได้ถึงความสะอาดและขั้นตอนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ช่องทางการตลาดของสินค้านั้น การจัดทำบรรจุภัณฑ์ของชาเป็นแบบสวยงาม ดูทันสมัย แตกต่างจากชาสมุนไพรไทยทั่วๆ ไปที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ทำให้การตลาดเริ่มต้นจากการเป็นของซื้อฝาก ของขวัญและของที่ระลึก โดยได้เปิดตัวครั้งแรกในงาน Bangkok International Gift and House Ware 2004 ที่จัดโดยกรมส่งเสริมการส่งออก ปัจจุบันทำการตลาดหลายช่องทาง เช่น การขายตรง การขายผ่านร้านค้าโดยฝากขายในร้านเบเกอรี่หลายสาขาในกรุงเทพฯ การออกในงานแสดงสินค้า เช่น งาน BIG 2004 ที่จัดขึ้นในเดือนเมษายน 2547 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี และงาน Health and Beauty Fair 2004 ในเดือนกันยายน ที่ศูนย์การประชุมไบเทค บางนา โดยการออกงานแสดงสินค้านี้เป็นช่องทางที่สามารถส่งออกสินค้าได้ อย่างไรก็ตามการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆ ที่จัดโดยภาครัฐ เป็นการเริ่มต้นที่สำคัญมากในด้านการส่งออกที่สามารถประชาสัมพันธ์ให้ผู้นำเข้าสินค้าในต่างประเทศที่เข้าร่วมงานได้เห็นและได้รู้จักสินค้ามากขึ้น แต่การเข้าร่วมงานสำหรับผู้ประกอบการรายเล็กก็เป็นเรื่องที่สร้างความหนักใจในเรื่องค่าใช้จ่าย
เนื่องจากต้องใช้งบประมาณสูงทั้งเรื่องค่าเช่าบูธ ค่าตกแต่งบูธ สำหรับ SME ถือเป็นภาระหนึ่งที่ทำให้งบในการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก หากภาครัฐที่จัดงานสามารถแบ่งโซนการจำหน่ายโดยให้ราคาพิเศษกับผู้ประกอบการรายเล็กๆ ก็จะเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถเข้าร่วมในงานแสดงสินค้าต่างๆ เหล่านี้ได้มากขึ้น
สำหรับกลยุทธ์การตลาดในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2547 และในปี 2548 นั้นตลาดในประเทศยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ความต้องการของตลาดยังมีมาก ผู้ประกอบการรายเล็กสามารถอยู่ได้โดยไม่ลำบากมากนัก การจะเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุดคือการประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านหลายๆ ช่องทาง การจัดวางแผ่นพับและจัดโปรโมชั่นชิมชาฟรี ตามร้านที่สินค้าวางจำหน่าย รวมทั้งการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่จัดโดยภาครัฐตลอดปี เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ นอกจากนี้ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของกรมส่งเสริมการส่งออกเพื่อให้เป็นหนึ่งในสินค้าที่กรมฯ ให้การส่งเสริม ตลอดจนเพื่อให้ได้รับทราบข่าวต่างๆ จากกรมฯ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสินค้าได้
ในอนาคตคาดว่าหากสินค้าเป็นที่รู้จักในตลาดในประเทศแล้ว การทำตลาดต่างประเทศก็คงไม่ไกลเกินเอื้อม หากมีผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท ที ไทม์ ทูเดย์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-726-9506
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-