1.ภาคเกษตรกรรม
ในเดือนพฤษภาคม 2547 รายได้เกษตรกรจากพืชผลสำคัญเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเป็นผลจากด้านราคา ขณะที่ผลผลิตลดลงเล็กน้อย รายละเอียดมีดังนี้
ราคาพืชผลเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.6 จากระยะเดียวกันปีก่อนตามราคายางพาราเนื่องจากอุปสงค์จากต่างประเทศมีมากและราคาผัก ถั่วเขียว และข้าวโพดเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยจากภาวะแห้งแล้งและผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก ในไก่ ขณะที่ราคาพืชน้ำมันเพิ่มขึ้นเนื่องจากผลผลิตโลกลดลง
ผลผลิตพืชผลลดลงเล็กน้อยตามผลผลิตข้าวนาปรังและอ้อย เนื่องจากปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าปีก่อน รวมทั้งข้าวโพดที่ลดลงเพราะผลกระทบจากสถานการณ์โรคไข้หวัดนกในไก่ที่ทำให้ความต้องการอาหารสัตว์ลดลง อย่างไรก็ดี ผลผลิตยางพารายังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
แนวโน้มรายได้เกษตรกรคาดว่าาจะขยายตัวในเกณฑ์สูงจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์จากต่างประเทศ เช่น ข้าวและยางพารายังมีสูง แม้ว่าราคามีแนวโน้มจะชะลอลงเพราะการเพิ่มขึ้นของผลผลิตในช่วงครึ่งปีหลัง
ราคาสินค้าเกษตรอื่นของไทยเพิ่มขึ้นทั้งราคาปศุสัตว์และประมง
ราคาปศุสัตว์เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามราคาสุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ เนื่องจากผลผลิตไกาและไข่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศเพราะการเลี้ยงไก่รอบใหม่ยังมีไม่มาก
ราคาประมงเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามราคาปลาทะเล และปลาหมึก แต่ราคากุ้งยังลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ จะเก็บภาษีการทุ่มตลาด
สำหรับแนวโน้มในระยะต่อไป คาดว่าราคาสินค้าเกษตรจะชะลอลงตามราคาพืชผล เนื่องจากผลผลิตมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี และราคาปศุสัตว์เนื่องจากผลผลิตสุกรมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น รวมทั้งผลผลิตไก่จะฟื้นตัวหลังเกษตรกรผ่านหลักเกณฑ์การเริ่มเลี้ยงไก่ของกรมปศุสัตว์
ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก (12 ชนิดที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทย) เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ชะลอลงจากเดือนก่อนๆ และมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวต่อเนื่อง
2.ภาคอุตสาหกรรม
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2547 เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 6.8 ใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยกลุ่มสินค้าที่ผลิตเพื่อขายในประเทศยังขยายตัวในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะหมวดยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่งที่อุปสงค์ยังมีต่อเนื่อง ทั้งรถยนต์เพื่อการพาณิชย์รถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์ หมวดเครื่องดื่มที่มีการแข่งขันส่งเสริมการขายเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด และหมวดปิโตรเลียม
อย่างไรก็ตาม ผลผลิตในหมวดอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าขยายตัวชะลอลง ตามการผลิตแผงวงจรรวม(IC) ที่มีสต็อกสะสมอยู่มาก
สำหรับอุตสาหกรรมที่ผลิตลดลงในเดือนนี้ที่สำคัญได้แก่ อุตสาหกรรมในหมวดอาหารซึ่งยังลดลงต่อเนื่อง จากภาวะความแห้งแล้งที่ทำให้อ้อยซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตน้ำตาลลดลง รวมทั้งการผลิตอาหารทะเลแช่แข็งและอาหารทะเลกระป๋องที่ลดลงเพราะขาดแคลนวัตถุดิบ กอปรกับการส่งออกสินค้ากุ้งลดลงเนื่องจากสหรัฐฯ กำลังไต่สวนเพื่อพิจารณาอัตราภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด ขณะที่หมวดอื่นๆ ลดลงตามการผลิตยางแท่งที่ได้รับผลกระทบจากความแห้งแล้ง และผู้ผลิตปิโตรเคมีขั้นต้นรายใหญ่หยุดการผลิตบางส่วนเพื่อตรวจสอบอุปกรณ์ควบคุมความปลอดภัย
อัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 73.3 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนตามฤดูกาล เนื่องจากเดือนเมษายนมีวันหยุดสงกรานต์หลายวัน
3.การท่องเที่ยวและโรงแรม
ในเดือนพฤษภาคม 2547 ภาพรวมการท่องเที่ยวและโรงแรมได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุมิใช่แหล่งท่องเที่ยวหลัก นอกจากนั้น แม้ว่านักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์จะเดินทางผ่านด่านภาคใต้ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2545 แต่จำนวนนักท่องเที่ยวรวมยังคงเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีปัญหาการระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในอัตราร้อยละ 0.8 จากปี 2545 โดยจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่ที่ประมาณ 814,000 คนในเดือนนี้
สำหรับอัตราการเข้าพักโรงแรมเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 59.2 โดยอยู่ในเกณฑ์ดีในทุกภาครวมถึงภาคใต้ที่แม้ว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรมในพื้นที่เกิดเหตุความไม่สงบจะลดลงมาก แต่อัตราการเข้าพักในภาคใต้ส่วนอื่นๆ ยังคงเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ยืดเยื้อหรือรุนแรงขึ้น อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อการท่องเที่ยวในระยะต่อไป
4.ภาคอสังหาริมทรัพย์
ในเดือนเมษายน 2547 ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงขยายตัวในอัตราสูง มูลค่าซื้อขายที่ดินทั้งประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 57.2 จากระยะเดียวกันปีก่อน ขณะที่จำนวนที่อยู่อาศัยจดทะเบียนเพิ่มใน กทม.และปริมณฑลเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.4 และพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 41.8 สะท้อนภาวะอุปทางของที่อยู่อาศัยที่ขยายตัวในเกณฑ์ดี
ด้านอุปสงค์ จากการสอบถามผู้ประกอบการพบว่าผู้บริโภคใช้เวลานานขึ้นในการตัดสินใจเลือกซื้อบ้าน จากทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น เนื่องจากมีโครงการใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดจำนวนมาก อีกทั้งโครงการต่างๆ มีการจัดรายการส่งเสริมการขายมากขึ้น
สำหรับแรงกดดันด้านราคา คาดว่าราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามต้นทุนราคาที่ดิน ราคาวัสดุก่อสร้าง และค่าจ้างแรงงานที่เริ่มขาดแคลนในภาคก่อสร้าง
5.ภาคการค้า
ในเดือนพฤษภาคม 2547 ภาวะการค้าโดยรวมขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะการค้าส่งสินค้าเกษตรประเภทผักซึ่งขายได้ราคาสูงเพราะผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยจากภาวะความแห้งแล้งในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ผลไม้ที่ออกสู่ตลาดตามฤดูกาล เช่น ทุเรียนและลิ้นจี่มีราคาลดลงเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก
สำหรับการค้าทั่วไปในเขตกรุงเทพและปริมณฑล เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากที่ชะลอลงเล็กน้อยในเดือนก่อนเพราะประชาชนส่วนใหญ่กลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวต่างจังหวัดช่วงเทศกาลสงกรานต์
หมวดสินค้าที่ขยายตัวดีในเดือนนี้ ได้แก่ สินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา อาทิ เสื้อผ้าชุดนักเรียน เครื่องเขียน และแบบเรียน เพราะเป็นช่วงใกล้เปิดเทอม
6.โทรคมนาคม
ในเดือนเมษายน 2547 จำนวนเลขหมายโทรศัพท์พื้นฐานอยู่ที่ 6.7 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 จากระยะเดียวกันปีก่อน สำหรับจำนวนเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังขยายตัวสูงต่อเนื่องในอัตราร้อยละ 25.0 ส่วนหนึ่งเนื่องจากมีการแข่งขันด้านราคาของผู้แทนจำหน่ายเพื่อเร่งขายเครื่องโทรศัพท์รุ่นเก่าก่อนนำรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ดพ/ชบ-
ในเดือนพฤษภาคม 2547 รายได้เกษตรกรจากพืชผลสำคัญเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเป็นผลจากด้านราคา ขณะที่ผลผลิตลดลงเล็กน้อย รายละเอียดมีดังนี้
ราคาพืชผลเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.6 จากระยะเดียวกันปีก่อนตามราคายางพาราเนื่องจากอุปสงค์จากต่างประเทศมีมากและราคาผัก ถั่วเขียว และข้าวโพดเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยจากภาวะแห้งแล้งและผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก ในไก่ ขณะที่ราคาพืชน้ำมันเพิ่มขึ้นเนื่องจากผลผลิตโลกลดลง
ผลผลิตพืชผลลดลงเล็กน้อยตามผลผลิตข้าวนาปรังและอ้อย เนื่องจากปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าปีก่อน รวมทั้งข้าวโพดที่ลดลงเพราะผลกระทบจากสถานการณ์โรคไข้หวัดนกในไก่ที่ทำให้ความต้องการอาหารสัตว์ลดลง อย่างไรก็ดี ผลผลิตยางพารายังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
แนวโน้มรายได้เกษตรกรคาดว่าาจะขยายตัวในเกณฑ์สูงจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์จากต่างประเทศ เช่น ข้าวและยางพารายังมีสูง แม้ว่าราคามีแนวโน้มจะชะลอลงเพราะการเพิ่มขึ้นของผลผลิตในช่วงครึ่งปีหลัง
ราคาสินค้าเกษตรอื่นของไทยเพิ่มขึ้นทั้งราคาปศุสัตว์และประมง
ราคาปศุสัตว์เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามราคาสุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ เนื่องจากผลผลิตไกาและไข่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศเพราะการเลี้ยงไก่รอบใหม่ยังมีไม่มาก
ราคาประมงเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามราคาปลาทะเล และปลาหมึก แต่ราคากุ้งยังลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ จะเก็บภาษีการทุ่มตลาด
สำหรับแนวโน้มในระยะต่อไป คาดว่าราคาสินค้าเกษตรจะชะลอลงตามราคาพืชผล เนื่องจากผลผลิตมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี และราคาปศุสัตว์เนื่องจากผลผลิตสุกรมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น รวมทั้งผลผลิตไก่จะฟื้นตัวหลังเกษตรกรผ่านหลักเกณฑ์การเริ่มเลี้ยงไก่ของกรมปศุสัตว์
ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก (12 ชนิดที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทย) เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ชะลอลงจากเดือนก่อนๆ และมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวต่อเนื่อง
2.ภาคอุตสาหกรรม
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2547 เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 6.8 ใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยกลุ่มสินค้าที่ผลิตเพื่อขายในประเทศยังขยายตัวในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะหมวดยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่งที่อุปสงค์ยังมีต่อเนื่อง ทั้งรถยนต์เพื่อการพาณิชย์รถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์ หมวดเครื่องดื่มที่มีการแข่งขันส่งเสริมการขายเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด และหมวดปิโตรเลียม
อย่างไรก็ตาม ผลผลิตในหมวดอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าขยายตัวชะลอลง ตามการผลิตแผงวงจรรวม(IC) ที่มีสต็อกสะสมอยู่มาก
สำหรับอุตสาหกรรมที่ผลิตลดลงในเดือนนี้ที่สำคัญได้แก่ อุตสาหกรรมในหมวดอาหารซึ่งยังลดลงต่อเนื่อง จากภาวะความแห้งแล้งที่ทำให้อ้อยซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตน้ำตาลลดลง รวมทั้งการผลิตอาหารทะเลแช่แข็งและอาหารทะเลกระป๋องที่ลดลงเพราะขาดแคลนวัตถุดิบ กอปรกับการส่งออกสินค้ากุ้งลดลงเนื่องจากสหรัฐฯ กำลังไต่สวนเพื่อพิจารณาอัตราภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด ขณะที่หมวดอื่นๆ ลดลงตามการผลิตยางแท่งที่ได้รับผลกระทบจากความแห้งแล้ง และผู้ผลิตปิโตรเคมีขั้นต้นรายใหญ่หยุดการผลิตบางส่วนเพื่อตรวจสอบอุปกรณ์ควบคุมความปลอดภัย
อัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 73.3 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนตามฤดูกาล เนื่องจากเดือนเมษายนมีวันหยุดสงกรานต์หลายวัน
3.การท่องเที่ยวและโรงแรม
ในเดือนพฤษภาคม 2547 ภาพรวมการท่องเที่ยวและโรงแรมได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุมิใช่แหล่งท่องเที่ยวหลัก นอกจากนั้น แม้ว่านักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์จะเดินทางผ่านด่านภาคใต้ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2545 แต่จำนวนนักท่องเที่ยวรวมยังคงเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีปัญหาการระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในอัตราร้อยละ 0.8 จากปี 2545 โดยจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่ที่ประมาณ 814,000 คนในเดือนนี้
สำหรับอัตราการเข้าพักโรงแรมเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 59.2 โดยอยู่ในเกณฑ์ดีในทุกภาครวมถึงภาคใต้ที่แม้ว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรมในพื้นที่เกิดเหตุความไม่สงบจะลดลงมาก แต่อัตราการเข้าพักในภาคใต้ส่วนอื่นๆ ยังคงเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ยืดเยื้อหรือรุนแรงขึ้น อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อการท่องเที่ยวในระยะต่อไป
4.ภาคอสังหาริมทรัพย์
ในเดือนเมษายน 2547 ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงขยายตัวในอัตราสูง มูลค่าซื้อขายที่ดินทั้งประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 57.2 จากระยะเดียวกันปีก่อน ขณะที่จำนวนที่อยู่อาศัยจดทะเบียนเพิ่มใน กทม.และปริมณฑลเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.4 และพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 41.8 สะท้อนภาวะอุปทางของที่อยู่อาศัยที่ขยายตัวในเกณฑ์ดี
ด้านอุปสงค์ จากการสอบถามผู้ประกอบการพบว่าผู้บริโภคใช้เวลานานขึ้นในการตัดสินใจเลือกซื้อบ้าน จากทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น เนื่องจากมีโครงการใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดจำนวนมาก อีกทั้งโครงการต่างๆ มีการจัดรายการส่งเสริมการขายมากขึ้น
สำหรับแรงกดดันด้านราคา คาดว่าราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามต้นทุนราคาที่ดิน ราคาวัสดุก่อสร้าง และค่าจ้างแรงงานที่เริ่มขาดแคลนในภาคก่อสร้าง
5.ภาคการค้า
ในเดือนพฤษภาคม 2547 ภาวะการค้าโดยรวมขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะการค้าส่งสินค้าเกษตรประเภทผักซึ่งขายได้ราคาสูงเพราะผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยจากภาวะความแห้งแล้งในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ผลไม้ที่ออกสู่ตลาดตามฤดูกาล เช่น ทุเรียนและลิ้นจี่มีราคาลดลงเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก
สำหรับการค้าทั่วไปในเขตกรุงเทพและปริมณฑล เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากที่ชะลอลงเล็กน้อยในเดือนก่อนเพราะประชาชนส่วนใหญ่กลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวต่างจังหวัดช่วงเทศกาลสงกรานต์
หมวดสินค้าที่ขยายตัวดีในเดือนนี้ ได้แก่ สินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา อาทิ เสื้อผ้าชุดนักเรียน เครื่องเขียน และแบบเรียน เพราะเป็นช่วงใกล้เปิดเทอม
6.โทรคมนาคม
ในเดือนเมษายน 2547 จำนวนเลขหมายโทรศัพท์พื้นฐานอยู่ที่ 6.7 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 จากระยะเดียวกันปีก่อน สำหรับจำนวนเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังขยายตัวสูงต่อเนื่องในอัตราร้อยละ 25.0 ส่วนหนึ่งเนื่องจากมีการแข่งขันด้านราคาของผู้แทนจำหน่ายเพื่อเร่งขายเครื่องโทรศัพท์รุ่นเก่าก่อนนำรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ดพ/ชบ-