กรุงเทพ--29 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2547 กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดประชุมกับหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ และผู้แทนภาคเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับประเด็นสำคัญๆ และกิจกรรมต่างๆ ที่อยู่ในกรอบ เอเปค เพื่อประมวลเป็นท่าทีไทยนำไปหารือในที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ 3
ประจำปี 2547 ในเดือนตุลาคม ศกนี้ ก่อนที่จะนำผลลัพธ์จากการประชุมดังกล่าวไปเสนอต่อที่ประชุมผู้นำเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12 ที่ประเทศชิลี ในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ เพื่อเป็นผลงานของ
เอเปคประจำปี 2547 ต่อไป
การประชุมระหว่างหน่วยงานไทยครั้งนี้ นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับประเด็นที่กำลังอยู่ในความสนใจของประชาคมโลก เช่น เรื่องการต่อต้านการก่อการร้าย การป้องกันการซื้อขาย ขนส่ง อาวุธที่มีอำนาจการทำลายล้างสูง และอาวุธนำวิถี ต่อสู้อากาศยานแบบพกพา ที่รู้จักกันในนามว่า MANPADS ซึ่งเป็นที่หวาดหวั่นของสายการบิน ต่างๆ ในเวลานี้
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการเงินและการฟอกเงิน ซึ่งอาจเป็นพฤติกรรมของผู้ก่อการร้าย ซึ่งเป็นเรื่องหนึ่งที่หน่วยงานของไทยได้แก่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินได้ดำเนินการอย่างแข็งขันมาเป็นระยะเวลานานแล้ว และกำลังขยายความตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลการฟอกเงินกับอีกหลายๆ ประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีการหารืออย่างจริงจังเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการเพื่อต่อต้านการคอรัปชั่น โดยเฉพาะการคอรัปชั่นของหน่วยราชการในการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ สภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนนักธุรกิจล้วนๆ จากเศรษฐกิจสมาชิกเป็นผู้เสนอมา และคาดว่าจะเป็นผลลัพธ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปคในปีนี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับประเด็นด้านสุขภาพ ได้แก่เรื่อง Life Sciences Innovation Forum ซึ่งมีเป้าหมายที่จะพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ยา และบริการทางการแพทย์ให้มี
มาตรฐานเท่าเทียมกันทั้งภูมิภาค ซึ่งขณะนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการกำหนดยุทธศาสตร์ร่วม เพื่อการดำเนินงานอย่างจริงจังในปีหน้า และเป็นเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญ และมีบทบาทอย่างยิ่งในการผลักดันและกำหนดนโยบายเรื่องนี้ ซึ่งเป็นโอกาสที่ไทยจะผลักดันประเด็นที่อยู่ในความสนใจต่อไป
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าเอเปคจะทอดทิ้งประเด็นด้านการเปิดเสรีและอำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุน ซึ่งเป็นหัวใจของเอเปคแต่เดิม โดยได้มีพัฒนาการใหม่ๆ ในเรื่องความตกลงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการจัดทำแนวทางที่เป็นเลิศที่เปรียบเสมือน คู่มือในการทำความตกลงเขตการค้าเสรีอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าเอเปคไม่ใช่องค์กรที่อยู่กับที่ แต่มีวิวัฒนาการที่ทันสมัย และทันต่อ เหตุการณ์เสมอ นอกจากนี้ ยังรับฟังและคำนึงถึงความต้องการของสมาชิกอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งที่เจริญแล้ว และที่กำลังพัฒนา และเป็นองค์กรที่เน้นผลงานเป็นรูปธรรมในแต่ละปี
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7
E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2547 กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดประชุมกับหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ และผู้แทนภาคเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับประเด็นสำคัญๆ และกิจกรรมต่างๆ ที่อยู่ในกรอบ เอเปค เพื่อประมวลเป็นท่าทีไทยนำไปหารือในที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ 3
ประจำปี 2547 ในเดือนตุลาคม ศกนี้ ก่อนที่จะนำผลลัพธ์จากการประชุมดังกล่าวไปเสนอต่อที่ประชุมผู้นำเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12 ที่ประเทศชิลี ในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ เพื่อเป็นผลงานของ
เอเปคประจำปี 2547 ต่อไป
การประชุมระหว่างหน่วยงานไทยครั้งนี้ นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับประเด็นที่กำลังอยู่ในความสนใจของประชาคมโลก เช่น เรื่องการต่อต้านการก่อการร้าย การป้องกันการซื้อขาย ขนส่ง อาวุธที่มีอำนาจการทำลายล้างสูง และอาวุธนำวิถี ต่อสู้อากาศยานแบบพกพา ที่รู้จักกันในนามว่า MANPADS ซึ่งเป็นที่หวาดหวั่นของสายการบิน ต่างๆ ในเวลานี้
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการเงินและการฟอกเงิน ซึ่งอาจเป็นพฤติกรรมของผู้ก่อการร้าย ซึ่งเป็นเรื่องหนึ่งที่หน่วยงานของไทยได้แก่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินได้ดำเนินการอย่างแข็งขันมาเป็นระยะเวลานานแล้ว และกำลังขยายความตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลการฟอกเงินกับอีกหลายๆ ประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีการหารืออย่างจริงจังเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการเพื่อต่อต้านการคอรัปชั่น โดยเฉพาะการคอรัปชั่นของหน่วยราชการในการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ สภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนนักธุรกิจล้วนๆ จากเศรษฐกิจสมาชิกเป็นผู้เสนอมา และคาดว่าจะเป็นผลลัพธ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปคในปีนี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับประเด็นด้านสุขภาพ ได้แก่เรื่อง Life Sciences Innovation Forum ซึ่งมีเป้าหมายที่จะพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ยา และบริการทางการแพทย์ให้มี
มาตรฐานเท่าเทียมกันทั้งภูมิภาค ซึ่งขณะนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการกำหนดยุทธศาสตร์ร่วม เพื่อการดำเนินงานอย่างจริงจังในปีหน้า และเป็นเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญ และมีบทบาทอย่างยิ่งในการผลักดันและกำหนดนโยบายเรื่องนี้ ซึ่งเป็นโอกาสที่ไทยจะผลักดันประเด็นที่อยู่ในความสนใจต่อไป
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าเอเปคจะทอดทิ้งประเด็นด้านการเปิดเสรีและอำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุน ซึ่งเป็นหัวใจของเอเปคแต่เดิม โดยได้มีพัฒนาการใหม่ๆ ในเรื่องความตกลงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการจัดทำแนวทางที่เป็นเลิศที่เปรียบเสมือน คู่มือในการทำความตกลงเขตการค้าเสรีอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าเอเปคไม่ใช่องค์กรที่อยู่กับที่ แต่มีวิวัฒนาการที่ทันสมัย และทันต่อ เหตุการณ์เสมอ นอกจากนี้ ยังรับฟังและคำนึงถึงความต้องการของสมาชิกอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งที่เจริญแล้ว และที่กำลังพัฒนา และเป็นองค์กรที่เน้นผลงานเป็นรูปธรรมในแต่ละปี
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7
E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-