แท็ก
ปากีสถาน
การาจี (Karachi) เป็นเมืองหลวงของรัฐซินด์ (Sindh) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศปากีสถาน ติดชายฝั่งทะเลอาหรับ
(Arabian Sea) ในอดีตเมืองการาจีเคยเป็นเมืองหลวงของปากีสถานมาก่อน ทั้งนี้ เมืองการาจีได้รับสมญานามว่า"Economic Capital" หรือเมืองหลวงทางเศรษฐกิจ เนื่องจากการาจีเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญในหลายด้านของปากีสถาน ไม่ว่าจะเป็นด้านการคมนาคมขนส่ง การผลิต และการเงิน รวมทั้งยังได้รับการขนานนามว่าเป็น"Software Outsourcing Hub of Pakistan" อีกด้วย โดยมีบริษัทข้ามชาติ (Multi-national Companies : MNCs)ที่สำคัญ รวมถึงบริษัทท้องถิ่นส่วนใหญ่ของปากีสถานเข้ามาตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่นี่ ทั้งนี้ เมืองการาจีสามารถสร้างรายได้ให้รัฐบาลปากีสถานสูงถึง 60% ของรายได้ทั้งหมด
ศักยภาพที่โดดเด่นของการาจี ซึ่งเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของปากีสถานให้เติบโต ได้แก่
1. ศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง เมืองการาจีเป็นเมืองท่าที่สำคัญ โดยมีท่าเรือการาจี ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สามารถรองรับการขนถ่ายสินค้าได้ถึง 75% ของมูลการค้าทั้งหมดของปากีสถาน ท่าเรือการาจี เป็นท่าเรือน้ำลึกที่มีท่าหน้ากว้างถึง 11 กิโลเมตร มีพื้นที่ราว 100 เฮกตาร์ อีกทั้งยังมีพื้นที่สำหรับพักสินค้าขนาด 60 เฮกตาร์ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือด้วย โดยท่าเรือแห่งนี้มีทั้งท่าเทียบเรือบรรทุกสินค้าเทกอง (Bulk Carriers) และเรือบรรทุกสินค้าทั่วไป (General Cargo Ships) สามารถรองรับการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์เป็นปริมาณสูงราว 738,628 TEUs (Twenty-Foot Equivalent Units : หน่วยเทียบเท่าตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐานความยาว 20 ฟุต) สินค้าที่มีการขนถ่ายผ่านท่าเรือแห่งนี้ มากที่สุด คือ สินค้าเทกองชนิดเหลว รองลงมาคือ สินค้าทั่วไป และสินค้าเทกองชนิดแห้ง
ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลปากีสถานใช้เงินราว 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนาระบบการขนถ่ายสินค้าภายในท่าเรือการาจีให้มีความทันสมัยมากขึ้น และยังมีโครงการอีกหลายโครงการที่จะสร้างถนนและสะพาน เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณใกล้กับท่าเรือ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือการาจีกับเมืองต่าง ๆ ทั้งนี้ รัฐบาลปากีสถานมีเป้าหมายที่จะพัฒนาท่าเรือการาจีเป็นศูนย์กลางการขนส่งและกระจายสินค้าที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียใต้ (โดยมีลักษณะเป็นเมืองท่าเสรีคล้ายฮ่องกง) เพื่อเชื่อมโยงกับภูมิภาคเอเชียตะวันออก เอเชียกลางและตะวันออกกลาง ต่อไป โดยอาศัยความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ของปากีสถานที่ตั้งอยู่ติดกับอินเดีย จีน อัฟกานิสถานและอิหร่าน
2. ศูนย์กลางการผลิต เมืองการาจีเป็นที่ตั้งของ Karachi Export Processing Zone (KEPZ) ซึ่งเป็นเขตส่งเสริมการส่งออกที่สำคัญของปากีสถาน โดย KEPZ มีพื้นที่ประมาณ 85.4 เฮกตาร์ ตั้งอยู่ห่างจากท่าเรือการาจีราว 35 กิโลเมตร และห่างจากสนามบินนานาชาติ Quaid-e-Azam International Airport (Jinnah Airport) เพียง18 กิโลเมตร ทั้งนี้ รัฐบาลปากีสถานส่งเสริมการลงทุนในเขตฯ นี้ ด้วยการให้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนหลายประการอาทิ ยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักร อุปกรณ์ และวัตถุดิบ รวมทั้งอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติสามารถถือหุ้นได้ 100% ละสามารถส่งเงินและผลกำไรกลับประเทศได้ทั้ง 100% เป็นต้น โดยมีธุรกิจต่าง ๆ เปิดดำเนินการใน KPEZ กว่า 200 บริษัท ในจำนวนนี้เป็นบริษัทท้องถิ่นราว 40% ของทั้งหมด นอกนั้นเป็นบริษัทต่างชาติจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ และญี่ปุ่น สำหรับอุตสาหกรรมที่นิยมเข้าไปลงทุนใน KPEZ ได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอ เคมีภัณฑ์และเภสัชภัณฑ์ อุตสาหกรรมกระดาษ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อส่งออก ไปยังยุโรปมากที่สุด รองลงมา คือ สหรัฐฯ แคนาดา และตะวันออกกลาง ตามลำดับ
นอกจากนี้ ในเมืองการาจี ยังมีนิคมอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีกหลายแห่ง อาทิ Site Karachi, Site North Karachi, Korangi Industrial Area และ Nooriabad Industrial Estate Dadu เป็นต้น สำหรับอุตสาหกรรมที่นิยมลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมเหล่านี้ ได้แก่ อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ยานยนต์ สิ่งทอ เหล็ก และการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค
3. ศูนย์กลางทางการเงิน เมืองการาจี เป็นที่ตั้งของ Karachi Stock Exchange (KSE) ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในปากีสถาน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2548 มีบริษัทจดทะเบียนใน KSE จำนวน 659 บริษัท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (Market Capitalization) 34.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ บนถนน I.I. Chundrigar Road ของการาจี ยังเป็นที่ตั้งของธนาคารกลางของปากีสถาน (State Bank of Pakistan) และสำนักงานใหญ่ของ ธนาคารพาณิชย์ท้องถิ่นที่สำคัญอีกหลายแห่ง อาทิ National Bank of Pakistan, Habib Bank, United Bank Limited และ Muslim Commercial Bank โดยธนาคารเหล่านี้เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่ที่สุด 4 อันดับแรกของปากีสถาน นอกจากนี้แล้ว บนถนนสายนี้ยังมีสาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างชาติ อาทิ Citibank และ Standard Chartered Bank อีกด้วย
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ตุลาคม 2548--
-พห-
(Arabian Sea) ในอดีตเมืองการาจีเคยเป็นเมืองหลวงของปากีสถานมาก่อน ทั้งนี้ เมืองการาจีได้รับสมญานามว่า"Economic Capital" หรือเมืองหลวงทางเศรษฐกิจ เนื่องจากการาจีเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญในหลายด้านของปากีสถาน ไม่ว่าจะเป็นด้านการคมนาคมขนส่ง การผลิต และการเงิน รวมทั้งยังได้รับการขนานนามว่าเป็น"Software Outsourcing Hub of Pakistan" อีกด้วย โดยมีบริษัทข้ามชาติ (Multi-national Companies : MNCs)ที่สำคัญ รวมถึงบริษัทท้องถิ่นส่วนใหญ่ของปากีสถานเข้ามาตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่นี่ ทั้งนี้ เมืองการาจีสามารถสร้างรายได้ให้รัฐบาลปากีสถานสูงถึง 60% ของรายได้ทั้งหมด
ศักยภาพที่โดดเด่นของการาจี ซึ่งเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของปากีสถานให้เติบโต ได้แก่
1. ศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง เมืองการาจีเป็นเมืองท่าที่สำคัญ โดยมีท่าเรือการาจี ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สามารถรองรับการขนถ่ายสินค้าได้ถึง 75% ของมูลการค้าทั้งหมดของปากีสถาน ท่าเรือการาจี เป็นท่าเรือน้ำลึกที่มีท่าหน้ากว้างถึง 11 กิโลเมตร มีพื้นที่ราว 100 เฮกตาร์ อีกทั้งยังมีพื้นที่สำหรับพักสินค้าขนาด 60 เฮกตาร์ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือด้วย โดยท่าเรือแห่งนี้มีทั้งท่าเทียบเรือบรรทุกสินค้าเทกอง (Bulk Carriers) และเรือบรรทุกสินค้าทั่วไป (General Cargo Ships) สามารถรองรับการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์เป็นปริมาณสูงราว 738,628 TEUs (Twenty-Foot Equivalent Units : หน่วยเทียบเท่าตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐานความยาว 20 ฟุต) สินค้าที่มีการขนถ่ายผ่านท่าเรือแห่งนี้ มากที่สุด คือ สินค้าเทกองชนิดเหลว รองลงมาคือ สินค้าทั่วไป และสินค้าเทกองชนิดแห้ง
ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลปากีสถานใช้เงินราว 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนาระบบการขนถ่ายสินค้าภายในท่าเรือการาจีให้มีความทันสมัยมากขึ้น และยังมีโครงการอีกหลายโครงการที่จะสร้างถนนและสะพาน เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณใกล้กับท่าเรือ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือการาจีกับเมืองต่าง ๆ ทั้งนี้ รัฐบาลปากีสถานมีเป้าหมายที่จะพัฒนาท่าเรือการาจีเป็นศูนย์กลางการขนส่งและกระจายสินค้าที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียใต้ (โดยมีลักษณะเป็นเมืองท่าเสรีคล้ายฮ่องกง) เพื่อเชื่อมโยงกับภูมิภาคเอเชียตะวันออก เอเชียกลางและตะวันออกกลาง ต่อไป โดยอาศัยความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ของปากีสถานที่ตั้งอยู่ติดกับอินเดีย จีน อัฟกานิสถานและอิหร่าน
2. ศูนย์กลางการผลิต เมืองการาจีเป็นที่ตั้งของ Karachi Export Processing Zone (KEPZ) ซึ่งเป็นเขตส่งเสริมการส่งออกที่สำคัญของปากีสถาน โดย KEPZ มีพื้นที่ประมาณ 85.4 เฮกตาร์ ตั้งอยู่ห่างจากท่าเรือการาจีราว 35 กิโลเมตร และห่างจากสนามบินนานาชาติ Quaid-e-Azam International Airport (Jinnah Airport) เพียง18 กิโลเมตร ทั้งนี้ รัฐบาลปากีสถานส่งเสริมการลงทุนในเขตฯ นี้ ด้วยการให้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนหลายประการอาทิ ยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักร อุปกรณ์ และวัตถุดิบ รวมทั้งอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติสามารถถือหุ้นได้ 100% ละสามารถส่งเงินและผลกำไรกลับประเทศได้ทั้ง 100% เป็นต้น โดยมีธุรกิจต่าง ๆ เปิดดำเนินการใน KPEZ กว่า 200 บริษัท ในจำนวนนี้เป็นบริษัทท้องถิ่นราว 40% ของทั้งหมด นอกนั้นเป็นบริษัทต่างชาติจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ และญี่ปุ่น สำหรับอุตสาหกรรมที่นิยมเข้าไปลงทุนใน KPEZ ได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอ เคมีภัณฑ์และเภสัชภัณฑ์ อุตสาหกรรมกระดาษ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อส่งออก ไปยังยุโรปมากที่สุด รองลงมา คือ สหรัฐฯ แคนาดา และตะวันออกกลาง ตามลำดับ
นอกจากนี้ ในเมืองการาจี ยังมีนิคมอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีกหลายแห่ง อาทิ Site Karachi, Site North Karachi, Korangi Industrial Area และ Nooriabad Industrial Estate Dadu เป็นต้น สำหรับอุตสาหกรรมที่นิยมลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมเหล่านี้ ได้แก่ อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ยานยนต์ สิ่งทอ เหล็ก และการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค
3. ศูนย์กลางทางการเงิน เมืองการาจี เป็นที่ตั้งของ Karachi Stock Exchange (KSE) ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในปากีสถาน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2548 มีบริษัทจดทะเบียนใน KSE จำนวน 659 บริษัท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (Market Capitalization) 34.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ บนถนน I.I. Chundrigar Road ของการาจี ยังเป็นที่ตั้งของธนาคารกลางของปากีสถาน (State Bank of Pakistan) และสำนักงานใหญ่ของ ธนาคารพาณิชย์ท้องถิ่นที่สำคัญอีกหลายแห่ง อาทิ National Bank of Pakistan, Habib Bank, United Bank Limited และ Muslim Commercial Bank โดยธนาคารเหล่านี้เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่ที่สุด 4 อันดับแรกของปากีสถาน นอกจากนี้แล้ว บนถนนสายนี้ยังมีสาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างชาติ อาทิ Citibank และ Standard Chartered Bank อีกด้วย
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ตุลาคม 2548--
-พห-