‘โฆษกปชป.’ เผยคณะผู้บริหารพรรคฯ แสดงความยินดีต่อดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ภายหลังบรรลุข้อตกลงยุติเงินอุดหนุนการส่งออก ด้านความคืบหน้าหาเสียงผู้ว่าฯ กทม. ‘ปชป.’ เตรียมระดมพลช่วย ‘อภิรักษ์’ หาเสียงเต็มที่
วันนี้ (3 ส.ค. 47) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารของพรรคประชาธิปัตย์ว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคฯ และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาฯ ได้ส่งอีเมลเพื่อแสดงความยินดีกับ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ผู้อำนวยการองค์การค้าโลก (WTO) ที่ได้ทำงานอย่างหนักในการบรรลุข้อตกลงยุติเงินอุดหนุนการส่งออก ซึ่งจะทำให้มีผลในการลดการกีดกันสินค้าเกษตร และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศที่กำลังพัฒนาในตลาดโลกเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศที่ผลิตสินค้าเกษตร
‘เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญของโลก เนื่องจากประเทศที่กำลังพัฒนาจะได้รับประโยชน์ในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะเงินอุดหนุนทางสินค้าเกษตรที่มีการอุดหนุนกันทั่วไปโดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้วมีจำนวนประมาณ 300,000 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 12.4 ล้านล้านบาท / ปี ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวทำให้ประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลายพบความยากลำบากทางการแข่งขันในตลาดโลก เพราะฉะนั้นการลดเงินอุดหนุนลงตามข้อตกลงดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้สินค้าเกษตรจากประเทศกำลังพัฒนาสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้มากขึ้น‘ นายองอาจกล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคฯ ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ได้รายงานความคืบหน้าในการรณรงค์หาเสียง รวมทั้งวิเคราะห์ถึงการแข่งขันกับผู้สมัครคนอื่นๆให้ที่ประชุมได้รับทราบ นอกจากนี้ที่ประชุมยังเปิดโอกาสให้รองหัวหน้าพรรคฯภาคต่างๆ รวมถึงคณะผู้บริหารคนอื่นๆ ได้แสดงความคิดเห็นถึงกระแสการตอบรับของประชาชนที่มีต่อนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งคณะผู้บริหารฯเห็นพ้องต้องกันว่าคะแนนนิยมของนายอภิรักษ์สูงขึ้นเป็นลำดับ ดังนั้นพรรคฯจึงมีมติให้งดสัมมนาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 21 — 22 สิงหาคม 2547 ลงก่อน เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. เป็นต้นไป พรรคฯจะระดมสาขาพรรคฯ 196 สาขาจากทั่วประเทศมาช่วยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ต่อเนื่องไปจนกระทั่งถึงวันเลือกตั้ง
นายองอาจ เปิดเผยด้วยว่า ในวันที่ 17 ส.ค. 47 นี้ พรรคฯจะทำพิธีรวมพลัง ส.ส. ของพรรคฯ เพื่อช่วยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน หาเสียงทั่วกรุงเทพฯ โดยจะแบ่ง ส.ส. ออกไปประจำตามเขตเลือกตั้งของ กทม.ทั้ง 37 เขต เพื่อช่วยทำงานทุกอย่างในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้ ‘จากกระแสการตอบรับคุณอภิรักษ์ซึ่งดีขึ้นเรื่อยๆจนถึงขณะนี้นั้น ที่ประชุมคณะผู้บริหารพรรคฯเชื่อมั่นว่าคุณอภิรักษ์น่าจะรักษาคะแนนความนิยมในหมู่พี่น้องประชาชนได้อย่างต่อเนื่องตลอดไป และน่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงท้าย เมื่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯได้พบปะคุณอภิรักษ์และมีความเข้าใจในแนวทาง และความตั้งใจของคุณอภิรักษ์ พรรคประชาธิปัตย์จะระดมคนอย่างเต็มที่นับจากนี้ไป เพื่อให้คุณอภิรักษ์มีโอกาสได้รับเลือกตั้งมากที่สุด’ นายองอาจกล่าว
ส่วนกรณีที่มีการบุกรื้อตลาดที่หมู่บ้านนักกีฬานั้น นายองอาจกล่าวว่า คณะผู้บริหารฯมีความเห็นร่วมกันว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่งสำหรับประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย และถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน แม้ว่าตลาดตรงนั้นจะมีปัญหาขัดแย้งกันอย่างไรก็ตาม ก็ไม่ควรใช้วิธีความรุนแรงเข้าไปดำเนินการ แต่ควรจะใช้วิธีทางกฎหมาย ซึ่งเหตุการณ์ทำนองนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามผู้มีอิทธิพลตามที่ได้เคยประกาศเป็นนโยบายไว้ พรรคประชาธิปัตย์ขอเรียกร้องให้รัฐบาลหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว และรัฐบาลต้องเอาจริงเอาจังไม่ควรปล่อยปะละเลยให้เป็นคลื่นกระทบฝั่ง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ‘ถ้ารัฐบาลเอาจริงเอาจัง กลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ทำลายข้าวของของแม่ค้าในครั้งนี้คงไม่กล้าที่จะกระทำการอุกอาจเช่นนี้ แต่เหตุที่ไม่เกรงกลัวเพราะรู้อยู่แล้วว่ารัฐบาลไม่เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ แต่เป็นเพียงการพูดเพื่อสร้างภาพ ให้ประชาชนชื่นชมแต่เพียงอย่างเดียว แต่ในทางปฏิบัติแทบไม่ได้มีการปฏิบัติอะไรเลย ’ นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-
วันนี้ (3 ส.ค. 47) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารของพรรคประชาธิปัตย์ว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคฯ และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาฯ ได้ส่งอีเมลเพื่อแสดงความยินดีกับ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ผู้อำนวยการองค์การค้าโลก (WTO) ที่ได้ทำงานอย่างหนักในการบรรลุข้อตกลงยุติเงินอุดหนุนการส่งออก ซึ่งจะทำให้มีผลในการลดการกีดกันสินค้าเกษตร และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศที่กำลังพัฒนาในตลาดโลกเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศที่ผลิตสินค้าเกษตร
‘เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญของโลก เนื่องจากประเทศที่กำลังพัฒนาจะได้รับประโยชน์ในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะเงินอุดหนุนทางสินค้าเกษตรที่มีการอุดหนุนกันทั่วไปโดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้วมีจำนวนประมาณ 300,000 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 12.4 ล้านล้านบาท / ปี ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวทำให้ประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลายพบความยากลำบากทางการแข่งขันในตลาดโลก เพราะฉะนั้นการลดเงินอุดหนุนลงตามข้อตกลงดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้สินค้าเกษตรจากประเทศกำลังพัฒนาสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้มากขึ้น‘ นายองอาจกล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคฯ ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ได้รายงานความคืบหน้าในการรณรงค์หาเสียง รวมทั้งวิเคราะห์ถึงการแข่งขันกับผู้สมัครคนอื่นๆให้ที่ประชุมได้รับทราบ นอกจากนี้ที่ประชุมยังเปิดโอกาสให้รองหัวหน้าพรรคฯภาคต่างๆ รวมถึงคณะผู้บริหารคนอื่นๆ ได้แสดงความคิดเห็นถึงกระแสการตอบรับของประชาชนที่มีต่อนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งคณะผู้บริหารฯเห็นพ้องต้องกันว่าคะแนนนิยมของนายอภิรักษ์สูงขึ้นเป็นลำดับ ดังนั้นพรรคฯจึงมีมติให้งดสัมมนาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 21 — 22 สิงหาคม 2547 ลงก่อน เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. เป็นต้นไป พรรคฯจะระดมสาขาพรรคฯ 196 สาขาจากทั่วประเทศมาช่วยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ต่อเนื่องไปจนกระทั่งถึงวันเลือกตั้ง
นายองอาจ เปิดเผยด้วยว่า ในวันที่ 17 ส.ค. 47 นี้ พรรคฯจะทำพิธีรวมพลัง ส.ส. ของพรรคฯ เพื่อช่วยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน หาเสียงทั่วกรุงเทพฯ โดยจะแบ่ง ส.ส. ออกไปประจำตามเขตเลือกตั้งของ กทม.ทั้ง 37 เขต เพื่อช่วยทำงานทุกอย่างในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้ ‘จากกระแสการตอบรับคุณอภิรักษ์ซึ่งดีขึ้นเรื่อยๆจนถึงขณะนี้นั้น ที่ประชุมคณะผู้บริหารพรรคฯเชื่อมั่นว่าคุณอภิรักษ์น่าจะรักษาคะแนนความนิยมในหมู่พี่น้องประชาชนได้อย่างต่อเนื่องตลอดไป และน่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงท้าย เมื่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯได้พบปะคุณอภิรักษ์และมีความเข้าใจในแนวทาง และความตั้งใจของคุณอภิรักษ์ พรรคประชาธิปัตย์จะระดมคนอย่างเต็มที่นับจากนี้ไป เพื่อให้คุณอภิรักษ์มีโอกาสได้รับเลือกตั้งมากที่สุด’ นายองอาจกล่าว
ส่วนกรณีที่มีการบุกรื้อตลาดที่หมู่บ้านนักกีฬานั้น นายองอาจกล่าวว่า คณะผู้บริหารฯมีความเห็นร่วมกันว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่งสำหรับประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย และถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน แม้ว่าตลาดตรงนั้นจะมีปัญหาขัดแย้งกันอย่างไรก็ตาม ก็ไม่ควรใช้วิธีความรุนแรงเข้าไปดำเนินการ แต่ควรจะใช้วิธีทางกฎหมาย ซึ่งเหตุการณ์ทำนองนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามผู้มีอิทธิพลตามที่ได้เคยประกาศเป็นนโยบายไว้ พรรคประชาธิปัตย์ขอเรียกร้องให้รัฐบาลหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว และรัฐบาลต้องเอาจริงเอาจังไม่ควรปล่อยปะละเลยให้เป็นคลื่นกระทบฝั่ง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ‘ถ้ารัฐบาลเอาจริงเอาจัง กลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ทำลายข้าวของของแม่ค้าในครั้งนี้คงไม่กล้าที่จะกระทำการอุกอาจเช่นนี้ แต่เหตุที่ไม่เกรงกลัวเพราะรู้อยู่แล้วว่ารัฐบาลไม่เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ แต่เป็นเพียงการพูดเพื่อสร้างภาพ ให้ประชาชนชื่นชมแต่เพียงอย่างเดียว แต่ในทางปฏิบัติแทบไม่ได้มีการปฏิบัติอะไรเลย ’ นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-