กรุงเทพ--9 ส.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2547 นายสุจินดา ยงสุนทร อดีตเอกอัครราชทูตในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีมัสยิดกรือเซะได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการสอบสวนของคณะกรรมการฯ ภายหลังจากที่ได้บรรยายสรุปผลการสอบสวนให้คณะผู้แทนทางการทูตที่ประจำอยู่ในประเทศไทยได้รับทราบ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. คณะผู้แทนทางการทูตฯ ได้รับทราบผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการฯ ด้วยความพอใจและเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเข้าใจว่าแม้ว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามจะกระทำ เกินกว่าเหตุแต่มีปัจจัย และเหตุการณ์หลายอย่างกดดันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทำให้ต้องตัดสินใจปฏิบัติการรุนแรง ทั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ทราบจำนวนผู้ก่อการร้ายและอาวุธที่ครอบครอง ขณะเดียวกัน ประชาชนที่เฝ้าดูเหตุการณ์โดยรอบเพิ่มจำนวนขึ้น และหากมีมือที่สามยิงใส่ประชาชนจึงทำให้เจ้าหน้าที่ ต้องตัดสินใจปฏิบัติการขั้นเด็ดขาด
2. จากการสอบสวนพบว่าไม่มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้จากคำให้การของผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ปกครองท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ทราบว่ากลุ่มผู้ก่อการได้ประกาศให้ผู้ที่เข้าไปปฏิบัติศาสนกิจในมัสยิดในเช้าวันนั้น(05.00 น.)ออกจากมัสยิดหากไม่ออกไปจะถือว่าเข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ ภายหลังจากเหตุการณ์สงบลงแล้ว ญาติของผู้เสียชีวิตที่เดินทางมารับศพผู้ก่อการก็ไม่มี ผู้ใดปฏิเสธว่าผู้เสียชีวิตมิได้มีส่วนร่วมเหตุการณ์ก่อความไม่สงบ
3. ผลการสอบสวนไม่ได้ระบุความผิดของผู้ใดเป็นการเฉพาะเพราะคณะกรรมการมิใช่ องค์กรยุติธรรม และหากจะมีการดำเนินการใดๆ ในเรื่องดังกล่าวก็เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม ที่จะดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ จะมีการนำเสนอรายงานฉบับที่สองในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า โดยจะเป็นการ รวบรวมข้อเสนอแนะว่า ทำอย่างไรจะหลีกเลี่ยงมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก อาทิ กฎแห่งการปะทะซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติเมื่อต้องเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ โดยต่อไปควรมีการฝึกซ้อมเป็นประจำเพื่อให้เจ้าหน้าที่ ทุกคนปฏิบัติตาม นอกจากนี้ จะเสนอให้พิจารณาหลีกเลี่ยงการปฏิบัติการรุนแรงในศาสนสถาน ยกเว้นกรณีที่ต้องช่วยเหลือชีวิตบุคคล หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องขออนุญาตจากผู้นำศาสนาก่อน
4. ข้อเสนอของคณะกรรมการฯ ที่เสนอให้ชดใช้เงินแก่ผู้เสียหาย ได้เสนอไว้ในรายงานสำหรับกรณีที่เกิดขึ้นที่มัสยิดกรือเซะ ทั้งนี้ เนื่องจากมีผู้เสียหายที่สูญเสียญาติพี่น้อง นอกจากนี้ยังรวมถึงประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่มีบ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติการณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องตัดสินใจ ส่วนที่ว่าจะชดเชยค่าเสียหายให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตในกรณีอื่น ในเหตุการณ์เดียวกันหรือไม่นั้น เห็นว่าน่าจะนำหลักการเดียวกันมาปรับใช้ได้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2547 นายสุจินดา ยงสุนทร อดีตเอกอัครราชทูตในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีมัสยิดกรือเซะได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการสอบสวนของคณะกรรมการฯ ภายหลังจากที่ได้บรรยายสรุปผลการสอบสวนให้คณะผู้แทนทางการทูตที่ประจำอยู่ในประเทศไทยได้รับทราบ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. คณะผู้แทนทางการทูตฯ ได้รับทราบผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการฯ ด้วยความพอใจและเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเข้าใจว่าแม้ว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามจะกระทำ เกินกว่าเหตุแต่มีปัจจัย และเหตุการณ์หลายอย่างกดดันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทำให้ต้องตัดสินใจปฏิบัติการรุนแรง ทั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ทราบจำนวนผู้ก่อการร้ายและอาวุธที่ครอบครอง ขณะเดียวกัน ประชาชนที่เฝ้าดูเหตุการณ์โดยรอบเพิ่มจำนวนขึ้น และหากมีมือที่สามยิงใส่ประชาชนจึงทำให้เจ้าหน้าที่ ต้องตัดสินใจปฏิบัติการขั้นเด็ดขาด
2. จากการสอบสวนพบว่าไม่มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้จากคำให้การของผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ปกครองท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ทราบว่ากลุ่มผู้ก่อการได้ประกาศให้ผู้ที่เข้าไปปฏิบัติศาสนกิจในมัสยิดในเช้าวันนั้น(05.00 น.)ออกจากมัสยิดหากไม่ออกไปจะถือว่าเข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ ภายหลังจากเหตุการณ์สงบลงแล้ว ญาติของผู้เสียชีวิตที่เดินทางมารับศพผู้ก่อการก็ไม่มี ผู้ใดปฏิเสธว่าผู้เสียชีวิตมิได้มีส่วนร่วมเหตุการณ์ก่อความไม่สงบ
3. ผลการสอบสวนไม่ได้ระบุความผิดของผู้ใดเป็นการเฉพาะเพราะคณะกรรมการมิใช่ องค์กรยุติธรรม และหากจะมีการดำเนินการใดๆ ในเรื่องดังกล่าวก็เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม ที่จะดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ จะมีการนำเสนอรายงานฉบับที่สองในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า โดยจะเป็นการ รวบรวมข้อเสนอแนะว่า ทำอย่างไรจะหลีกเลี่ยงมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก อาทิ กฎแห่งการปะทะซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติเมื่อต้องเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ โดยต่อไปควรมีการฝึกซ้อมเป็นประจำเพื่อให้เจ้าหน้าที่ ทุกคนปฏิบัติตาม นอกจากนี้ จะเสนอให้พิจารณาหลีกเลี่ยงการปฏิบัติการรุนแรงในศาสนสถาน ยกเว้นกรณีที่ต้องช่วยเหลือชีวิตบุคคล หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องขออนุญาตจากผู้นำศาสนาก่อน
4. ข้อเสนอของคณะกรรมการฯ ที่เสนอให้ชดใช้เงินแก่ผู้เสียหาย ได้เสนอไว้ในรายงานสำหรับกรณีที่เกิดขึ้นที่มัสยิดกรือเซะ ทั้งนี้ เนื่องจากมีผู้เสียหายที่สูญเสียญาติพี่น้อง นอกจากนี้ยังรวมถึงประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่มีบ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติการณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องตัดสินใจ ส่วนที่ว่าจะชดเชยค่าเสียหายให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตในกรณีอื่น ในเหตุการณ์เดียวกันหรือไม่นั้น เห็นว่าน่าจะนำหลักการเดียวกันมาปรับใช้ได้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-