สศอ.เร่งดันโครงการพัฒนาโปรแกรมซอฟแวร์ ERP เชื่อมโยงอุตสาหกรรมสิ่งทอทั้งระบบ โชว์นวัตกรรมใหม่ อัพเกรดซอฟแวร์ระบบฐานข้อมูล เจาะแหล่งกำเนิดสินค้า สอดรับการเปิดเสรีทางการค้า มั่นใจผู้ประกอบการทำงานได้รวดเร็วขึ้น มุ่งสร้างธุรกิจให้เป็นคลัสเตอร์ พร้อมก้าวสู่การเป็นเมืองแฟชั่น
นางชุตาภรณ์ ลัมพสาระ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สศอ.ร่วมกับ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ได้พัฒนาโปรแกรมซอฟแวร์ ERP [Enterprise Resource Planning
] / Quick Response for Textile&Garment Industry ซึ่งเป็นซอฟแวร์ที่ใช้ในการจัดการ สร้างระบบเชื่อมโยงระหว่างอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจในรูปแบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าระหว่างกัน ซึ่งก่อให้เกิดการทำงานรวดเร็ว และเห็นผลภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยมั่นใจว่าการนำระบบดังกล่าวเข้ามาพัฒนาในอุตสาหกรรมสิ่งทอ จะทำให้กระบวนการผลิตและจำหน่ายของอุตสาหกรรมสิ่งทอมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในระยะแรกจะมีการเข้าไปศึกษาระบบการทำงานจากโรงงานตัวอย่าง และออกแบบซอฟแวร์ดังกล่าวให้เหมาะกับระบบการทำงานจริงของแต่ละโรงงาน ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในเร็วๆนี้
"โปรแกรมซอฟแวร์นี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงของระบบ Supply Chain Management หรือการจัดการแบบห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ ระบบวางแผนการผลิต ควบคุมการผลิต การขาย การตลาด ระบบคลังสินค้า การสั่งซื้อและการส่งมอบสินค้า อีกทั้ง ยังเป็นเครื่องมือชั้นดีในการช่วยสร้างคลัสเตอร์ให้กับอุตสาหกรรมสิ่งทอ ที่จะก้าวสู่การเป็นเมืองแฟชั่น นอกจากนี้ โปรแกรมดังกล่าวยังมีความพิเศษเฉพาะด้าน ที่สามารถรายงานแหล่งที่มาของวัตถุดิบทุกขั้นตอน ซึ่งจะเป็นผลดีสำหรับผู้ประกอบการไทย ในกรณีผู้นำเข้าในต่างประเทศมักมีการตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้า ดังนั้นถือเป็นประโยชน์ต่อไทยที่สามารถลดอุปสรรคทางการค้า และสามารถปฏิบัติตามกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า[Rules of Origin
] เพื่อรองรับกระแสการเปิดเสรีทางการค้า[FTA
] ได้มากขึ้น" นางชุตาภรณ์กล่าว
สำหรับ ระบบการทำงานของโปรแกรมซอฟแวร์ ERP [Enterprise Resource Planning
] / Quick Response for Textile&Garment Industry จะครอบคลุมในส่วนที่เป็นแกนของธุรกิจในทุกภาคการผลิต ตั้งแต่ระดับต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ ซึ่งประกอบด้วย อุตสาหกรรมปั่นด้าย อุตสาหกรรมทอผ้า อุตสาหกรรมฟอกย้อม และอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม โดยทั้ง 4 อุตสาหกรรมล้วนมีความเกี่ยวเนื่องกัน
ทั้งนี้ การตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้า [Rules of Origin
] สามารถทำได้โดยการใช้ตัวซอฟแวร์ช่วยทำงานในการค้นหาข้อมูลวัตถุดิบจากปริมาณสินค้าที่มีอยู่( Inventory) ซึ่งจะมีการทำงานร่วมกับระบบบาร์โค้ด ที่จะใช้รหัสแท่ง ในการแทนค่าต่างๆ ให้กับสินค้า เช่น ชื่อสินค้า ชนิดสินค้า Order Code วันที่ต้องทำเสร็จ เป็นต้น เพื่อสะดวกต่อการตรวจสอบและประกอบการตัดสินใจได้โดยใช้เวลาไม่นานนัก
นางชุตาภรณ์ กล่าวเสริมว่า จากการวิเคราะห์ พบว่า อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทย ยังคงประสบปัญหาด้านการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะความชำนาญเฉพาะด้าน ทำให้ต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส เป็นต้น เพื่อเข้ามาให้ความรู้ หรือ จัดอบรมในระยะสั้น ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการดำเนินการแต่ละครั้ง และอาจส่งผลให้ในระยะยาวผู้ประกอบการไทยไม่มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นแบบฉบับของตนเอง แต่เป็นการลอกเลียนแบบอย่างเดียว
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
นางชุตาภรณ์ ลัมพสาระ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สศอ.ร่วมกับ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ได้พัฒนาโปรแกรมซอฟแวร์ ERP [Enterprise Resource Planning
] / Quick Response for Textile&Garment Industry ซึ่งเป็นซอฟแวร์ที่ใช้ในการจัดการ สร้างระบบเชื่อมโยงระหว่างอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจในรูปแบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าระหว่างกัน ซึ่งก่อให้เกิดการทำงานรวดเร็ว และเห็นผลภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยมั่นใจว่าการนำระบบดังกล่าวเข้ามาพัฒนาในอุตสาหกรรมสิ่งทอ จะทำให้กระบวนการผลิตและจำหน่ายของอุตสาหกรรมสิ่งทอมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในระยะแรกจะมีการเข้าไปศึกษาระบบการทำงานจากโรงงานตัวอย่าง และออกแบบซอฟแวร์ดังกล่าวให้เหมาะกับระบบการทำงานจริงของแต่ละโรงงาน ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในเร็วๆนี้
"โปรแกรมซอฟแวร์นี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงของระบบ Supply Chain Management หรือการจัดการแบบห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ ระบบวางแผนการผลิต ควบคุมการผลิต การขาย การตลาด ระบบคลังสินค้า การสั่งซื้อและการส่งมอบสินค้า อีกทั้ง ยังเป็นเครื่องมือชั้นดีในการช่วยสร้างคลัสเตอร์ให้กับอุตสาหกรรมสิ่งทอ ที่จะก้าวสู่การเป็นเมืองแฟชั่น นอกจากนี้ โปรแกรมดังกล่าวยังมีความพิเศษเฉพาะด้าน ที่สามารถรายงานแหล่งที่มาของวัตถุดิบทุกขั้นตอน ซึ่งจะเป็นผลดีสำหรับผู้ประกอบการไทย ในกรณีผู้นำเข้าในต่างประเทศมักมีการตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้า ดังนั้นถือเป็นประโยชน์ต่อไทยที่สามารถลดอุปสรรคทางการค้า และสามารถปฏิบัติตามกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า[Rules of Origin
] เพื่อรองรับกระแสการเปิดเสรีทางการค้า[FTA
] ได้มากขึ้น" นางชุตาภรณ์กล่าว
สำหรับ ระบบการทำงานของโปรแกรมซอฟแวร์ ERP [Enterprise Resource Planning
] / Quick Response for Textile&Garment Industry จะครอบคลุมในส่วนที่เป็นแกนของธุรกิจในทุกภาคการผลิต ตั้งแต่ระดับต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ ซึ่งประกอบด้วย อุตสาหกรรมปั่นด้าย อุตสาหกรรมทอผ้า อุตสาหกรรมฟอกย้อม และอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม โดยทั้ง 4 อุตสาหกรรมล้วนมีความเกี่ยวเนื่องกัน
ทั้งนี้ การตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้า [Rules of Origin
] สามารถทำได้โดยการใช้ตัวซอฟแวร์ช่วยทำงานในการค้นหาข้อมูลวัตถุดิบจากปริมาณสินค้าที่มีอยู่( Inventory) ซึ่งจะมีการทำงานร่วมกับระบบบาร์โค้ด ที่จะใช้รหัสแท่ง ในการแทนค่าต่างๆ ให้กับสินค้า เช่น ชื่อสินค้า ชนิดสินค้า Order Code วันที่ต้องทำเสร็จ เป็นต้น เพื่อสะดวกต่อการตรวจสอบและประกอบการตัดสินใจได้โดยใช้เวลาไม่นานนัก
นางชุตาภรณ์ กล่าวเสริมว่า จากการวิเคราะห์ พบว่า อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทย ยังคงประสบปัญหาด้านการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะความชำนาญเฉพาะด้าน ทำให้ต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส เป็นต้น เพื่อเข้ามาให้ความรู้ หรือ จัดอบรมในระยะสั้น ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการดำเนินการแต่ละครั้ง และอาจส่งผลให้ในระยะยาวผู้ประกอบการไทยไม่มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นแบบฉบับของตนเอง แต่เป็นการลอกเลียนแบบอย่างเดียว
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-