ผลประโยชน์ทับซ้อนในการเจรจาภาคธุรกิจบริการกับออสเตรเลีย

        ข้อกล่าวหาว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนในการเจรจาภาคธุรกิจบริการกับออสเตรเลีย (เอกสารชี้แจงผลประโยชน์ทับซ้อนโทรคมนาคม)
        กรณีกล่าวหาว่าไทยนำเรื่องการเปิดตลาดโคนม ไปแลกกับการเปิดโทรคมนาคมและรถยนต์รวมทั้งชิ้นส่วน  และว่าผลประโยชน์ภาคธุรกิจบริการที่ไทยได้รับจากการทำ FTA ไทย-ออสเตรเลียมีผลประโยชน์ทับซ้อน   โดยเฉพาะในเรื่องการเปิดเสรีโทรคมนาคมได้เอี้อประโยชน์แก่นักธุรกิจบางกลุ่ม
        ขอเรียนว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด  และมีข้อเท็จจริงดังนี้
        1.  ในการเจรจาFTA กับ ออสเตรเลียนั้น คณะผู้แทนไทยไม่เคยยกเรื่องโทรคมนาคม  รวมทั้งรถยนต์และชิ้นส่วน มาต่อรองกับออสเตรเลียแต่อย่างใด
        2.  ไทยไม่ได้เรียกร้องให้ออสเตรเลียเปิดตลาดบริการโทรคมนาคม แต่ออสเตรเลียมีนโยบายเปิดเสรีการลงทุนในธุรกิจนี้อยู่แล้ว และได้ยื่นข้อเสนอเปิดเสรีธุรกิจโทรคมนาคมต่อ WTO  ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2546   แต่การเจรจาใน WTO ยังไม่มีผลสรุป   ดังนั้น  ภายใต้การเจรจา FTA  ออสเตรเลียจึงได้นำข้อเสนอเปิดตลาดธุรกิจดังกล่าวใน WTO มาเปิดให้กับคู่เจรจา FTA ทุกประเทศเป็นการล่วงหน้า  ซึ่งได้แก่ สหรัฐฯ  สิงคโปร์ และไทย
        3.  สำหรับการเปิดเสรีธุรกิจบริการที่ออสเตรเลียให้กับไทยไม่ถือว่าอยู่ในวงจำกัด เพราะอนุญาตให้คนไทยเข้าไปลงทุนในสาขาธุรกิจต่างๆได้ 100% เกือบทุกประเภท เช่น ที่ปรึกษากฎหมาย  การตกแต่งภูมิทัศน์ซ่อมรถยนต์ สถาบันสอนภาษาไทย สอนนวดไทย สอนทำอาหารไทย เหมืองแร่ และการผลิตสินค้าทุกประเภท  นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้ผู้บริหาร  ผู้จัดการ  ผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งผู้ติดตาม เข้าไปทำงานได้คราวละ 4 ปี  และยกเลิกเงื่อนไขที่ต้องทดสอบแรงงานในประเทศก่อน
        กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-