รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์’ เชื่อยังมีความพยายามที่จะ ดูด ส.ส. จากพรรคการเมืองอื่นอยู่ พร้อมเปรียบเป็นมะเร็งทางการเมืองพันธุ์เก่าที่กลับมาระบาดใหม่ ระบุมีกลุ่มคนอีกจำนวนไม่น้อยที่มีความเป็นห่วงและไม่เห็นด้วยกับการบริหารประเทศที่ผ่านมาของนายกฯ
วันนี้ (13 ส.ค.47) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การย้ายพรรคของ ส.ส. ในขณะนี้ว่า ความพยายามที่จะซื้อ หรือดูด ส.ส. จากพรรคการเมืองอื่นยังมีอยู่ เพราะว่าเป็นความพยายามที่ถือว่าเป็นเป้าหมายและถือเป็นการบริหารการเมืองอย่างหนึ่งที่ต้องการที่จะใช้วิธีลัด หรือพูดตรงๆคือวิธีมักง่ายทางการเมือง เนื่องจากคิดว่าถ้าจะสร้างคนต้องใช้เวลา ดังนั้นจึงใช้วิธีที่ง่ายที่สุดคือการไปดูดหรือซื้อผู้แทนมา เพราะฉะนั้นการที่นายกฯบอกว่าจะบริหารบ้านเมือง และจะไม่ยุ่งเรื่องการเมืองนั้น ตนคิดว่าวันนี้ชัดเจนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดคือการบริหารการเมือง โดยมีกระบวนการเริ่มตั้งแต่มีความพยายามที่จะไปซื้อ ด้านหนึ่งสร้างภาพโดยใช้วิธีปฏิเสธข่าว และอีกด้านหนึ่งก็มีทีมปล่อยข่าว ว่าคนนั้นจะมาอยู่ คนนี้จะมาอยู่ เพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับพรรคการเมืองที่เป็นเป้าหมาย
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนคิดว่าหลายพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในเป้าหมายของการปล่อยข่าว เพื่อทำให้เกิดความสับสนว่าพรรคประชาธิปัตย์มีแต่เลือดไหลออกหรือกำลังจะไหลออก ไม่จบไม่สิ้น ถือเป็นเป้าหมายทางการเมืองที่เขาเตรียมไว้ แต่ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะก่อนการเลือกตั้งก็ต้องมีทั้งคนเข้าคนออก ซึ่งในส่วนของพรรคฯก็มีคนออกไปเช่นเดียวกับทุกครั้ง แต่สิ่งที่ต้องการจะบอกกับสมาชิกพรรคฯคือพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีแต่เลือดไหลออก เลือดใหม่ไหลเข้ามาก็มีมาก และส่วนที่ออกก็มีคนใหม่เข้ามาทดแทนชดเชย และเราก็มั่นใจว่าคนใหม่ๆที่เข้ามา ล้วนแต่มีคุณภาพ ชดเชยกันได้ ไม่มีปัญหา ดังนั้นจึงขอให้ทุกคนมั่นใจ
‘ที่ต้องออกมาพูดก็เพื่อให้ประชาชนได้เห็นพฤติกรรมในทางการเมืองในเรื่องของการซื้อ การดูดผู้แทนฯ ซึ่งความจริงมันไม่ใช่ของใหม่ เป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เพียงแต่ว่าตอนนี้มันหนักข้อขึ้นกว่าในอดีต ซึ่งพูดง่ายๆก็คือเป็นมะเร็งทางการเมืองพันธุ์เก่าที่กลับมาระบาดใหม่ และระบาดหนักกว่าเดิม เพราะเงินมากกว่าเดิม ทุนมากกว่าเดิม ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องรับทราบ และไม่ควรไปเห็นดีเห็นงามด้วย และต้องไม่คล้อยตามกับนักการเมืองที่ใช้วิธีการอย่างนี้ ’ นายจุรินทร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีข่าวว่า ส.ส.พังงา และภูเก็ตของพรรคฯกำลังถูกทาบทามนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวผู้ที่ถูกกล่าวถึงจะเป็นผู้ให้คำตอบได้ดีที่สุด ซึ่งตนก็เพิ่งได้พบกับทั้ง 2 คน แต่เห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่จำเป็นต้องไปพูดคุยสอบถาม เนื่องจากข่าวลักษณะนี้จะออกมาเป็นระยะอยู่แล้ว ส่วนข้อถามที่ว่าประชาชนเชื้อสายจีนในภูเก็ตและพังงายังมีความนิยมชมชอบในพรรคฯอยู่หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าภาคใต้ทั้งหมดยังหนักแน่นกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งไม่เฉพาะภาคใต้เท่านั้น แต่ยังมั่นใจในพื้นที่ของกรุงเทพมหานครด้วย ‘สิ่งที่พล.ต.จำลองพูดเมื่อวาน ผมคิดว่าเป็นข้อเท็จจริงประการหนึ่งที่ตอกย้ำว่าสิ่งที่ผมคิดนั้น ใกล้เคียงกันว่า คนกรุงเทพฯก็เป็นห่วง รวมทั้งในภาคอื่น เช่น ภาคเหนือจะมีแต่กระแสไทยรักไทยนี่ ผมไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น ภาคกลาง ภาคอีสานก็เหมือนกัน ไม่ใช่หมายความว่าทั้งหมดต้องไทยรักไทย ความนิยมประชาธิปัตย์ไม่มี ไม่ได้เป็นอย่างนั้น’ นายจุรินทร์ กล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า พรรคไทยรักไทยพยายามสร้างกระแส และให้ข่าวในทำนองที่ว่าผู้แทนฯที่ย้ายมาอยู่กับพรรคไทยรักไทยเพราะกลัวสอบตก ซึ่งตนไม่คิดว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างนั้นเสมอไป การที่พรรคไทยรักไทยพยายามให้ข่าวในทำนองนั้น เป็นเพียงข้ออ้างที่จะสร้างความชอบธรรมในการที่จะไปดูดผู้แทนฯมาเข้าพรรคเท่านั้นเอง ‘ไม่ได้แปลว่าย้ายไปอยู่ไทยรักไทยแล้วจะสอบได้ทุกคน หรือว่าอยู่ประชาธิปัตย์แล้วจะสอบตกทุกคน ผมไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น ผมเชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณในการพิจารณาตัดสินใจ มันไม่ใช่สูตรสำเร็จ เพราะฉะนั้นใครอยู่กับพรรคการเมืองก็ต้องสอบตกหมด เที่ยวหน้าไทยรักไทยก็ต้องได้ 500 เสียง ผมไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น มันขัดกันกับเหตุผลของตัวเองที่บอกว่า ไทยรักไทยมีผลงาน พรรคมีความนิยม ถ้าพรรคได้รับความนิยมจริง มีผลงานจริง ทำไมต้องไปดูดผู้แทนคนอื่นมาขาย ทำไมไม่สร้างคนของตัวเองขึ้นมา’ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่จะมีการระดมเงินทุนจากนักธุรกิจจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อมาช่วยพรรคฯหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายจุรินทร์กล่าวว่า จากการเข้าพบของกลุ่มนักธุรกิจและผู้บริหารที่ผ่านมานั้น หลักใหญ่คือการพูดคุยกันเรื่องความเป็นห่วงบ้านเมือง การบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งมีการแสดงความคิดเห็นว่าแนวนโยบายของพรรคฯควรจะเดินไปทางไหน และการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย 11 ฉบับ ส่วนประเด็นเรื่องเงินทุนนั้น ไม่มีการพูดคุยกัน พร้อมกันนี้นายจุรินทร์ยอมรับว่ากฎหมาย 11 ฉบับควรจะมีการปรับปรุงแก้ไข ซึ่งขณะนี้พรรคฯได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อพูดคุยกันในเรื่องนี้แล้ว อย่างไรก็ตามอยากให้ประชาชนรับทราบว่าอย่างน้อยที่สุดตอนนี้มีกลุ่มนักธุรกิจ นักวิชาการ สหภาพแรงงาน และกลุ่มองค์กรอิสระ จำนวนไม่น้อยที่มีความเป็นห่วงและไม่เห็นด้วยกับการบริหารประเทศที่ผ่านมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ต่อข้อถามที่ว่าหากมีเงินทุนเข้ามาสนับสนุนพรรคฯจริง พรรคประชาธิปัตย์จะมีการพิจารณาอย่างไร นายจุรินทร์กล่าวว่า ปัจจุบันก็มีผู้สนับสนุนเงินทุนให้กับพรรคฯ ซึ่งทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดไว้ว่า การสนับสนุนเงินทุนให้กับพรรคการเมืองนั้นต้องสนับสนุนในลักษณะไหน เมื่อถามว่าถ้ามีเงินจำนวนมากเข้ามาในพรรคฯสุดท้ายพรรคฯจะกลายเป็นพรรคกลุ่มทุนไม่แตกต่างจากพรรคไทยรักไทย นายจุรินทร์กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เน้นเรื่องทุนอยู่แล้ว แต่เน้นเรื่องคุณภาพของคน อุดมการณ์ และการนำเสนอนโยบายและแนวทางการทำงานทางการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กลุ่มนักธุรกิจและผู้บริหารยื่นเงื่อนไขต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ประกาศให้ชัดเจนว่าจะยกเลิก พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ และ พ.ร.บ.ล้มละลายทันทีที่เป็นรัฐบาล และต้องการให้ประกาศภายในอาทิตย์หน้า เพื่อจะเทคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคฯ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ในส่วนของ พ.ร.บ. ล้มละลายก็ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเมื่อถึงเวลา ซึ่งพรรคฯได้มอบหมายให้นายสุทัศน์ เงินหมื่นเป็นผู้ดูแล ส่วนจะเสร็จทันอาทิตย์หน้าหรือไม่ ไม่ได้เป็นเงื่อนไขในการดำเนินการ พรรคฯจะดำเนินการตามความเหมาะสม และจะทำควบคู่ไปกับการประกาศนโยบาย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม ส่วนจะประกาศเมื่อไหร่นั้นต้องรอดูความเหมาะสมต่อไป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-
วันนี้ (13 ส.ค.47) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การย้ายพรรคของ ส.ส. ในขณะนี้ว่า ความพยายามที่จะซื้อ หรือดูด ส.ส. จากพรรคการเมืองอื่นยังมีอยู่ เพราะว่าเป็นความพยายามที่ถือว่าเป็นเป้าหมายและถือเป็นการบริหารการเมืองอย่างหนึ่งที่ต้องการที่จะใช้วิธีลัด หรือพูดตรงๆคือวิธีมักง่ายทางการเมือง เนื่องจากคิดว่าถ้าจะสร้างคนต้องใช้เวลา ดังนั้นจึงใช้วิธีที่ง่ายที่สุดคือการไปดูดหรือซื้อผู้แทนมา เพราะฉะนั้นการที่นายกฯบอกว่าจะบริหารบ้านเมือง และจะไม่ยุ่งเรื่องการเมืองนั้น ตนคิดว่าวันนี้ชัดเจนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดคือการบริหารการเมือง โดยมีกระบวนการเริ่มตั้งแต่มีความพยายามที่จะไปซื้อ ด้านหนึ่งสร้างภาพโดยใช้วิธีปฏิเสธข่าว และอีกด้านหนึ่งก็มีทีมปล่อยข่าว ว่าคนนั้นจะมาอยู่ คนนี้จะมาอยู่ เพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับพรรคการเมืองที่เป็นเป้าหมาย
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนคิดว่าหลายพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในเป้าหมายของการปล่อยข่าว เพื่อทำให้เกิดความสับสนว่าพรรคประชาธิปัตย์มีแต่เลือดไหลออกหรือกำลังจะไหลออก ไม่จบไม่สิ้น ถือเป็นเป้าหมายทางการเมืองที่เขาเตรียมไว้ แต่ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะก่อนการเลือกตั้งก็ต้องมีทั้งคนเข้าคนออก ซึ่งในส่วนของพรรคฯก็มีคนออกไปเช่นเดียวกับทุกครั้ง แต่สิ่งที่ต้องการจะบอกกับสมาชิกพรรคฯคือพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีแต่เลือดไหลออก เลือดใหม่ไหลเข้ามาก็มีมาก และส่วนที่ออกก็มีคนใหม่เข้ามาทดแทนชดเชย และเราก็มั่นใจว่าคนใหม่ๆที่เข้ามา ล้วนแต่มีคุณภาพ ชดเชยกันได้ ไม่มีปัญหา ดังนั้นจึงขอให้ทุกคนมั่นใจ
‘ที่ต้องออกมาพูดก็เพื่อให้ประชาชนได้เห็นพฤติกรรมในทางการเมืองในเรื่องของการซื้อ การดูดผู้แทนฯ ซึ่งความจริงมันไม่ใช่ของใหม่ เป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เพียงแต่ว่าตอนนี้มันหนักข้อขึ้นกว่าในอดีต ซึ่งพูดง่ายๆก็คือเป็นมะเร็งทางการเมืองพันธุ์เก่าที่กลับมาระบาดใหม่ และระบาดหนักกว่าเดิม เพราะเงินมากกว่าเดิม ทุนมากกว่าเดิม ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องรับทราบ และไม่ควรไปเห็นดีเห็นงามด้วย และต้องไม่คล้อยตามกับนักการเมืองที่ใช้วิธีการอย่างนี้ ’ นายจุรินทร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีข่าวว่า ส.ส.พังงา และภูเก็ตของพรรคฯกำลังถูกทาบทามนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวผู้ที่ถูกกล่าวถึงจะเป็นผู้ให้คำตอบได้ดีที่สุด ซึ่งตนก็เพิ่งได้พบกับทั้ง 2 คน แต่เห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่จำเป็นต้องไปพูดคุยสอบถาม เนื่องจากข่าวลักษณะนี้จะออกมาเป็นระยะอยู่แล้ว ส่วนข้อถามที่ว่าประชาชนเชื้อสายจีนในภูเก็ตและพังงายังมีความนิยมชมชอบในพรรคฯอยู่หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าภาคใต้ทั้งหมดยังหนักแน่นกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งไม่เฉพาะภาคใต้เท่านั้น แต่ยังมั่นใจในพื้นที่ของกรุงเทพมหานครด้วย ‘สิ่งที่พล.ต.จำลองพูดเมื่อวาน ผมคิดว่าเป็นข้อเท็จจริงประการหนึ่งที่ตอกย้ำว่าสิ่งที่ผมคิดนั้น ใกล้เคียงกันว่า คนกรุงเทพฯก็เป็นห่วง รวมทั้งในภาคอื่น เช่น ภาคเหนือจะมีแต่กระแสไทยรักไทยนี่ ผมไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น ภาคกลาง ภาคอีสานก็เหมือนกัน ไม่ใช่หมายความว่าทั้งหมดต้องไทยรักไทย ความนิยมประชาธิปัตย์ไม่มี ไม่ได้เป็นอย่างนั้น’ นายจุรินทร์ กล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า พรรคไทยรักไทยพยายามสร้างกระแส และให้ข่าวในทำนองที่ว่าผู้แทนฯที่ย้ายมาอยู่กับพรรคไทยรักไทยเพราะกลัวสอบตก ซึ่งตนไม่คิดว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างนั้นเสมอไป การที่พรรคไทยรักไทยพยายามให้ข่าวในทำนองนั้น เป็นเพียงข้ออ้างที่จะสร้างความชอบธรรมในการที่จะไปดูดผู้แทนฯมาเข้าพรรคเท่านั้นเอง ‘ไม่ได้แปลว่าย้ายไปอยู่ไทยรักไทยแล้วจะสอบได้ทุกคน หรือว่าอยู่ประชาธิปัตย์แล้วจะสอบตกทุกคน ผมไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น ผมเชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณในการพิจารณาตัดสินใจ มันไม่ใช่สูตรสำเร็จ เพราะฉะนั้นใครอยู่กับพรรคการเมืองก็ต้องสอบตกหมด เที่ยวหน้าไทยรักไทยก็ต้องได้ 500 เสียง ผมไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น มันขัดกันกับเหตุผลของตัวเองที่บอกว่า ไทยรักไทยมีผลงาน พรรคมีความนิยม ถ้าพรรคได้รับความนิยมจริง มีผลงานจริง ทำไมต้องไปดูดผู้แทนคนอื่นมาขาย ทำไมไม่สร้างคนของตัวเองขึ้นมา’ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่จะมีการระดมเงินทุนจากนักธุรกิจจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อมาช่วยพรรคฯหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายจุรินทร์กล่าวว่า จากการเข้าพบของกลุ่มนักธุรกิจและผู้บริหารที่ผ่านมานั้น หลักใหญ่คือการพูดคุยกันเรื่องความเป็นห่วงบ้านเมือง การบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งมีการแสดงความคิดเห็นว่าแนวนโยบายของพรรคฯควรจะเดินไปทางไหน และการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย 11 ฉบับ ส่วนประเด็นเรื่องเงินทุนนั้น ไม่มีการพูดคุยกัน พร้อมกันนี้นายจุรินทร์ยอมรับว่ากฎหมาย 11 ฉบับควรจะมีการปรับปรุงแก้ไข ซึ่งขณะนี้พรรคฯได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อพูดคุยกันในเรื่องนี้แล้ว อย่างไรก็ตามอยากให้ประชาชนรับทราบว่าอย่างน้อยที่สุดตอนนี้มีกลุ่มนักธุรกิจ นักวิชาการ สหภาพแรงงาน และกลุ่มองค์กรอิสระ จำนวนไม่น้อยที่มีความเป็นห่วงและไม่เห็นด้วยกับการบริหารประเทศที่ผ่านมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ต่อข้อถามที่ว่าหากมีเงินทุนเข้ามาสนับสนุนพรรคฯจริง พรรคประชาธิปัตย์จะมีการพิจารณาอย่างไร นายจุรินทร์กล่าวว่า ปัจจุบันก็มีผู้สนับสนุนเงินทุนให้กับพรรคฯ ซึ่งทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดไว้ว่า การสนับสนุนเงินทุนให้กับพรรคการเมืองนั้นต้องสนับสนุนในลักษณะไหน เมื่อถามว่าถ้ามีเงินจำนวนมากเข้ามาในพรรคฯสุดท้ายพรรคฯจะกลายเป็นพรรคกลุ่มทุนไม่แตกต่างจากพรรคไทยรักไทย นายจุรินทร์กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เน้นเรื่องทุนอยู่แล้ว แต่เน้นเรื่องคุณภาพของคน อุดมการณ์ และการนำเสนอนโยบายและแนวทางการทำงานทางการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กลุ่มนักธุรกิจและผู้บริหารยื่นเงื่อนไขต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ประกาศให้ชัดเจนว่าจะยกเลิก พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ และ พ.ร.บ.ล้มละลายทันทีที่เป็นรัฐบาล และต้องการให้ประกาศภายในอาทิตย์หน้า เพื่อจะเทคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคฯ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ในส่วนของ พ.ร.บ. ล้มละลายก็ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเมื่อถึงเวลา ซึ่งพรรคฯได้มอบหมายให้นายสุทัศน์ เงินหมื่นเป็นผู้ดูแล ส่วนจะเสร็จทันอาทิตย์หน้าหรือไม่ ไม่ได้เป็นเงื่อนไขในการดำเนินการ พรรคฯจะดำเนินการตามความเหมาะสม และจะทำควบคู่ไปกับการประกาศนโยบาย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม ส่วนจะประกาศเมื่อไหร่นั้นต้องรอดูความเหมาะสมต่อไป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-