นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกลุ่มนักธุรกิจเสนอให้ทบทวนกฎหมาย 11 ฉบับว่า กรณีกฎหมายทุนรัฐวิสาหกิจที่มีปัญหา เพราะรัฐบาลนี้อาจจะใช้โดยไม่ค่อยเข้าใจเรื่องของหลักการของการแปรรูปอย่างที่เคยวางเอาไว้ในรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งเน้นในเรื่องของการเพิ่มการแข่งขันและการสร้างระบบการกำกับดูแลที่เป็นอิสระ แต่รัฐบาลนี้กลับมาเน้นในเรื่องของการขาย คือการนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยอาศัยกฎหมายทุนรัฐวิสาหกิจ ซึ่งตนไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่จะไปเลิกทั้ง 11 ฉบับ ‘กรณีของกฟผ. รัฐบาลที่แล้วไม่เคยคิดว่าจะเอากฎหมายทุนมาแปลง กฟผ.ทั้งหมดเป็นบริษัท เพราะว่าอย่างน้อยเราต้องคิดแยกเรื่องของเขื่อน ไม่ให้เข้าไปเป็นในรูปแบบนั้น และต้องสร้างองค์กรกำกับดูแลก่อน โดยมีกฎหมายเฉพาะออกมา ซึ่งก็ร่างไว้เสร็จแล้ว แต่ว่ารัฐบาลนี้ตัดสินใจที่จะไม่นำเสนอ ส่วนเรื่องของการทบทวนกฎหมาย 11 ฉบับนั้นพรรคก็มีการหารือกันก่อนที่กรณีนี้เกิดขึ้น แต่ว่าไม่เคยพูดถึงขั้นว่าจะยกเลิกทั้ง 11 ฉบับ ‘ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว และกล่าวต่อว่าส่วนกรณีกฎหมายล้มละลายตนคิดว่า เมื่อใช้ไปแล้วก็มาทบทวนประเมินดูว่าสร้างความเสียเปรียบหรือได้เปรียบให้แก่ลูกหนี้-เจ้าหนี้มากน้อยแค่ไหน หรือว่ามีอุปสรรคในแง่ของการอำนวยความยุติธรรมหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่ากฎหมายทั้ง 2 ฉบับคือทุนรัฐวิสาหกิจและล้มลายจะสามารถยกเลิกได้เลย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กฎหมายทุนรัฐวิสาหกิจถ้าจะยกเลิกต้องมีกฎหมายที่มาทดแทน ซึ่งจะเป็นกฎหมายที่ทำให้การแปรรูปเป็นไปตามเจตนารมณ์ แต่ถ้าเป็นการแปรรูปโดยไม่ให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมเลยนั้นคงเป็นไปได้ยาก เพราะต้องยอมรับว่าการสร้างการแข่งขันเป็นวิธีการหนึ่งที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ ส่วนกฎหมายล้มละลายถ้าย้อนไปดูจะพบว่าเป็นเสียงเรียกร้องมาตั้งแต่ก่อนวิกฤตเศรษฐกิจ เพียงแต่เมื่อมีปัญหาในการนำไปปฏิบัติ จะปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันก็สามารถทำได้ ‘ถ้าจะศรีธนญชัยก็ทำฉบับใหม่ออกมา เปลี่ยนชื่อซะ แก้ไขบ้าง ผมคิดว่าก็สามารถทำได้ แต่พรรคประชาธิปัตย์ทำอะไรตรงไปตรงมามากกว่า ถ้าส่วนใหญ่ที่เป็นหลักการสำคัญยังใช้ได้ ก็ปรับปรุงเฉพาะส่วนที่บกพร่อง’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านักธุรกิจจะเสนอทุนโดยพรรคต้องยอมรับเงื่อนไขที่เสนอนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การจะรับทุนแล้วไปรับเงื่อนไขมาในสิ่งที่เราไม่เชื่อ ตนคิดว่าไม่ควรทำ จากที่สอบถามหัวหน้าพรรคฯก็ได้รับคำตอบว่ายังไม่มีการคุยกันในเรื่องเงินทุน เมื่อถามว่าเรื่องเงินทุนมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคการเมืองทุกพรรคมีค่าใช้จ่าย แต่สิ่งสำคัญคือการมาสนับสนุนเรื่องทุนต้องโปร่งใส แต่จะมาตั้งเงื่อนไขที่จะไปผูกมัดไม่ให้พรรคมีความเป็นอิสระในการทำงานตามความเชื่อ นโยบาย และอุดมการณ์คงไม่ได้ แต่ถ้าต้องการจะสนับสนุนจริงก็คงต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ‘ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมคณะผู้บริหารตามปกติ คงได้พูดคุยกัน ส่วนภาพที่ออกมาจะเป็นผลบวกหรือลบต่อพรรคนั้นก็แล้วแต่คนจะมอง แต่ขอยืนยันว่าในเรื่องของทุนยังไม่มีการพูดคุยกัน ‘ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-
ผู้สื่อข่าวถามว่ากฎหมายทั้ง 2 ฉบับคือทุนรัฐวิสาหกิจและล้มลายจะสามารถยกเลิกได้เลย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กฎหมายทุนรัฐวิสาหกิจถ้าจะยกเลิกต้องมีกฎหมายที่มาทดแทน ซึ่งจะเป็นกฎหมายที่ทำให้การแปรรูปเป็นไปตามเจตนารมณ์ แต่ถ้าเป็นการแปรรูปโดยไม่ให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมเลยนั้นคงเป็นไปได้ยาก เพราะต้องยอมรับว่าการสร้างการแข่งขันเป็นวิธีการหนึ่งที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ ส่วนกฎหมายล้มละลายถ้าย้อนไปดูจะพบว่าเป็นเสียงเรียกร้องมาตั้งแต่ก่อนวิกฤตเศรษฐกิจ เพียงแต่เมื่อมีปัญหาในการนำไปปฏิบัติ จะปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันก็สามารถทำได้ ‘ถ้าจะศรีธนญชัยก็ทำฉบับใหม่ออกมา เปลี่ยนชื่อซะ แก้ไขบ้าง ผมคิดว่าก็สามารถทำได้ แต่พรรคประชาธิปัตย์ทำอะไรตรงไปตรงมามากกว่า ถ้าส่วนใหญ่ที่เป็นหลักการสำคัญยังใช้ได้ ก็ปรับปรุงเฉพาะส่วนที่บกพร่อง’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านักธุรกิจจะเสนอทุนโดยพรรคต้องยอมรับเงื่อนไขที่เสนอนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การจะรับทุนแล้วไปรับเงื่อนไขมาในสิ่งที่เราไม่เชื่อ ตนคิดว่าไม่ควรทำ จากที่สอบถามหัวหน้าพรรคฯก็ได้รับคำตอบว่ายังไม่มีการคุยกันในเรื่องเงินทุน เมื่อถามว่าเรื่องเงินทุนมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคการเมืองทุกพรรคมีค่าใช้จ่าย แต่สิ่งสำคัญคือการมาสนับสนุนเรื่องทุนต้องโปร่งใส แต่จะมาตั้งเงื่อนไขที่จะไปผูกมัดไม่ให้พรรคมีความเป็นอิสระในการทำงานตามความเชื่อ นโยบาย และอุดมการณ์คงไม่ได้ แต่ถ้าต้องการจะสนับสนุนจริงก็คงต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ‘ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมคณะผู้บริหารตามปกติ คงได้พูดคุยกัน ส่วนภาพที่ออกมาจะเป็นผลบวกหรือลบต่อพรรคนั้นก็แล้วแต่คนจะมอง แต่ขอยืนยันว่าในเรื่องของทุนยังไม่มีการพูดคุยกัน ‘ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-