นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีข่าวการย้ายพรรคของส.ส.ของพรรคว่ามีข่าวเรื่อยๆว่าคนของเราถูกทาบทามซึ่งตนคิดว่าคงเป็นวิธีการอย่างหนึ่งในการสร้างข่าว อย่างหลังสุดกรณีของนายวิลาศ กับ หม่อมราชวงค์สุขุมพันธ์ตนคิดว่าคงไม่ใช่ เพราะว่านายวิลาศก็ปฎิเสธไปแล้ว ส่วนหม่อมราชวงค์สุขุมพันธ์ก็ช่วยงานพรรคอยู่ตลอด กระบวนการในการดูดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคโน้นพรรคนี้รวมทั้งประชาธิปัตย์เคงยังมีอยู่เรื่อยๆ ซึ่งเริ่มมีการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมมากขึ้น
ต่อข้อถามว่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมี ส.ส. ลาออกไปอยู่พรรคโน้นพรรคนี้ ประชาธิปัตย์ดูเหมือนว่าจะมี ส.ส. ลาออกมาอยู่แค่คนเดียวที่มาอยู่กับประชาธิปัตย์ บัญญัติ กล่าวว่าเพราะว่าพรรคไม่มีนโยบายที่จะไปกวาดต้อน ส.ส.ที่มาจากพรรคโน้นพรรคนี้อยู่แล้ว การสร้างคนใหม่สู้กับคนทีมีฐานเดิมเป็นเรื่องที่พรรคทำมาโดยตลอด
‘กรณีหน้าที่ตรวจสอบทำไม่ได้เพราะเสียงไม่พอที่จะยื่นถอดถอนได้นั้น ตรงนี้น่าเสียดาย เพราะว่าแม้ว่าในสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ ไม่สามารถที่จะยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีได้ แต่ว่าในกรณีที่รัฐมนตรีทุจริต คอรัปชั่น จงใจ ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ หรือบทบัญญัติกฎหมายอย่างชัดเจน ทำผิดหน้าที่ รัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 1 ใน 4 ซึ่งเดิม 500 คน ก็ต้อง 125 ขณะนี้เหลือ 460 ก็ต้องประมาณ 115 แต่ตอนนี้เรามีไม่ถึง 115 แล้วมีแค่ 111, 112 ตรงนี้ต้องถือว่าประชาชนเสียประโยชน์เหมือนกัน หมายถึงว่าในช่วง 3, 4 เดือนต่อไปนี้มีรัฐมนตรีรู้ แก่อำนาจจงใจฝ่าฝืนกฎหมาย หรือร่ำรวยผิดปกติ ทำผิดหน้าที่เราก็ทำอะไรเขาไม่ได้’ นายบัญญัติกล่าว
นายบัญญัติ กล่าวต่อว่า องค์กรตรวจสอบยังมีอยู่มากมายในตอนนี้ บางองค์กรเป็นที่ชัดเจนว่ามีฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแทรง ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นส่วนที่ต้องว่ากันต่อไปในวันข้างหน้าว่าบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญจะต้องแก้ไข พรรคประชาธิปัตย์ก็เคยตั้งหลัก แต่มีเสียงวิพากษ์วิจารย์กันมาก ‘ถ้าพรรคการเมืองแก้เองเดี๋ยวก็แก้เพื่อเพิ่มอำนาจให้กับตนเองหรือลดอำนาจให้กับคนอื่นเขา ก็เลยประสงค์จะให้ทางนักวิชาการอิสระหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับประชาธิปไตยข้างนอกมาช่วยจุดประกาย จุดประเด็นขึ้นมา แล้วทางพรรคเองก็ ยินดีขานรับสนับสนุนอยู่’ นายบัญญัติกล่าว
นายบัญญัติ กล่าวว่า เรื่องเศรษฐกิจตอนนี้เศรษฐกิจทางการเมือง สิ่งที่คนประชาธิปัตย์จะพูดในสภาก็คือว่ารัฐบาลถือโอกาสไปใช้เงินนอกงบประมาณ โดยไปใช้สถาบันการเงินภาครัฐในการปล่อยสินเชื่ออย่างง่ายๆ เพื่อสนองนโยบายประชานิยมของรัฐบาลก็เตือนรัฐบาลให้ระมัดระวังว่า กลัวว่าวิกฤตการณ์ที่มันเคยเกิดขึ้นปี 39 ปี 40 คือ วิกฤตการณ์หนี้เสีย NPL ‘ที่มันพอกพูนอย่างมากมาย นำไปสู่ความไม่เชื่อมั่น ความไม่เชื่อถือ มันจะกลับมาใหม่อีกก็ได้ นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์เตือนไว้ พยากรณ์ไว้ และก็วันนี้ก็มีปัญหา แล้วผมคิดว่าตรงนี้ก็สำคัญเหมือนกันถ้ารัฐบาลไม่เร่งที่จะเข้าไปตรวจสอบเข้าไปคลี่คลายให้ได้รับรู้รับทราบว่าปัญหามันมีมากน้อยแค่ไหน สำคัญก็คือว่าถ้าไม่มรีบดำเนินการลงไปสักอย่าง สองอย่าง เพื่อจะเรียกคืนความเชื่อมั่นให้ได้น่ากังวลครับ เพราะว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีความรู้สึกไม่เชื่อมั่นสถาบันการเงินขึ้นมาแล้วก็จะไปกันใหญ่’ นายบัญญัติกล่าว
ต่อข้อถามที่ว่า ตอนนี้พรรคมีการเตรียมการที่จะจัดระดมทุนเพิ่มหรือยัง นายบัญญัติ กล่าวว่าคงต้องมีก่อนการเลือกตั้งใหญ่ ต้องมีการจัดการกัน คือวันไหนเงินร่อยหลอขาดมือก็ต้องระดมกันทีหนึ่งเพราะเงินที่ กกต.ให้มาก็ยังพอใช้ไปอีกระยะหนึ่ง และตนขอขอยืนยันว่าคุณเอกยุธกับคณะที่มาในวันนั้นยังไม่ได้บริจาค และยังไม่ได้แสดงความจำนงค์ว่าจะบริจาค เพราะฉนั้นกรรมการก็ไม่ต้องมาพิจจารณากันว่าจะรับบริจาคหรือไม่ เพราะไม่มีการบริจาค
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-
ต่อข้อถามว่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมี ส.ส. ลาออกไปอยู่พรรคโน้นพรรคนี้ ประชาธิปัตย์ดูเหมือนว่าจะมี ส.ส. ลาออกมาอยู่แค่คนเดียวที่มาอยู่กับประชาธิปัตย์ บัญญัติ กล่าวว่าเพราะว่าพรรคไม่มีนโยบายที่จะไปกวาดต้อน ส.ส.ที่มาจากพรรคโน้นพรรคนี้อยู่แล้ว การสร้างคนใหม่สู้กับคนทีมีฐานเดิมเป็นเรื่องที่พรรคทำมาโดยตลอด
‘กรณีหน้าที่ตรวจสอบทำไม่ได้เพราะเสียงไม่พอที่จะยื่นถอดถอนได้นั้น ตรงนี้น่าเสียดาย เพราะว่าแม้ว่าในสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ ไม่สามารถที่จะยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีได้ แต่ว่าในกรณีที่รัฐมนตรีทุจริต คอรัปชั่น จงใจ ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ หรือบทบัญญัติกฎหมายอย่างชัดเจน ทำผิดหน้าที่ รัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 1 ใน 4 ซึ่งเดิม 500 คน ก็ต้อง 125 ขณะนี้เหลือ 460 ก็ต้องประมาณ 115 แต่ตอนนี้เรามีไม่ถึง 115 แล้วมีแค่ 111, 112 ตรงนี้ต้องถือว่าประชาชนเสียประโยชน์เหมือนกัน หมายถึงว่าในช่วง 3, 4 เดือนต่อไปนี้มีรัฐมนตรีรู้ แก่อำนาจจงใจฝ่าฝืนกฎหมาย หรือร่ำรวยผิดปกติ ทำผิดหน้าที่เราก็ทำอะไรเขาไม่ได้’ นายบัญญัติกล่าว
นายบัญญัติ กล่าวต่อว่า องค์กรตรวจสอบยังมีอยู่มากมายในตอนนี้ บางองค์กรเป็นที่ชัดเจนว่ามีฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแทรง ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นส่วนที่ต้องว่ากันต่อไปในวันข้างหน้าว่าบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญจะต้องแก้ไข พรรคประชาธิปัตย์ก็เคยตั้งหลัก แต่มีเสียงวิพากษ์วิจารย์กันมาก ‘ถ้าพรรคการเมืองแก้เองเดี๋ยวก็แก้เพื่อเพิ่มอำนาจให้กับตนเองหรือลดอำนาจให้กับคนอื่นเขา ก็เลยประสงค์จะให้ทางนักวิชาการอิสระหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับประชาธิปไตยข้างนอกมาช่วยจุดประกาย จุดประเด็นขึ้นมา แล้วทางพรรคเองก็ ยินดีขานรับสนับสนุนอยู่’ นายบัญญัติกล่าว
นายบัญญัติ กล่าวว่า เรื่องเศรษฐกิจตอนนี้เศรษฐกิจทางการเมือง สิ่งที่คนประชาธิปัตย์จะพูดในสภาก็คือว่ารัฐบาลถือโอกาสไปใช้เงินนอกงบประมาณ โดยไปใช้สถาบันการเงินภาครัฐในการปล่อยสินเชื่ออย่างง่ายๆ เพื่อสนองนโยบายประชานิยมของรัฐบาลก็เตือนรัฐบาลให้ระมัดระวังว่า กลัวว่าวิกฤตการณ์ที่มันเคยเกิดขึ้นปี 39 ปี 40 คือ วิกฤตการณ์หนี้เสีย NPL ‘ที่มันพอกพูนอย่างมากมาย นำไปสู่ความไม่เชื่อมั่น ความไม่เชื่อถือ มันจะกลับมาใหม่อีกก็ได้ นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์เตือนไว้ พยากรณ์ไว้ และก็วันนี้ก็มีปัญหา แล้วผมคิดว่าตรงนี้ก็สำคัญเหมือนกันถ้ารัฐบาลไม่เร่งที่จะเข้าไปตรวจสอบเข้าไปคลี่คลายให้ได้รับรู้รับทราบว่าปัญหามันมีมากน้อยแค่ไหน สำคัญก็คือว่าถ้าไม่มรีบดำเนินการลงไปสักอย่าง สองอย่าง เพื่อจะเรียกคืนความเชื่อมั่นให้ได้น่ากังวลครับ เพราะว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีความรู้สึกไม่เชื่อมั่นสถาบันการเงินขึ้นมาแล้วก็จะไปกันใหญ่’ นายบัญญัติกล่าว
ต่อข้อถามที่ว่า ตอนนี้พรรคมีการเตรียมการที่จะจัดระดมทุนเพิ่มหรือยัง นายบัญญัติ กล่าวว่าคงต้องมีก่อนการเลือกตั้งใหญ่ ต้องมีการจัดการกัน คือวันไหนเงินร่อยหลอขาดมือก็ต้องระดมกันทีหนึ่งเพราะเงินที่ กกต.ให้มาก็ยังพอใช้ไปอีกระยะหนึ่ง และตนขอขอยืนยันว่าคุณเอกยุธกับคณะที่มาในวันนั้นยังไม่ได้บริจาค และยังไม่ได้แสดงความจำนงค์ว่าจะบริจาค เพราะฉนั้นกรรมการก็ไม่ต้องมาพิจจารณากันว่าจะรับบริจาคหรือไม่ เพราะไม่มีการบริจาค
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-