แท็ก
อภิรักษ์ โกษะโยธิน
อภิรักษ์’ เสนอนโยบายพัฒนาฝั่งธนฯครบวงจร โชว์ 5 แผนแก้ปัญหาจราจร เร่งสร้าง 4 สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา รื้อฟื้น-ปรับปรุงเรือโดยสาร 4 คลองใหญ่ พร้อมผลักดันเขตบางขุนเทียนเป็นศูนย์กลางสินค้าทะเล-แหล่งพักผ่อน
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ในการเปิดปราศรัยใหญ่ที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ ในเย็นวันพุธที่ 18 สิงหาคมนี้ ตนและทีมงานบริหารกทม. จะนำเสนอนโยบายพัฒนาฝั่งธนฯแบบยั่งยืนและครบวงจรต่อพี่น้องชาวฝั่งธนฯด้วย
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า แผนงานหลักในการพัฒนาฝั่งธนฯประกอบด้วย ด้านการจราจร มี 5 แผนงานหลัก คือ
1) เร่งรัดการขยายเส้นทาง รถไฟฟ้าบีทีเอส เชื่อมต่อจากถนนสาทรไปจนถึงบางหว้า เขตภาษีเจริญ ระยะทาง 6.7 กิโลเมตร โดยกทม.สนับสนุนเงินลงทุนจำนวน 35% ของโครงการ
2) จัด รถเมล์ด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) วิ่งชิดเกาะกลางถนน 3 เส้นทาง เพื่อนำผู้โดยสารมาเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนหลัก คือ เส้นทางตลิ่งชัน-ถนนราชเทวี, เส้นทางถนนบรมราชชนนี-วงเวียนใหญ่ และเส้นทางจากวงเวียนใหญ่-ถนนพระราม 2
3) ปรับปรุง-รื้อฟื้น การเดินเรือโดยสารในคลองฝั่งธนบุรีทั้งหมด อาทิ คลองภาษีเจริญ คลองบางกอกน้อย คลองบางกอกใหญ่ คลองมหาสวัสดิ์ เป็นต้น ให้เป็นทางเลือกของประชาชนในการเดินทางสัญจรด้วยราคาถูก รวดเร็ว และปลอดภัย
4) เร่งรัดการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมฝั่งธนบุรีกับฝั่งกรุงเทพฯ อีก 4 แห่ง คือ สะพานเชื่อมถนนเจริญนคร-ท่าน้ำถนนตก, สะพานเชื่อมท่าดินแดง เขตคลองสาน-ท่าน้ำราชวงศ์, สะพานเชื่อมถนนลาดหญ้า-ถนนมหาพฤฒาราม และสะพานเชื่อมเขตบางพลัด-ท่าน้ำเกียกกาย โดยทั้ง 4 แห่งกทม.จะสนับสนุนงบประมาณแห่งละ 30%
5) เร่งรัดการก่อสร้าง ถนนรูปแบบใหม่ สายพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 โดยจัดให้มีช่องทางจักรยานตลอดสาย เป็นสายแรกของประเทศไทย พร้อมกับจัดหาพื้นที่สวนสาธารณะตลอดสองฝั่งถนนสายนี้ด้วย
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ในด้านส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว จะสนับสนุนให้ เขตบางขุนเทียน เป็นศูนย์กลางสินค้าทางทะเลของกรุงเทพฯ มีตลาดกลางอาหารทะเลสดและแปรรูป จัดให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งจัดระบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์บริเวณป่าชายเลน และชายทะเล ส่วนเขตตลิ่งชันจะส่งเสริมให้เป็นเขตเศรษฐกิจชุมชนริมคลอง ตลอดจนการสนับสนุนการท่องเที่ยวทางน้ำ เพื่อพัฒนาอาชีพของพี่น้องในพื้นที่ โดยเฉพาะการปรับปรุงตลาดน้ำให้มีสินค้าหลากหลาย ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ‘บริเวณพระราชวังเดิม และย่านกรุงเก่า เขตบางกอกน้อย ถือเป็นโบราณสถานที่ภาคภูมิใจของพี่น้องฝั่งธนฯ ผมจะพัฒนาให้เป็นเขตท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และจัดตั้งศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี เพื่อให้เยาวชนและประชาชนได้ศึกษาเรียนรู้อย่างเป็นระบบ’ นายอภิรักษ์กล่าว
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า อีกเรื่องหนึ่งคือ การเพิ่มพื้นที่สวนสาธารณะ ปัจจุบันพี่น้องชาวฝั่งธนฯมีเพียงสวนธนบุรีรมย์เพียงแห่งเดียวซึ่งไม่เพียงพอ ตนจะจัดหาพื้นที่ในเขตรอบนอกอย่างน้อย 2-3 พื้นที่ เช่น เขตทวีวัฒนา เขตตลิ่งชัน เขตบางแค เขตบางขุนเทียน เป็นต้น ให้เป็นปอดแห่งใหม่ของพี่น้องฝั่งธนฯ ‘ผมมั่นใจครับว่า แผนงานหลักที่กล่าวมาข้างต้นนี้ จะช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวฝั่งธนฯให้ดีขึ้นได้ ผมและทีมงานบริหารกทม. ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในแต่ละด้านอยู่แล้ว พร้อมแล้วที่จะผลักดันแผนงานและนโยบายเหล่านี้ให้เป็นจริง’ นายอภิรักษ์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ในการเปิดปราศรัยใหญ่ที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ ในเย็นวันพุธที่ 18 สิงหาคมนี้ ตนและทีมงานบริหารกทม. จะนำเสนอนโยบายพัฒนาฝั่งธนฯแบบยั่งยืนและครบวงจรต่อพี่น้องชาวฝั่งธนฯด้วย
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า แผนงานหลักในการพัฒนาฝั่งธนฯประกอบด้วย ด้านการจราจร มี 5 แผนงานหลัก คือ
1) เร่งรัดการขยายเส้นทาง รถไฟฟ้าบีทีเอส เชื่อมต่อจากถนนสาทรไปจนถึงบางหว้า เขตภาษีเจริญ ระยะทาง 6.7 กิโลเมตร โดยกทม.สนับสนุนเงินลงทุนจำนวน 35% ของโครงการ
2) จัด รถเมล์ด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) วิ่งชิดเกาะกลางถนน 3 เส้นทาง เพื่อนำผู้โดยสารมาเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนหลัก คือ เส้นทางตลิ่งชัน-ถนนราชเทวี, เส้นทางถนนบรมราชชนนี-วงเวียนใหญ่ และเส้นทางจากวงเวียนใหญ่-ถนนพระราม 2
3) ปรับปรุง-รื้อฟื้น การเดินเรือโดยสารในคลองฝั่งธนบุรีทั้งหมด อาทิ คลองภาษีเจริญ คลองบางกอกน้อย คลองบางกอกใหญ่ คลองมหาสวัสดิ์ เป็นต้น ให้เป็นทางเลือกของประชาชนในการเดินทางสัญจรด้วยราคาถูก รวดเร็ว และปลอดภัย
4) เร่งรัดการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมฝั่งธนบุรีกับฝั่งกรุงเทพฯ อีก 4 แห่ง คือ สะพานเชื่อมถนนเจริญนคร-ท่าน้ำถนนตก, สะพานเชื่อมท่าดินแดง เขตคลองสาน-ท่าน้ำราชวงศ์, สะพานเชื่อมถนนลาดหญ้า-ถนนมหาพฤฒาราม และสะพานเชื่อมเขตบางพลัด-ท่าน้ำเกียกกาย โดยทั้ง 4 แห่งกทม.จะสนับสนุนงบประมาณแห่งละ 30%
5) เร่งรัดการก่อสร้าง ถนนรูปแบบใหม่ สายพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 โดยจัดให้มีช่องทางจักรยานตลอดสาย เป็นสายแรกของประเทศไทย พร้อมกับจัดหาพื้นที่สวนสาธารณะตลอดสองฝั่งถนนสายนี้ด้วย
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ในด้านส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว จะสนับสนุนให้ เขตบางขุนเทียน เป็นศูนย์กลางสินค้าทางทะเลของกรุงเทพฯ มีตลาดกลางอาหารทะเลสดและแปรรูป จัดให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งจัดระบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์บริเวณป่าชายเลน และชายทะเล ส่วนเขตตลิ่งชันจะส่งเสริมให้เป็นเขตเศรษฐกิจชุมชนริมคลอง ตลอดจนการสนับสนุนการท่องเที่ยวทางน้ำ เพื่อพัฒนาอาชีพของพี่น้องในพื้นที่ โดยเฉพาะการปรับปรุงตลาดน้ำให้มีสินค้าหลากหลาย ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ‘บริเวณพระราชวังเดิม และย่านกรุงเก่า เขตบางกอกน้อย ถือเป็นโบราณสถานที่ภาคภูมิใจของพี่น้องฝั่งธนฯ ผมจะพัฒนาให้เป็นเขตท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และจัดตั้งศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี เพื่อให้เยาวชนและประชาชนได้ศึกษาเรียนรู้อย่างเป็นระบบ’ นายอภิรักษ์กล่าว
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า อีกเรื่องหนึ่งคือ การเพิ่มพื้นที่สวนสาธารณะ ปัจจุบันพี่น้องชาวฝั่งธนฯมีเพียงสวนธนบุรีรมย์เพียงแห่งเดียวซึ่งไม่เพียงพอ ตนจะจัดหาพื้นที่ในเขตรอบนอกอย่างน้อย 2-3 พื้นที่ เช่น เขตทวีวัฒนา เขตตลิ่งชัน เขตบางแค เขตบางขุนเทียน เป็นต้น ให้เป็นปอดแห่งใหม่ของพี่น้องฝั่งธนฯ ‘ผมมั่นใจครับว่า แผนงานหลักที่กล่าวมาข้างต้นนี้ จะช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวฝั่งธนฯให้ดีขึ้นได้ ผมและทีมงานบริหารกทม. ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในแต่ละด้านอยู่แล้ว พร้อมแล้วที่จะผลักดันแผนงานและนโยบายเหล่านี้ให้เป็นจริง’ นายอภิรักษ์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-