เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (17 ส.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มส.ส.ของพรรคที่เป็นส.ส.มาแล้ว 2 — 3 สมัยได้มีการหารือกันถึงปัญหาการลาออกของส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ได้แถลงถึงผลของการหารือว่า สถานการณ์ของพรรคในขณะนี้ได้เรียกร้องให้พวกเราต้องแสดงออกให้สาธารณชนเห็นว่าพรรคไม่ได้อยู่ในภาวะระส่ำระสายถึงกับไม่มีคนทำงาน ทั้งที่ความเป็นจริงแกนหลักของพรรคก็ยังทำงานกันอยู่ ซึ่งในเรื่องที่คุยกันก็ไม่ได้เห็นว่ากลไกพรรคมีปัญหาหรือว่าไม่ทำงานแต่อย่างใด แต่ภาพของพรรคที่ออกสู่สาธารณะจะเห็นว่ามีคนย้ายพรรคบ้าง มีคนลาออกบ้าง ทำให้คนทั่วไปเห็นภาพของพรรคไม่ครบทุกแง่มุม พรรคไม่มีคนทำงานและคงถอดใจกันแล้ว ดังนั้นพวกเราก็เลยมาคิดกันว่าเราอยากจะบอกกับสาธารณะว่าเรายังทำงานกันอยู่และจะทำงานกันต่อไป
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในการหารือกันเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความเป็นสถาบัน มีโครงสร้างที่แข็งแรงและมีคนหลากหลาย เพราะฉะนั้นเราต้องใช้ความหลากหลายของพรรคให้เป็นประโยชน์ โดยในทีมที่หารือกันประมาณ 10 กว่าคนเห็นว่าเมื่อรับฟังแนวทางยุทธศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้งของแล้ว พวกเราคิดว่าจะต้องมีทีมพวกเราเข้าไปเสริมกับยุทธศาสตร์การทำงานของพรรคเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ด้วย โดยได้กำหนดแนวทางไว้ 2 แนวทางคือ 1.จะมีการเคลื่อนไหวในเชิงประเด็นสาธารณะ โดยทีมพวกเราประมาณ 10 กว่าคนที่เป็นประธานกรรมาธิการของสภา เป็นกรรมาธิการในชุดต่างๆก็จะมีการออกมาเคลื่อนไหวกันมากขึ้น เช่น การพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 48 วาระ 2 และ 3 ในเดือนกันยายนนี้ ก็จะมีการอภิปรายเพื่อเปิดโปงกระบวนการใช้งบประมาณอย่างไม่โปร่งใสและเป็นกระบวนการที่ผลาญงบประมาณของรัฐบาล เป็นต้น
“จะมีการจัดคนที่ออกมาเคลื่อนไหวประเด็นสาธารณะในทุกๆสัปดาห์ จากวันนี้ไปจนกระทั่งถึงวันเลือกตั้ง โดยนำข้อมูลที่เรามีอยู่มาแชร์กัน และทุกวันอังคารพวกเราจะนั่งคุยกันและแชร์กันว่าใครมีข้อมูลประเด็นอะไรให้คุณอลงกรณ์เคลื่อนไหว ให้คุณถาวรเคลื่อนไหว ให้คุณวิทยาเคลื่อนไหว หรือให้บุคคลอื่น ก็จะเอาความถนัดของแต่ละคนมาประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อให้เห็นว่าพรรคเราจะทำการเมืองเชิงรุก แต่ก็จะเสริมกับทีมของพรรคที่ทำอยู่แล้ว โดยโฆษกพรรคก็จะทำหน้าที่ตามปกติไป พวกเราก็จะเดินแนวของเราควบคู่กันไป” นายสาทิตย์ กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวว่า แนวทางที่ 2.จะไปช่วยเสริมในเรื่องของกระบวนการเตรียมการเลือกตั้ง โดยในกลุ่มพวกเราที่คุยกันเห็นว่าในพื้นที่หลายคนมีความแข็งแกร่ง เพราะฉะนั้นจากวันนี้ไปเราก็จะนำทีมนี้ซึ่งเป็นทีมพี่เลี้ยงไปช่วยทำทีมของพวกเราที่อยู่ในเขตพื้นที่ให้แข็งแกร่งก่อน เสร็จแล้วในช่วงเลือกตั้งเราก็จะได้นำคนเหล่านี้ไปช่วยปราศรัยหาเสียงในเขตพื้นที่เลือกตั้งอื่นๆด้วย รวมทั้งเป็นพี่เลี้ยงให้กับคนที่พึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย โดยกำหนดการเคลื่อนไหวในช่วง 4 สัปดาห์แรกคือ จากวันนี้ไปจนถึงวันที่ 29 ส.ค. เราจะลงช่วยคุณอภิรักษ์ในกทม.ก่อน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 22 ส.ค.นี้เราจะมากันประมาณ 20 กว่าคนแล้วก็จะไปพร้อมกับคุณอภิรักษ์ ให้คนเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังแข็งแกร่ง เรายังช่วยกัน ทุกคนยังพร้อมทำงาน หลังจากนั้นในวันที่ 4 ก.ย.ทีมทั้งหมดนี้ก็จะไปที่ จ.ตรัง เพื่อร่วมกับทีมของพรรคทำกิจกรรมในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง จากนั้นก็จะไปกันที่ภาคเหนือแล้วก็จะต่อกันที่ภาคอีสาน ซึ่งการกำหนดไปที่จังหวัดใดนั้นเราอาจจะเลือกพื้นที่ของส.ส.ของเราในปัจจุบันก่อน เสร็จแล้วก็จะเชิญผู้สมัครรับเลือกตั้งในบริเวณใกล้เคียงมาคุย เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ วิธีการและกระบวนการในการเตรียมการเลือกตั้ง โดยจะกำหนดพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าจะมีโอกาสได้รับเลือกตั้ง ทั้งนี้เราจะไปทำกันทั่วประเทศจนกว่าจะถึงวันประกาศพระราชกฤษฎีการเลือกตั้ง
นายสาทิตย์ กล่าวว่า การปฏิบัติงานหลังจากเดือนนี้เป็นต้นไปที่เป็นจุดใกล้ๆ ก็อาจจะมีลักษณะเหมือนเป็นรถคารวานที่จะไปกัน ทั้งเคลื่อนไหวประเด็นการเมืองไปด้วย ไปช่วยเพื่อนด้วย ไปคุยกับผู้สมัครใหม่ๆด้วย แต่ว่าเวลาไปในแต่ละจุดก็จะหารือกับผู้บริหารพรรคอย่างใกล้ชิด ต้องแจ้งให้รองหัวหน้าพรรคในแต่ละภาคได้รับทราบว่ากิจกรรมที่เราทำนั้นคืออะไร
“ทั้งหมดที่คุยกันวันนี้ไม่ใช่เป็นการตั้งกลุ่มอะไรขึ้นมา แต่เราคิดว่าคนอาจจะเข้าใจว่าประชาธิปัตย์อาจจะถอดใจแล้ว และมีแต่คนย้ายออกแต่เรื่องจริงไม่ใช่ คนทำงานหลักยังอยู่กับพรรคและยังทำงานกันต่อ เราเลยต้องการให้คนเห็นว่าพวกเรายังทำงานพวกเรายังสู้ และเราก็จะสู้ต่อ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์คงจะไม่กังวลถึงคนที่ย้ายออกแต่เราต้องกังวลถึงคนที่ยังอยู่และคนที่จะสู้ต่อ เราจะต้องเติมกำลังใจให้กันและกัน เราจะต้องสู้ต่อไปอย่างไร ต้องแลกเปลี่ยนถ่ายทอดวิทยายุทธต่างๆเราจะทำอย่างไร” นายสาทิตย์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในการหารือกันเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความเป็นสถาบัน มีโครงสร้างที่แข็งแรงและมีคนหลากหลาย เพราะฉะนั้นเราต้องใช้ความหลากหลายของพรรคให้เป็นประโยชน์ โดยในทีมที่หารือกันประมาณ 10 กว่าคนเห็นว่าเมื่อรับฟังแนวทางยุทธศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้งของแล้ว พวกเราคิดว่าจะต้องมีทีมพวกเราเข้าไปเสริมกับยุทธศาสตร์การทำงานของพรรคเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ด้วย โดยได้กำหนดแนวทางไว้ 2 แนวทางคือ 1.จะมีการเคลื่อนไหวในเชิงประเด็นสาธารณะ โดยทีมพวกเราประมาณ 10 กว่าคนที่เป็นประธานกรรมาธิการของสภา เป็นกรรมาธิการในชุดต่างๆก็จะมีการออกมาเคลื่อนไหวกันมากขึ้น เช่น การพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 48 วาระ 2 และ 3 ในเดือนกันยายนนี้ ก็จะมีการอภิปรายเพื่อเปิดโปงกระบวนการใช้งบประมาณอย่างไม่โปร่งใสและเป็นกระบวนการที่ผลาญงบประมาณของรัฐบาล เป็นต้น
“จะมีการจัดคนที่ออกมาเคลื่อนไหวประเด็นสาธารณะในทุกๆสัปดาห์ จากวันนี้ไปจนกระทั่งถึงวันเลือกตั้ง โดยนำข้อมูลที่เรามีอยู่มาแชร์กัน และทุกวันอังคารพวกเราจะนั่งคุยกันและแชร์กันว่าใครมีข้อมูลประเด็นอะไรให้คุณอลงกรณ์เคลื่อนไหว ให้คุณถาวรเคลื่อนไหว ให้คุณวิทยาเคลื่อนไหว หรือให้บุคคลอื่น ก็จะเอาความถนัดของแต่ละคนมาประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อให้เห็นว่าพรรคเราจะทำการเมืองเชิงรุก แต่ก็จะเสริมกับทีมของพรรคที่ทำอยู่แล้ว โดยโฆษกพรรคก็จะทำหน้าที่ตามปกติไป พวกเราก็จะเดินแนวของเราควบคู่กันไป” นายสาทิตย์ กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวว่า แนวทางที่ 2.จะไปช่วยเสริมในเรื่องของกระบวนการเตรียมการเลือกตั้ง โดยในกลุ่มพวกเราที่คุยกันเห็นว่าในพื้นที่หลายคนมีความแข็งแกร่ง เพราะฉะนั้นจากวันนี้ไปเราก็จะนำทีมนี้ซึ่งเป็นทีมพี่เลี้ยงไปช่วยทำทีมของพวกเราที่อยู่ในเขตพื้นที่ให้แข็งแกร่งก่อน เสร็จแล้วในช่วงเลือกตั้งเราก็จะได้นำคนเหล่านี้ไปช่วยปราศรัยหาเสียงในเขตพื้นที่เลือกตั้งอื่นๆด้วย รวมทั้งเป็นพี่เลี้ยงให้กับคนที่พึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย โดยกำหนดการเคลื่อนไหวในช่วง 4 สัปดาห์แรกคือ จากวันนี้ไปจนถึงวันที่ 29 ส.ค. เราจะลงช่วยคุณอภิรักษ์ในกทม.ก่อน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 22 ส.ค.นี้เราจะมากันประมาณ 20 กว่าคนแล้วก็จะไปพร้อมกับคุณอภิรักษ์ ให้คนเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังแข็งแกร่ง เรายังช่วยกัน ทุกคนยังพร้อมทำงาน หลังจากนั้นในวันที่ 4 ก.ย.ทีมทั้งหมดนี้ก็จะไปที่ จ.ตรัง เพื่อร่วมกับทีมของพรรคทำกิจกรรมในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง จากนั้นก็จะไปกันที่ภาคเหนือแล้วก็จะต่อกันที่ภาคอีสาน ซึ่งการกำหนดไปที่จังหวัดใดนั้นเราอาจจะเลือกพื้นที่ของส.ส.ของเราในปัจจุบันก่อน เสร็จแล้วก็จะเชิญผู้สมัครรับเลือกตั้งในบริเวณใกล้เคียงมาคุย เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ วิธีการและกระบวนการในการเตรียมการเลือกตั้ง โดยจะกำหนดพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าจะมีโอกาสได้รับเลือกตั้ง ทั้งนี้เราจะไปทำกันทั่วประเทศจนกว่าจะถึงวันประกาศพระราชกฤษฎีการเลือกตั้ง
นายสาทิตย์ กล่าวว่า การปฏิบัติงานหลังจากเดือนนี้เป็นต้นไปที่เป็นจุดใกล้ๆ ก็อาจจะมีลักษณะเหมือนเป็นรถคารวานที่จะไปกัน ทั้งเคลื่อนไหวประเด็นการเมืองไปด้วย ไปช่วยเพื่อนด้วย ไปคุยกับผู้สมัครใหม่ๆด้วย แต่ว่าเวลาไปในแต่ละจุดก็จะหารือกับผู้บริหารพรรคอย่างใกล้ชิด ต้องแจ้งให้รองหัวหน้าพรรคในแต่ละภาคได้รับทราบว่ากิจกรรมที่เราทำนั้นคืออะไร
“ทั้งหมดที่คุยกันวันนี้ไม่ใช่เป็นการตั้งกลุ่มอะไรขึ้นมา แต่เราคิดว่าคนอาจจะเข้าใจว่าประชาธิปัตย์อาจจะถอดใจแล้ว และมีแต่คนย้ายออกแต่เรื่องจริงไม่ใช่ คนทำงานหลักยังอยู่กับพรรคและยังทำงานกันต่อ เราเลยต้องการให้คนเห็นว่าพวกเรายังทำงานพวกเรายังสู้ และเราก็จะสู้ต่อ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์คงจะไม่กังวลถึงคนที่ย้ายออกแต่เราต้องกังวลถึงคนที่ยังอยู่และคนที่จะสู้ต่อ เราจะต้องเติมกำลังใจให้กันและกัน เราจะต้องสู้ต่อไปอย่างไร ต้องแลกเปลี่ยนถ่ายทอดวิทยายุทธต่างๆเราจะทำอย่างไร” นายสาทิตย์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-