การส่งออกสินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารในเดือนกรกฎาคม 2547 มีมูลค่า 58.62 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนร้อยละ 1.05 คาดว่าเดือนสิงหาคม จะมีมูลค่าการส่งออกประมาณ 65.16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ภาพรวมการส่งออกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและในครัว :
การส่งออกสินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2547 มีมูลค่า 358.08 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.42 เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันในปี 2546 โดยสินค้าที่มีลู่ทางการส่งออกขยายตัวดีได้แก่ เครื่องแก้วใช้บนโต๊ะอาหารในครัว เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยพลาสติก เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเหล็ก เหล็กกล้า และ ถ้วยชามทำด้วยเซรามิก คิดเป็นอัตราการขยายตัวร้อยละ 14.26, 8.96, 7.50 และ 2.75 ตามลำดับ
ประเทศที่สั่งซื้อสินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและเครื่องใช้ในครัวเรือนไทยมากที่สุด คือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เยอรมนี และ ฝรั่งเศส ตามลำดับ โดยมีส่วนแบ่งตลาดคิดเป็นร้อยละ 36.15, 9.83, 7.91, 4.06 และ 3.75 ตามลำดับ ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพคือ แคนาดา นอร์เวย์ ออสเตรเลีย ออสเตรีย และกรีซ อย่างไรก็ตาม สินค้าเซรามิกและแก้วของไทย จะต้องถูก สหภาพยุโรป ตัดสิทธิ GSP ไปตั้งแต่ 1 มกราคม 2548
เนื่องจากสภาวะวิกฤตราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิต/ผู้ส่งออกไทย ถึงแม้ว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและเครื่องใช้ในครัวเรือนไทยจะมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม หากผู้ประกอบการไทยยังต้องแบกรับปัญหาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผลกำไรลดลง ทั้งนี้ ปัญหาที่บริษัทขนส่งสินค้าปรับขึ้นราคาค่าบริการขนส่งยังคงเป็นประเด็นที่ต้องนำมาพิจารณาเช่นกัน
ประเทศจีน มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ได้เปรียบไทย เนื่องจากเป็นประเทศที่สามารถผลิตน้ำมันใช้เอง ประเทศเวียดนาม ฮ่องกง เกาหลี และอินเดีย จะได้เปรียบไทยในด้านวัตถุดิบและค่าแรงที่ถูกกว่า ส่งผลให้ราคาสินค้า ต่ำกว่า หากแต่ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ คุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐานทำให้สินค้าไทย ยังคงเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันจากผู้นำเข้าต่างประเทศ
เป้าหมายการส่งออกปี 2547 :
มูลค่า 678 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5 จากปี 2546
ที่มา: http://www.depthai.go.th
-อบ-