แท็ก
อุตสาหกรรม
สรุปประเด็นสำคัญ
ดัชนีอุตสาหกรรมของเดือนมิถุนายน 2547
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม = 136.47 ทรงตัวจากเดือนพฤษภาคม 2547 (136.94) แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (123.97)
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมที่ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2547 ได้แก่ การผลิตน้ำตาล การผลิตเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์รวมทั้งน้ำดื่มบรรจุขวด การผลิตเครื่องใช้ในบ้านเรือนซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น การผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุและสินค้าที่เกี่ยวข้อง การผลิตเครื่องจักรที่ใช้งานทั่วไปอื่นๆ
- อัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ย = 63.37 ทรงตัวจากเดือนพฤษภาคม2547 (63.79) แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (57.27)
ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในเดือนกรกฎาคม 2547
- ภาวะการผลิตของอุตสาหกรรมอาหารที่ผลิตเพื่อใช้ในประเทศขยายตัวดีขึ้น ตามการบริโภคในประเทศที่ขยายตัว แต่การส่งออกยังคงชะลอตัว จากข่าวการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกรอบใหม่ และการไต่สวน AD สินค้ากุ้ง
- คำสั่งซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นจากความได้เปรียบด้านคุณภาพและมาตรฐาน
- ราคาเหล็กมีแนวโน้มเพิมขึ้น เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของจีน สำหรับความต้องการเหล็กรวมในประเทศยังคงมีทิศทางที่เพิ่มขึ้น
- การผลิตรถยนต์ชะลอตัวเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่มีแผนการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่และมุ่งส่งเสริมการขายในช่วงปลายปี
- การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ามีเแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลเพื่อรองรับเทศกาลปีใหม่และกีฬาโอลิมปิค
- การผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศลดลงเนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นอุปสรรคในการก่อสร้าง
สถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
พ.ค. 47 = 136.94
มิ.ย.. 47 = 136.47
โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีทรงตัว ได้แก่
- การผลิตน้ำตาล
- การผลิตเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์รวมทั้งน้ำดื่มบรรจุขวด
- การผลิตเครื่องใช้ในบ้านเรือน ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น
อัตราการใช้กำลังการผลิต
พ.ค. 47 = 63.79
มิ.ย. 47 = 63.37
โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตทรงตัว ได้แก่
- การผลิตเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์รวมทั้งน้ำดื่มบรรจุขวด
- การผลิตมอลต์ลิกเคอและมอลต์
- การผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง
1.อุตสาหกรรมอาหาร
" ภาวะการผลิตของอุตสาหกรรมอาหารที่ผลิตเพื่อใช้ในประเทศขยายตัวดีขึ้น ตามการบริโภคในประเทศที่ขยายตัว แต่การส่งออกยังคงชะลอตัว จากข่าวการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกรอบใหม่ และข่าวการไต่สวน AD สินค้ากุ้ง "
1. การผลิต
ภาวะการผลิตโดยรวมส่วนใหญ่ขยายตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน และเมื่อเทียบกับปีก่อนเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 3 โดยสินค้าอาหารที่ผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังร้อยละ 8 สับปะรดกระป๋องร้อยละ 7 และสินค้าที่ผลิตเพื่อใช้ภายในประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น น้ำมันพืช ร้อยละ 30 อาหารสุกร ร้อยละ 10 สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารส่งออกอื่นๆ เช่น กุ้งแช่เย็นแช่แข็งลดลง ร้อยละ 30.9 (ข่าวการไต่สวน AD ของสหรัฐฯ) ปลาทูน่ากระป๋องลดลงร้อยละ 4 (วัตถุดิบขาดแคลน) และไก่แช่เย็นแช่แข็ง ลดลงร้อยละ 31.8 (โรคไข้หวัดนกรอบใหม่) ประกอบกับคำสั่งซื้อจากตลาดต่างประเทศลดลงตามฤดูกาล
2. การตลาด
1) ตลาดในประเทศ สินค้าอาหารและเกษตร มีมูลค่าการจำหน่ายเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8.2 จากราคาจำหน่ายที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับสินค้าที่เดิมส่งออกเป็นหลัก กลับมีความต้องการบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้นจากราคาที่ลดลงและผู้ผลิตเริ่มกลับมาทำตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น เช่น ปลาทูน่ากระป๋อง และกุ้งสดแช่เย็น
2) ตลาดต่างประเทศ ภาวะการส่งออกโดยรวม มีมูลค่าไม่แตกต่างกับเดือนก่อนและปีก่อน เป็นผลจากการชะลอตัวของการส่งออกสินค้าไก่ กุ้ง และน้ำตาลทราย ทั้งนี้มีการส่งออกไก่แปรรูปเพิ่มขึ้นทดแทนไก่แช่เย็นแช่แข็ง สำหรับสินค้าอาหารอื่นๆ เช่น ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว เครื่องปรุงรสและสมุนไพร มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นจากราคาส่งออกที่เพิ่มขึ้นและมีความต้องการจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น
3. แนวโน้ม คาดว่าการผลิตและการส่งออกจะเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนก่อน
เนื่องจากเป็นช่วงที่ลูกค้าต่างประเทศเริ่มมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามา โดยเฉพาะอาหารทะเลแปรรูป ไก่แปรรูป และอาหารกึ่งสำเร็จรูป อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ข่าวการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกรอบใหม่ อาจส่งผลต่อปริมาณและมูลค่าการส่งออกไก่ของไทย โดยเฉพาะไก่แช่เย็นแช่แข็ง อาจถูกระงับไว้จนถึงสิ้นปี ซึ่งจะทำให้ปริมาณและมูลค่าการส่งออกโดยรวมหดตัวลงเล็กน้อย
2. อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
…"คำสั่งซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นจากความได้เปรียบด้านคุณภาพและมาตรฐาน"....
1. การผลิตและการจำหน่าย
การผลิตเส้นใยสิ่งทอฯ ในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 1.0 ขณะที่เสื้อผ้าสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ผลิตจากผ้าถัก มากกว่าเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ผลิตจากผ้าทอ ปริมาณการจำหน่ายเส้นใยสิ่งทอฯ ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา เช่นเดียวกันกับเสื้อผ้าสำเร็จรูป
2.การส่งออกและตลาดส่งออก
การส่งออกสิ่งทอเดือนมิถุนายน 2547 เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมร้อยละ 6.3 เป็นการเพิ่มขึ้นของตลาดสหรัฐฯ(+10.7%) , ญี่ปุ่น(+27.6%) , สหราชอาณาจักร(+23.6%), จีน(+16.1%) และลดลงในตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (-16.0) , และฮ่องกง (-4.0%)
การส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป เดือนมิถุนายน 2547 เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมร้อยละ 14.6 โดยเพิ่มขึ้นในตลาดสหรัฐอเมริกา(+15.4%) , สหราชอาณาจักร(+28.4%) ,ฝรั่งเศส (+7.5%) ,เยอรมนี (+33.8%), ญี่ปุ่น(+35.3%) แต่ลดลงในตลาด เนเธอร์แลนด์(-6.9%) เป็นต้น
ตลาดนำเข้า
ตลาดนำเข้าเส้นใยฯ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา(+1.7%) และออสเตรเลีย(+20.6%) เสื้อผ้าสำเร็จรูปได้แก่ จีน(+43.6%) ฮ่องกง(+42.0%) และญี่ปุ่น(+26.5%) เส้นด้าย ได้แก่ จีน(-6.0%), ญี่ปุ่น(+35.7%) และไต้หวัน(+13.1%) ผ้าผืน ได้แก่ จีน(+13.3%) , ไต้หวัน (+9.8%) และฮ่องกง (+31.9%)
3. แนวโน้ม
เดือนกรกฎาคม การผลิตและการจำหน่ายเส้นใยสิ่งทอฯ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป คาดว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน แนวโน้มเดือนสิงหาคม คาดว่าการผลิตและการส่งออกจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากสหรัฐอเมริกาลดคำสั่งซื้อจากจีนและเวียดนาม หันมาสั่งซื้อจากไทยแทนเนื่องจากคุณภาพและมาตรฐานที่ดี
3. อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า
1. การผลิต
ดัชนีผลผลิตของอุตสาหกรรมเหล็กในเดือนมิ.ย. 2547มีค่า 134.81 ลดลงเล็กน้อยเพียง ร้อยละ 2.16 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ทั้งนี้เป็นผลมาจากการลดลงของเหล็กลวด ร้อยละ 29.27 เนื่องจากปริมาณสินค้าคงคลังที่ยังคงมีอยู่ รองลงมาคือ เหล็กเส้นกลม ลดลง ร้อยละ 13.24 อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ภาวะการผลิตยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.74 ตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศและการขยายตัวของอุตสาหกรรมต่อเนื่องและอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเหล็กแผ่นเคลือบดีบุกมีการขยายตัวมากที่สุด ร้อยละ 42.83 รองลงมาคือ เหล็กโครงสร้างรูปพรรณชนิดรีดเย็น เพิ่มขึ้น ร้อยละ 41.26
2. การนำเข้า-ส่งออก
มูลค่าการนำเข้าเหล็กในช่วงเดือนมิ.ย. 2547 มีมูลค่า 17,393.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 38.97 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น รัสเซียและยูเครน มูลค่าการส่งออกเหล็กในช่วงเดือนมิ.ย. 2547 มีค่า 8,550.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.93 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออกหลักคือประเทศญี่ปุ่น มาเลเซียและอเมริกา โดยตลาดอเมริกาเป็นตลาดที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วงนี้และเหล็กแผ่นรีดเย็น (CR coil) แต่ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาลดลงเมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ได้แก่ เศษเหล็ก (Scrap) ลดลง 1.15 เหล็กพิก (Pig Iron) ลดลง ร้อยละ 9.84
3. แนวโน้ม
ภาวะการผลิตในเดือน ก.ค. 2547 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน คาดว่ายังคงชะลอตัว เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน สำหรับแนวโน้มของราคาเหล็กทรงยาวคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการที่ราคาเหล็กแท่งเล็ก (Billet) มีการปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับการที่ประเทศจีนได้มีการประกาศจำกัดการส่งออกถ่านหินซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเหล็กถลุง โดยการกำหนดโควต้าให้มีการออกใบอนุญาตในการส่งออกแต่ละรายเนื่องจากมีความต้องการใช้ในการพัฒนาประเทศเป็นปริมาณมาก โดยประกาศนี้ผลบังคับใช้ต้นเดือนกรกฎาคมนี้
4. อุตสาหกรรมยานยนต์
รถยนต์ (ก.ค. 47)
อุตสาหกรรมรถยนต์ ชะลอตัวเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมา โดยประมาณการในเดือนกรกฎาคม ดังนี้
- การผลิตรถยนต์ จำนวน 80,000 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2546 ร้อยละ 18.98 แต่ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2547 ซึ่งมีการผลิต 83,100 คัน ร้อยละ 3.73
- การจำหน่ายรถยนต์ จำนวน 49,000 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2546 ร้อยละ 7.38 แต่ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2547 ซึ่งมีการจำหน่าย 50,484 คัน ร้อยละ 2.94 เนื่องจากเริ่มเข้าฤดูฝน ซึ่งมิใช่ฤดูการขายของอุตสาหกรรมรถยนต์
- การส่งออกรถยนต์ มีจำนวน 31,000 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2546 ร้อยละ 34.25 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2547 ซึ่งมีการส่งออก 30,308 คัน ร้อยละ 2.28
- แนวโน้มภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ในเดือนสิงหาคม จะชะลอตัว เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ซึ่งมิใช่ช่วงฤดูการขายของอุตสาหกรรมรถยนต์ นอกจากนี้ การประกาศปรับภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ตามมติ ค.ร.ม. เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2547 อาจจะมีผลทางจิตวิทยาต่อผู้บริโภคในการชะลอการตัดสินใจซื้อรถยนต์ชั่วคราว
รถจักรยานยนต์ (ก.ค. 47)
อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ ค่อนข้างทรงตัวเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมา โดยประมาณการในเดือนกรกฎาคม ดังนี้
- การผลิตรถจักรยานยนต์ จำนวน 252,000 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2546 ร้อยละ 27.03 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2547 ซึ่งมีการผลิต 251,589 คัน ร้อยละ 0.16
- การจำหน่าย จำนวน 180,000 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2546 ร้อยละ 28.70 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2547 ซึ่งมีการจำหน่าย 177,209 คัน ร้อยละ 1.57
- การส่งออกรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 72,000 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2546 ร้อยละ 98.58 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2547 ซึ่งมีการส่งออก 64,199 คัน ร้อยละ 12.15
- แนวโน้มภาวะอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในเดือนสิงหาคมจะชะลอตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากช่วงนี้มิใช่ฤดูกาลขาย
5. อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์
การผลิตและจำหน่ายในประเทศ ลดลงเนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นอุปสรรคในการก่อสร้าง "
1.การผลิตและการจำหน่ายในประเทศ
การผลิตปูนซีเมนต์ในเดือนมิถุนายน 2547 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนลดลงร้อยละ 3.30 เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน ภาวะการก่อสร้างชะลอตัว ทำให้ปริมาณความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ลดลงตามไปด้วย แต่เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.02 ตามการขยายตัวของภาวะธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนทั้งการขยายการลงทุนในภาคเอกชน และการลงทุนในโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของภาครัฐ
2.การส่งออก
มูลค่าการส่งออกปูนซีเมนต์ เดือนมิถุนายน เทียบกับเดือนก่อนและเดือนเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 31.51 และ 48.02 ตามลำดับ เนื่องจากความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศคู่ค้าเพิ่มสูงขึ้น สำหรับตลาดส่งออกปูนซีเมนต์ที่สำคัญ ได้แก่ เวียดนาม สหรัฐอเมริกา กัมพูชา และบังคลาเทศ
3. แนวโน้ม
การผลิตปูนซีเมนต์ในเดือนกรกฎาคม คาดว่าปริมาณการผลิตและการจำหน่ายจะลดลง เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน เป็นอุปสรรคในการก่อสร้างและการคมนาคม ขนส่ง
เดือนสิงหาคม คาดว่าการผลิตและการจำหน่ายมีแนวโน้มลดลงอีก เพราะยังอยู่ในช่วงฤดูฝน ทำให้ยอดการผลิตและจำหน่ายจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี
6. อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
"การผลิตจะเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งทั้งการเพิ่มตามฤดูกาลเพื่อรองรับเทศกาลปีใหม่และเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับกีฬาโอลิมปิค"
1.การผลิต
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมรวมในเดือนมิถุนายนปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 6.2 ทั้งนี้ เป็นการลดลงจากสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าร้อยละ 15.5 จากสินค้าเครื่องปรับอากาศ พัดลม เนื่องจากเริ่มเข้าฤดูฝน เครื่องรับโทรทัศน์ ลดลงจากที่เพิ่มการผลิตจากปริมาณปกติเนื่องจากเทศกาลฟุตบอลยูโร2004 เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดี เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนการผลิตรวมยังเพิ่มขึ้นในอัตราที่ดีโดยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20.7
สำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 และเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนพบว่าดัชนีผลผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.4 ตามความต้องการของอิเล็กทรอนิกส์โลก ที่ยังคงเพิ่ม ขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2. การส่งออก
การส่งออกในเดือนมิถุนายน 2547 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 4.7 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากสินค้ากลุ่มไฟฟ้าร้อยละ 6.8 เพิ่มจากสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ร้อยละ 3.2
และเมื่อเทียบกับปีก่อนการส่งออกสินค้าไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.4 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของสินค้ากลุ่มไฟฟ้าถึงร้อยละ 51.2 ในขณะที่สินค้อิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 3.4 สินค้ากลุ่มไฟฟ้าที่มีมูลค่าส่งออกสูงได้แก่ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วน ประกอบ
3. แนวโน้ม
การขยายตัวของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนกรกฎาคมต่อเนื่องถึงเดือนสิงหาคม 2547 คาดว่าการผลิตจะเริ่มปรับตัวพิ่มขึ้นอีกครั้งทั้งการเพิ่มตามฤดูกาลเพื่อรองรับเทศกาลปีใหม่และเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับกีฬาโอลิมปิค สินค้าที่จะมีการผลิตเพิ่มได้แก่ เครื่องรับโทรทัศน์และส่วนประกอบ หลอดภาพโทรทัศน์ เครื่องซักผ้าและส่วนประกอบ ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ เตาไมโครเวฟ เป็นต้น
สำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไปตามภาวะการขยายตัวของอิเล็กทรอนิกส์โลก
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนมิถุนายน 2547 มีค่า 136.47 ทรงตัวจากเดือนพฤษภาคม 2547 (136.94) ร้อยละ 0.3 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (123.97) ร้อยละ 10.1
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมทรงตัวจากเดือนพฤษภาคม 2547 ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตน้ำตาล อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์รวมทั้งน้ำดื่มบรรจุขวด อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องใช้ในบ้านเรือนซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุและสินค้าที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์จากคอนกรีต ซีเมนต์และปูนปลาสเตอร์ อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์โลหะประดิษฐ์อื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ เป็นต้น
- อัตราการใช้กําลังการผลิตในเดือนมิถุนายน 2547 มีค่า 63.37 ทรงตัวจากเดือนพฤษภาคม 2547 (63.79) ร้อยละ 0.7 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (57.27) ร้อยละ 10.7
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กําลังการผลิตทรงตัวจากเดือนพฤษภาคม 2547 ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งน้ำดื่มบรรจุขวดอุตสาหกรรมการผลิตมอลต์ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องใช้ในบ้านเรือน ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กําลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของ ปีก่อน ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตภัณฑ์ยาสูบ อุตสาหกรรมการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์จากคอนกรีต ซีเมนต์ และปูนปลาสเตอร์ เป็นต้น
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
ดัชนีอุตสาหกรรมของเดือนมิถุนายน 2547
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม = 136.47 ทรงตัวจากเดือนพฤษภาคม 2547 (136.94) แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (123.97)
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมที่ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2547 ได้แก่ การผลิตน้ำตาล การผลิตเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์รวมทั้งน้ำดื่มบรรจุขวด การผลิตเครื่องใช้ในบ้านเรือนซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น การผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุและสินค้าที่เกี่ยวข้อง การผลิตเครื่องจักรที่ใช้งานทั่วไปอื่นๆ
- อัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ย = 63.37 ทรงตัวจากเดือนพฤษภาคม2547 (63.79) แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (57.27)
ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในเดือนกรกฎาคม 2547
- ภาวะการผลิตของอุตสาหกรรมอาหารที่ผลิตเพื่อใช้ในประเทศขยายตัวดีขึ้น ตามการบริโภคในประเทศที่ขยายตัว แต่การส่งออกยังคงชะลอตัว จากข่าวการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกรอบใหม่ และการไต่สวน AD สินค้ากุ้ง
- คำสั่งซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นจากความได้เปรียบด้านคุณภาพและมาตรฐาน
- ราคาเหล็กมีแนวโน้มเพิมขึ้น เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของจีน สำหรับความต้องการเหล็กรวมในประเทศยังคงมีทิศทางที่เพิ่มขึ้น
- การผลิตรถยนต์ชะลอตัวเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่มีแผนการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่และมุ่งส่งเสริมการขายในช่วงปลายปี
- การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ามีเแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลเพื่อรองรับเทศกาลปีใหม่และกีฬาโอลิมปิค
- การผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศลดลงเนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นอุปสรรคในการก่อสร้าง
สถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
พ.ค. 47 = 136.94
มิ.ย.. 47 = 136.47
โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีทรงตัว ได้แก่
- การผลิตน้ำตาล
- การผลิตเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์รวมทั้งน้ำดื่มบรรจุขวด
- การผลิตเครื่องใช้ในบ้านเรือน ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น
อัตราการใช้กำลังการผลิต
พ.ค. 47 = 63.79
มิ.ย. 47 = 63.37
โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตทรงตัว ได้แก่
- การผลิตเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์รวมทั้งน้ำดื่มบรรจุขวด
- การผลิตมอลต์ลิกเคอและมอลต์
- การผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง
1.อุตสาหกรรมอาหาร
" ภาวะการผลิตของอุตสาหกรรมอาหารที่ผลิตเพื่อใช้ในประเทศขยายตัวดีขึ้น ตามการบริโภคในประเทศที่ขยายตัว แต่การส่งออกยังคงชะลอตัว จากข่าวการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกรอบใหม่ และข่าวการไต่สวน AD สินค้ากุ้ง "
1. การผลิต
ภาวะการผลิตโดยรวมส่วนใหญ่ขยายตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน และเมื่อเทียบกับปีก่อนเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 3 โดยสินค้าอาหารที่ผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังร้อยละ 8 สับปะรดกระป๋องร้อยละ 7 และสินค้าที่ผลิตเพื่อใช้ภายในประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น น้ำมันพืช ร้อยละ 30 อาหารสุกร ร้อยละ 10 สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารส่งออกอื่นๆ เช่น กุ้งแช่เย็นแช่แข็งลดลง ร้อยละ 30.9 (ข่าวการไต่สวน AD ของสหรัฐฯ) ปลาทูน่ากระป๋องลดลงร้อยละ 4 (วัตถุดิบขาดแคลน) และไก่แช่เย็นแช่แข็ง ลดลงร้อยละ 31.8 (โรคไข้หวัดนกรอบใหม่) ประกอบกับคำสั่งซื้อจากตลาดต่างประเทศลดลงตามฤดูกาล
2. การตลาด
1) ตลาดในประเทศ สินค้าอาหารและเกษตร มีมูลค่าการจำหน่ายเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8.2 จากราคาจำหน่ายที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับสินค้าที่เดิมส่งออกเป็นหลัก กลับมีความต้องการบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้นจากราคาที่ลดลงและผู้ผลิตเริ่มกลับมาทำตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น เช่น ปลาทูน่ากระป๋อง และกุ้งสดแช่เย็น
2) ตลาดต่างประเทศ ภาวะการส่งออกโดยรวม มีมูลค่าไม่แตกต่างกับเดือนก่อนและปีก่อน เป็นผลจากการชะลอตัวของการส่งออกสินค้าไก่ กุ้ง และน้ำตาลทราย ทั้งนี้มีการส่งออกไก่แปรรูปเพิ่มขึ้นทดแทนไก่แช่เย็นแช่แข็ง สำหรับสินค้าอาหารอื่นๆ เช่น ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว เครื่องปรุงรสและสมุนไพร มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นจากราคาส่งออกที่เพิ่มขึ้นและมีความต้องการจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น
3. แนวโน้ม คาดว่าการผลิตและการส่งออกจะเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนก่อน
เนื่องจากเป็นช่วงที่ลูกค้าต่างประเทศเริ่มมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามา โดยเฉพาะอาหารทะเลแปรรูป ไก่แปรรูป และอาหารกึ่งสำเร็จรูป อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ข่าวการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกรอบใหม่ อาจส่งผลต่อปริมาณและมูลค่าการส่งออกไก่ของไทย โดยเฉพาะไก่แช่เย็นแช่แข็ง อาจถูกระงับไว้จนถึงสิ้นปี ซึ่งจะทำให้ปริมาณและมูลค่าการส่งออกโดยรวมหดตัวลงเล็กน้อย
2. อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
…"คำสั่งซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นจากความได้เปรียบด้านคุณภาพและมาตรฐาน"....
1. การผลิตและการจำหน่าย
การผลิตเส้นใยสิ่งทอฯ ในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 1.0 ขณะที่เสื้อผ้าสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ผลิตจากผ้าถัก มากกว่าเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ผลิตจากผ้าทอ ปริมาณการจำหน่ายเส้นใยสิ่งทอฯ ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา เช่นเดียวกันกับเสื้อผ้าสำเร็จรูป
2.การส่งออกและตลาดส่งออก
การส่งออกสิ่งทอเดือนมิถุนายน 2547 เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมร้อยละ 6.3 เป็นการเพิ่มขึ้นของตลาดสหรัฐฯ(+10.7%) , ญี่ปุ่น(+27.6%) , สหราชอาณาจักร(+23.6%), จีน(+16.1%) และลดลงในตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (-16.0) , และฮ่องกง (-4.0%)
การส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป เดือนมิถุนายน 2547 เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมร้อยละ 14.6 โดยเพิ่มขึ้นในตลาดสหรัฐอเมริกา(+15.4%) , สหราชอาณาจักร(+28.4%) ,ฝรั่งเศส (+7.5%) ,เยอรมนี (+33.8%), ญี่ปุ่น(+35.3%) แต่ลดลงในตลาด เนเธอร์แลนด์(-6.9%) เป็นต้น
ตลาดนำเข้า
ตลาดนำเข้าเส้นใยฯ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา(+1.7%) และออสเตรเลีย(+20.6%) เสื้อผ้าสำเร็จรูปได้แก่ จีน(+43.6%) ฮ่องกง(+42.0%) และญี่ปุ่น(+26.5%) เส้นด้าย ได้แก่ จีน(-6.0%), ญี่ปุ่น(+35.7%) และไต้หวัน(+13.1%) ผ้าผืน ได้แก่ จีน(+13.3%) , ไต้หวัน (+9.8%) และฮ่องกง (+31.9%)
3. แนวโน้ม
เดือนกรกฎาคม การผลิตและการจำหน่ายเส้นใยสิ่งทอฯ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป คาดว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน แนวโน้มเดือนสิงหาคม คาดว่าการผลิตและการส่งออกจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากสหรัฐอเมริกาลดคำสั่งซื้อจากจีนและเวียดนาม หันมาสั่งซื้อจากไทยแทนเนื่องจากคุณภาพและมาตรฐานที่ดี
3. อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า
1. การผลิต
ดัชนีผลผลิตของอุตสาหกรรมเหล็กในเดือนมิ.ย. 2547มีค่า 134.81 ลดลงเล็กน้อยเพียง ร้อยละ 2.16 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ทั้งนี้เป็นผลมาจากการลดลงของเหล็กลวด ร้อยละ 29.27 เนื่องจากปริมาณสินค้าคงคลังที่ยังคงมีอยู่ รองลงมาคือ เหล็กเส้นกลม ลดลง ร้อยละ 13.24 อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ภาวะการผลิตยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.74 ตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศและการขยายตัวของอุตสาหกรรมต่อเนื่องและอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเหล็กแผ่นเคลือบดีบุกมีการขยายตัวมากที่สุด ร้อยละ 42.83 รองลงมาคือ เหล็กโครงสร้างรูปพรรณชนิดรีดเย็น เพิ่มขึ้น ร้อยละ 41.26
2. การนำเข้า-ส่งออก
มูลค่าการนำเข้าเหล็กในช่วงเดือนมิ.ย. 2547 มีมูลค่า 17,393.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 38.97 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น รัสเซียและยูเครน มูลค่าการส่งออกเหล็กในช่วงเดือนมิ.ย. 2547 มีค่า 8,550.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.93 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออกหลักคือประเทศญี่ปุ่น มาเลเซียและอเมริกา โดยตลาดอเมริกาเป็นตลาดที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วงนี้และเหล็กแผ่นรีดเย็น (CR coil) แต่ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาลดลงเมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ได้แก่ เศษเหล็ก (Scrap) ลดลง 1.15 เหล็กพิก (Pig Iron) ลดลง ร้อยละ 9.84
3. แนวโน้ม
ภาวะการผลิตในเดือน ก.ค. 2547 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน คาดว่ายังคงชะลอตัว เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน สำหรับแนวโน้มของราคาเหล็กทรงยาวคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการที่ราคาเหล็กแท่งเล็ก (Billet) มีการปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับการที่ประเทศจีนได้มีการประกาศจำกัดการส่งออกถ่านหินซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเหล็กถลุง โดยการกำหนดโควต้าให้มีการออกใบอนุญาตในการส่งออกแต่ละรายเนื่องจากมีความต้องการใช้ในการพัฒนาประเทศเป็นปริมาณมาก โดยประกาศนี้ผลบังคับใช้ต้นเดือนกรกฎาคมนี้
4. อุตสาหกรรมยานยนต์
รถยนต์ (ก.ค. 47)
อุตสาหกรรมรถยนต์ ชะลอตัวเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมา โดยประมาณการในเดือนกรกฎาคม ดังนี้
- การผลิตรถยนต์ จำนวน 80,000 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2546 ร้อยละ 18.98 แต่ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2547 ซึ่งมีการผลิต 83,100 คัน ร้อยละ 3.73
- การจำหน่ายรถยนต์ จำนวน 49,000 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2546 ร้อยละ 7.38 แต่ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2547 ซึ่งมีการจำหน่าย 50,484 คัน ร้อยละ 2.94 เนื่องจากเริ่มเข้าฤดูฝน ซึ่งมิใช่ฤดูการขายของอุตสาหกรรมรถยนต์
- การส่งออกรถยนต์ มีจำนวน 31,000 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2546 ร้อยละ 34.25 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2547 ซึ่งมีการส่งออก 30,308 คัน ร้อยละ 2.28
- แนวโน้มภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ในเดือนสิงหาคม จะชะลอตัว เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ซึ่งมิใช่ช่วงฤดูการขายของอุตสาหกรรมรถยนต์ นอกจากนี้ การประกาศปรับภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ตามมติ ค.ร.ม. เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2547 อาจจะมีผลทางจิตวิทยาต่อผู้บริโภคในการชะลอการตัดสินใจซื้อรถยนต์ชั่วคราว
รถจักรยานยนต์ (ก.ค. 47)
อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ ค่อนข้างทรงตัวเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมา โดยประมาณการในเดือนกรกฎาคม ดังนี้
- การผลิตรถจักรยานยนต์ จำนวน 252,000 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2546 ร้อยละ 27.03 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2547 ซึ่งมีการผลิต 251,589 คัน ร้อยละ 0.16
- การจำหน่าย จำนวน 180,000 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2546 ร้อยละ 28.70 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2547 ซึ่งมีการจำหน่าย 177,209 คัน ร้อยละ 1.57
- การส่งออกรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 72,000 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2546 ร้อยละ 98.58 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2547 ซึ่งมีการส่งออก 64,199 คัน ร้อยละ 12.15
- แนวโน้มภาวะอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในเดือนสิงหาคมจะชะลอตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากช่วงนี้มิใช่ฤดูกาลขาย
5. อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์
การผลิตและจำหน่ายในประเทศ ลดลงเนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นอุปสรรคในการก่อสร้าง "
1.การผลิตและการจำหน่ายในประเทศ
การผลิตปูนซีเมนต์ในเดือนมิถุนายน 2547 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนลดลงร้อยละ 3.30 เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน ภาวะการก่อสร้างชะลอตัว ทำให้ปริมาณความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ลดลงตามไปด้วย แต่เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.02 ตามการขยายตัวของภาวะธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนทั้งการขยายการลงทุนในภาคเอกชน และการลงทุนในโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของภาครัฐ
2.การส่งออก
มูลค่าการส่งออกปูนซีเมนต์ เดือนมิถุนายน เทียบกับเดือนก่อนและเดือนเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 31.51 และ 48.02 ตามลำดับ เนื่องจากความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศคู่ค้าเพิ่มสูงขึ้น สำหรับตลาดส่งออกปูนซีเมนต์ที่สำคัญ ได้แก่ เวียดนาม สหรัฐอเมริกา กัมพูชา และบังคลาเทศ
3. แนวโน้ม
การผลิตปูนซีเมนต์ในเดือนกรกฎาคม คาดว่าปริมาณการผลิตและการจำหน่ายจะลดลง เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน เป็นอุปสรรคในการก่อสร้างและการคมนาคม ขนส่ง
เดือนสิงหาคม คาดว่าการผลิตและการจำหน่ายมีแนวโน้มลดลงอีก เพราะยังอยู่ในช่วงฤดูฝน ทำให้ยอดการผลิตและจำหน่ายจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี
6. อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
"การผลิตจะเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งทั้งการเพิ่มตามฤดูกาลเพื่อรองรับเทศกาลปีใหม่และเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับกีฬาโอลิมปิค"
1.การผลิต
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมรวมในเดือนมิถุนายนปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 6.2 ทั้งนี้ เป็นการลดลงจากสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าร้อยละ 15.5 จากสินค้าเครื่องปรับอากาศ พัดลม เนื่องจากเริ่มเข้าฤดูฝน เครื่องรับโทรทัศน์ ลดลงจากที่เพิ่มการผลิตจากปริมาณปกติเนื่องจากเทศกาลฟุตบอลยูโร2004 เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดี เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนการผลิตรวมยังเพิ่มขึ้นในอัตราที่ดีโดยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20.7
สำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 และเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนพบว่าดัชนีผลผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.4 ตามความต้องการของอิเล็กทรอนิกส์โลก ที่ยังคงเพิ่ม ขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2. การส่งออก
การส่งออกในเดือนมิถุนายน 2547 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 4.7 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากสินค้ากลุ่มไฟฟ้าร้อยละ 6.8 เพิ่มจากสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ร้อยละ 3.2
และเมื่อเทียบกับปีก่อนการส่งออกสินค้าไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.4 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของสินค้ากลุ่มไฟฟ้าถึงร้อยละ 51.2 ในขณะที่สินค้อิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 3.4 สินค้ากลุ่มไฟฟ้าที่มีมูลค่าส่งออกสูงได้แก่ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วน ประกอบ
3. แนวโน้ม
การขยายตัวของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนกรกฎาคมต่อเนื่องถึงเดือนสิงหาคม 2547 คาดว่าการผลิตจะเริ่มปรับตัวพิ่มขึ้นอีกครั้งทั้งการเพิ่มตามฤดูกาลเพื่อรองรับเทศกาลปีใหม่และเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับกีฬาโอลิมปิค สินค้าที่จะมีการผลิตเพิ่มได้แก่ เครื่องรับโทรทัศน์และส่วนประกอบ หลอดภาพโทรทัศน์ เครื่องซักผ้าและส่วนประกอบ ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ เตาไมโครเวฟ เป็นต้น
สำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไปตามภาวะการขยายตัวของอิเล็กทรอนิกส์โลก
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนมิถุนายน 2547 มีค่า 136.47 ทรงตัวจากเดือนพฤษภาคม 2547 (136.94) ร้อยละ 0.3 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (123.97) ร้อยละ 10.1
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมทรงตัวจากเดือนพฤษภาคม 2547 ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตน้ำตาล อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์รวมทั้งน้ำดื่มบรรจุขวด อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องใช้ในบ้านเรือนซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุและสินค้าที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์จากคอนกรีต ซีเมนต์และปูนปลาสเตอร์ อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์โลหะประดิษฐ์อื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ เป็นต้น
- อัตราการใช้กําลังการผลิตในเดือนมิถุนายน 2547 มีค่า 63.37 ทรงตัวจากเดือนพฤษภาคม 2547 (63.79) ร้อยละ 0.7 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (57.27) ร้อยละ 10.7
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กําลังการผลิตทรงตัวจากเดือนพฤษภาคม 2547 ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งน้ำดื่มบรรจุขวดอุตสาหกรรมการผลิตมอลต์ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องใช้ในบ้านเรือน ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กําลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของ ปีก่อน ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตภัณฑ์ยาสูบ อุตสาหกรรมการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์จากคอนกรีต ซีเมนต์ และปูนปลาสเตอร์ เป็นต้น
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-