รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เผยประชาชนกำลังกระหายทางเลือก จึงเกิดการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์พร้อมจะทบทวนตัวเอง ขณะเดียวกันหากพรรคใดมีกรอบความคิดที่เป็นประโยชน์ตรงกันก็เป็นพันธมิตรทางการเมืองกันได้
วันนี้ (18 ส.ค.47 ) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ ‘ข่าวยามเช้า’ ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 101.0 เมกะเฮิร์ทถึงกรณีการตั้งพรรคการเมืองทางเลือกใหม่ในขณะนี้ว่า มีการพูดถึงพรรคการเมืองที่ 3 มาระยะหนึ่ง ต่อมาก็มีการตั้งพรรคใหม่ ซึ่งตนคิดว่าการตั้งพรรคการเมืองสามารถทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก แต่ปัญหาคือเป้าหมายของแต่ละพรรคนั้นคืออะไร เพราะตนคิดว่าปัจจุบันมีคนจำนวนหนึ่งกำลังกระหายทางเลือก
ต่อข้อถามที่ว่าประชาชนต้องการอำนาจตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่ทางเลือกในช่วงเวลานี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ที่ตนพูดว่าคนกระหายทางเลือกเป็นสิ่งสะท้อน ที่ทำให้เราต้องมาดูตัวเองพอสมควร เพราะการที่ประชาชนต้องการทางเลือกหมายความว่าไม่พอใจกับทางเลือกที่มีอยู่ ซึ่งตนคิดว่ากระแสที่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหว คือ ปัญหาเรื่องสิทธิเสรีภาพและการมีส่วนร่วมถูกมองข้ามไป และด้านเศรษฐกิจก็เกิดการผูกขาดทางเศรษฐกิจมากขึ้น ส่วนการประกอบธุรกิจต่างๆ ก็เป็นเรื่องของพวกพ้อง
ส่วนกรณีที่มีนักธุรกิจเสนอให้ยกเลิกกฎหมาย 11 ฉบับ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถ้าบอกว่ากฎหมาย 11 ฉบับต้องยกเลิกหมด ไม่มีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเลยก็คงไม่ใช่ ตนเข้าใจข้อห่วงใยของเขาในเรื่องของการแปรรูปรัฐวิสาหกิจหรือเรื่องกฎหมาย 11 ฉบับ แต่พรรคก็มีแนวทางที่จะแก้ไข และพรรคก็ไม่ได้ห้ามว่านายเอกยุทธไม่ควรที่จะตั้งพรรคการเมืองของเขาเอง ในขณะเดียวกันหากมีกรอบความคิดใดที่ตรงกันหรือ เป็นประโยชน์ ก็เป็นพันธมิตรทางการเมืองกันได้ แต่ถ้าต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวแทนการเคลื่อนไหว ก็อาจจะมีผลต่อเอกภาพในการตรวจสอบถ่วงดุลอยู่เหมือนกัน
เมื่อถามว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ปฏิเสธนายเอกยุทธ อัญชันบุตร เพราะปฏิเสธเงินของเขา หรือปฏิเสธ ที่รับไม่ได้เพราะข้อเสนอแก้กฎหมาย 11 ฉบับ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะพูดว่าปฏิเสธคงไม่ได้ เพราะความจริงยังไม่มีการนำเสนอเลย ที่คุณเอกยุทธมาก็เพื่อให้กำลังใจและคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ กับ เรื่องกฎหมาย 11 ฉบับ ในเชิงนโยบายกับหัวหน้าพรรคเท่านั้น ซึ่งหัวหน้าพรรคก็ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมคณะผู้บริหารชัดเจนแล้วว่าไม่ได้คุยกันในเรื่องเงินทุนแต่อย่างใด
‘ถ้าจะให้เราย้อนมองตนเอง ก็อาจจะมีปัญหาจากอดีตอยู่เหมือนกัน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ก็เติบโตมาจากการเมืองระบบตัวแทน และเนื่องจากเราเข้าไปแก้ปัญหาในเรื่องของวิกฤตเศรษฐกิจ ก็ต้องทำงานกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ก็มีหลายเรื่องที่ขัดใจและไม่ถูกใจกันมา แต่ผมคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีความขัดแย้งกับความคิดพื้นฐานเรื่องสิทธิเสรีภาพทางการเมืองหรือเรื่องการแข่งขันที่เป็นธรรมทางเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นในส่วนของกลุ่มต่างๆนี่ ผมยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ยินดีที่จะพูดคุยเพื่อดูว่าเราจะสามารถเป็นตัวแทนของ ความคิดเขาได้มากน้อยแค่ไหน’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-
วันนี้ (18 ส.ค.47 ) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ ‘ข่าวยามเช้า’ ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 101.0 เมกะเฮิร์ทถึงกรณีการตั้งพรรคการเมืองทางเลือกใหม่ในขณะนี้ว่า มีการพูดถึงพรรคการเมืองที่ 3 มาระยะหนึ่ง ต่อมาก็มีการตั้งพรรคใหม่ ซึ่งตนคิดว่าการตั้งพรรคการเมืองสามารถทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก แต่ปัญหาคือเป้าหมายของแต่ละพรรคนั้นคืออะไร เพราะตนคิดว่าปัจจุบันมีคนจำนวนหนึ่งกำลังกระหายทางเลือก
ต่อข้อถามที่ว่าประชาชนต้องการอำนาจตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่ทางเลือกในช่วงเวลานี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ที่ตนพูดว่าคนกระหายทางเลือกเป็นสิ่งสะท้อน ที่ทำให้เราต้องมาดูตัวเองพอสมควร เพราะการที่ประชาชนต้องการทางเลือกหมายความว่าไม่พอใจกับทางเลือกที่มีอยู่ ซึ่งตนคิดว่ากระแสที่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหว คือ ปัญหาเรื่องสิทธิเสรีภาพและการมีส่วนร่วมถูกมองข้ามไป และด้านเศรษฐกิจก็เกิดการผูกขาดทางเศรษฐกิจมากขึ้น ส่วนการประกอบธุรกิจต่างๆ ก็เป็นเรื่องของพวกพ้อง
ส่วนกรณีที่มีนักธุรกิจเสนอให้ยกเลิกกฎหมาย 11 ฉบับ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถ้าบอกว่ากฎหมาย 11 ฉบับต้องยกเลิกหมด ไม่มีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเลยก็คงไม่ใช่ ตนเข้าใจข้อห่วงใยของเขาในเรื่องของการแปรรูปรัฐวิสาหกิจหรือเรื่องกฎหมาย 11 ฉบับ แต่พรรคก็มีแนวทางที่จะแก้ไข และพรรคก็ไม่ได้ห้ามว่านายเอกยุทธไม่ควรที่จะตั้งพรรคการเมืองของเขาเอง ในขณะเดียวกันหากมีกรอบความคิดใดที่ตรงกันหรือ เป็นประโยชน์ ก็เป็นพันธมิตรทางการเมืองกันได้ แต่ถ้าต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวแทนการเคลื่อนไหว ก็อาจจะมีผลต่อเอกภาพในการตรวจสอบถ่วงดุลอยู่เหมือนกัน
เมื่อถามว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ปฏิเสธนายเอกยุทธ อัญชันบุตร เพราะปฏิเสธเงินของเขา หรือปฏิเสธ ที่รับไม่ได้เพราะข้อเสนอแก้กฎหมาย 11 ฉบับ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะพูดว่าปฏิเสธคงไม่ได้ เพราะความจริงยังไม่มีการนำเสนอเลย ที่คุณเอกยุทธมาก็เพื่อให้กำลังใจและคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ กับ เรื่องกฎหมาย 11 ฉบับ ในเชิงนโยบายกับหัวหน้าพรรคเท่านั้น ซึ่งหัวหน้าพรรคก็ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมคณะผู้บริหารชัดเจนแล้วว่าไม่ได้คุยกันในเรื่องเงินทุนแต่อย่างใด
‘ถ้าจะให้เราย้อนมองตนเอง ก็อาจจะมีปัญหาจากอดีตอยู่เหมือนกัน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ก็เติบโตมาจากการเมืองระบบตัวแทน และเนื่องจากเราเข้าไปแก้ปัญหาในเรื่องของวิกฤตเศรษฐกิจ ก็ต้องทำงานกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ก็มีหลายเรื่องที่ขัดใจและไม่ถูกใจกันมา แต่ผมคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีความขัดแย้งกับความคิดพื้นฐานเรื่องสิทธิเสรีภาพทางการเมืองหรือเรื่องการแข่งขันที่เป็นธรรมทางเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นในส่วนของกลุ่มต่างๆนี่ ผมยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ยินดีที่จะพูดคุยเพื่อดูว่าเราจะสามารถเป็นตัวแทนของ ความคิดเขาได้มากน้อยแค่ไหน’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-