เมื่อวานนี้ ( 18 ส.ค.47) เวลา 17.00 น.พรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดปราศรัยใหญ่ ณ บริเวณวงเวียนใหญ่ เพื่อหาเสียงให้กับนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีผู้บริหารของพรรคฯ ขึ้นกล่าวปราศรัย อย่างเผ็ดร้อน ท่ามกลางผู้ฟังกว่า 1 พันคน ที่ไม่เกรงกลัวต่อสายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก โดยผู้ปราศรัยประกอบด้วยนายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคฯ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคฯ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคฯนอกจากนั้นยังมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อีกหลายคนที่มาร่วมให้กำลังใจกับนายอภิรักษ์ด้วย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคฯ ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยเป็นคนสุดท้ายว่า แม้ว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯครั้งนี้จะมีผู้สมัครถึง 22 คน แต่มีผู้สมัครที่ลงในนามพรรคการเมืองเพียง 2 คน ซึ่งนายอภิรักษ์เป็นหนึ่งในนั้น คนกรุงเทพอาจแปลกใจว่าทำไมพรรคที่โอ้อวดเสมอว่ามีความพร้อมกว่าใคร ขนาดหัวหน้าพรรคเคยพูดว่าแม้แต่ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ กลับไม่ส่งผู้สมัคร " นั่นเป็นเพราะวิธีคิดที่แตกต่างกัน ประชาธิปัตย์ถือว่าเป็นหน้าที่ ที่จะต้องส่งผู้สมัครเพื่อเป็นทางเลือกแก่ประชาชน จึงหาคนที่มีความสามารถมาสมัคร โดยที่ตอนนั้นไม่ได้พิจารณาว่ามีคะแนนมากกว่าคนอื่นหรือไม่ " นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่า ปลายปีที่แล้ว หัวหน้าพรรคไทยรักไทยเคยบอกว่าส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ ต่อมาก็บอกว่ามีผู้ขอลงสมัครมาก แต่ขอเตรียมนโยบายก่อนแล้วค่อยส่งใครลงก็ชนะอยู่ดี แต่ต่อมากลับบอกว่าไม่ขอส่งผู้สมัคร หลายคนเลยสงสัยว่าพรรคนี้ไม่มีผู้สมัครที่ดีกว่าเสาไฟฟ้าหรืออย่างไร
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ถือว่าหนักมาก เพราะต้องต่อสู้อย่างตรงไปตรงมา กับคนที่ไม่กล้าออกหน้า แต่วางแผนอย่างแยบยล เพื่อไม่ให้นายอภิรักษ์ชนะเลือกตั้ง ตอนแรกคู่แข่งพยายามทาบทามนายอภิรักษ์ แต่พอนายอภิรักษ์ ปฏิเสธ เพื่อขอลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ก็พยายามสกัดโดยบอกว่านายอภิรักษ์ไม่เก่งจริง ย้ายงานบ่อย " หากดูจากประวัติจะพบว่านายอภิรักษ์ทำงานในตำแหน่งที่สูงขึ้นในองค์กรขนาดใหญ่ทั้งนั้น เจ้าของบริษัทเหล่านั้นคงไม่จ้างด้วยเงินเดือนแพงๆ หากนายอภิรักษ์ไม่เก่งจริง ผมคิดว่าคนที่ไต่เต้าจากพนักงานระดับล่างจนถึงผู้บริหารระดับสูงอย่างนี้เก่งกว่า พวกเสือนอนกินร่ำรวยจากสัมปทานผูกขาดซะอีก " นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นนายอภิรักษ์ ก็เจอข้อหาหนักสุด คือ หล่อ ความหล่อก็กลายเป็นความผิด แต่หลังจากการสกัดนายอภิรักษ์ด้วยวิธีดังกล่าวไม่สำเร็จ ก็มีการส่งผู้สมัครมาเพื่อตัดคะแนน จึงทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้สมัครมากเป็นพิเศษ ส่วนสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นคือ การเทคะแนนให้บางคนเพื่อให้ชนะนายอภิรักษ์ซึ่งอยากให้จับตาให้ดีในสัปดานี้อาจมี สก. สข. ของพรรคฯอื่นบางคน กลับลำหันมาสนับสนุนคนอื่น ทั้งๆที่เคยหาเสียงให้ผู้สมัครคนอื่นมาแล้ว "การเทคะแนนให้ผู้สมัครคนหนึ่งคนใดถือเป็น วิธีการที่ถือว่าดูถูกประชาชน ใครทำอย่างนั้นให้ระวังไว้ว่าจะไม่ได้รับศรัทธาจากประชาชนอีกเลย การเทของเรามีอย่างเดียว คือเทหัวใจให้นายอภิรักษ์ " นายอภิสิทธิ์ กล่าว นอกจากนี้ยังแสดงความกังวลด้วยว่า ช่วงใกล้เลือกตั้งอย่างนี้จะมีการกล่าวหาใส่ร้าย อย่างสัปดาห์ที่ผ่านมีการพยายามปล่อยข่าวว่าหากนายอภิรักษ์เป็นผู้ว่าจะห้ามพ่อค้าแม่ค้าไม่ให้ขายของ ทั้งๆที่จริงๆแล้วไม่ใช่ และตนก็คิดว่าคงไม่มีผู้สมัครคนใดจะคิดอย่างนั้น และที่ตนกังวลที่สุด คือ อาจมีการกล่าวหาว่านายอภิรักษ์ทำผิดกฎหมาย เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมามีการงัดสำนักงานของ ส.ส.อิสรา สุนทรวัฒน์ เพื่อขโมยแผ่นพับ ซึ่งตนเกรงว่าจะถูกนำไปใช้เพื่อกล่าวหาว่านายอภิรักษ์ทำผิดกฎหมาย ซึ่งตนได้แจ้ง กกต.ไปแล้ว " ผมจึงอยากขอประกาศไว้ ณ ที่นี้เลยว่า ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามนายอภิรักษ์ และพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ใช้วิธีการที่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน " นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคฯ ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยเป็นคนสุดท้ายว่า แม้ว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯครั้งนี้จะมีผู้สมัครถึง 22 คน แต่มีผู้สมัครที่ลงในนามพรรคการเมืองเพียง 2 คน ซึ่งนายอภิรักษ์เป็นหนึ่งในนั้น คนกรุงเทพอาจแปลกใจว่าทำไมพรรคที่โอ้อวดเสมอว่ามีความพร้อมกว่าใคร ขนาดหัวหน้าพรรคเคยพูดว่าแม้แต่ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ กลับไม่ส่งผู้สมัคร " นั่นเป็นเพราะวิธีคิดที่แตกต่างกัน ประชาธิปัตย์ถือว่าเป็นหน้าที่ ที่จะต้องส่งผู้สมัครเพื่อเป็นทางเลือกแก่ประชาชน จึงหาคนที่มีความสามารถมาสมัคร โดยที่ตอนนั้นไม่ได้พิจารณาว่ามีคะแนนมากกว่าคนอื่นหรือไม่ " นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่า ปลายปีที่แล้ว หัวหน้าพรรคไทยรักไทยเคยบอกว่าส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ ต่อมาก็บอกว่ามีผู้ขอลงสมัครมาก แต่ขอเตรียมนโยบายก่อนแล้วค่อยส่งใครลงก็ชนะอยู่ดี แต่ต่อมากลับบอกว่าไม่ขอส่งผู้สมัคร หลายคนเลยสงสัยว่าพรรคนี้ไม่มีผู้สมัครที่ดีกว่าเสาไฟฟ้าหรืออย่างไร
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ถือว่าหนักมาก เพราะต้องต่อสู้อย่างตรงไปตรงมา กับคนที่ไม่กล้าออกหน้า แต่วางแผนอย่างแยบยล เพื่อไม่ให้นายอภิรักษ์ชนะเลือกตั้ง ตอนแรกคู่แข่งพยายามทาบทามนายอภิรักษ์ แต่พอนายอภิรักษ์ ปฏิเสธ เพื่อขอลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ก็พยายามสกัดโดยบอกว่านายอภิรักษ์ไม่เก่งจริง ย้ายงานบ่อย " หากดูจากประวัติจะพบว่านายอภิรักษ์ทำงานในตำแหน่งที่สูงขึ้นในองค์กรขนาดใหญ่ทั้งนั้น เจ้าของบริษัทเหล่านั้นคงไม่จ้างด้วยเงินเดือนแพงๆ หากนายอภิรักษ์ไม่เก่งจริง ผมคิดว่าคนที่ไต่เต้าจากพนักงานระดับล่างจนถึงผู้บริหารระดับสูงอย่างนี้เก่งกว่า พวกเสือนอนกินร่ำรวยจากสัมปทานผูกขาดซะอีก " นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นนายอภิรักษ์ ก็เจอข้อหาหนักสุด คือ หล่อ ความหล่อก็กลายเป็นความผิด แต่หลังจากการสกัดนายอภิรักษ์ด้วยวิธีดังกล่าวไม่สำเร็จ ก็มีการส่งผู้สมัครมาเพื่อตัดคะแนน จึงทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้สมัครมากเป็นพิเศษ ส่วนสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นคือ การเทคะแนนให้บางคนเพื่อให้ชนะนายอภิรักษ์ซึ่งอยากให้จับตาให้ดีในสัปดานี้อาจมี สก. สข. ของพรรคฯอื่นบางคน กลับลำหันมาสนับสนุนคนอื่น ทั้งๆที่เคยหาเสียงให้ผู้สมัครคนอื่นมาแล้ว "การเทคะแนนให้ผู้สมัครคนหนึ่งคนใดถือเป็น วิธีการที่ถือว่าดูถูกประชาชน ใครทำอย่างนั้นให้ระวังไว้ว่าจะไม่ได้รับศรัทธาจากประชาชนอีกเลย การเทของเรามีอย่างเดียว คือเทหัวใจให้นายอภิรักษ์ " นายอภิสิทธิ์ กล่าว นอกจากนี้ยังแสดงความกังวลด้วยว่า ช่วงใกล้เลือกตั้งอย่างนี้จะมีการกล่าวหาใส่ร้าย อย่างสัปดาห์ที่ผ่านมีการพยายามปล่อยข่าวว่าหากนายอภิรักษ์เป็นผู้ว่าจะห้ามพ่อค้าแม่ค้าไม่ให้ขายของ ทั้งๆที่จริงๆแล้วไม่ใช่ และตนก็คิดว่าคงไม่มีผู้สมัครคนใดจะคิดอย่างนั้น และที่ตนกังวลที่สุด คือ อาจมีการกล่าวหาว่านายอภิรักษ์ทำผิดกฎหมาย เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมามีการงัดสำนักงานของ ส.ส.อิสรา สุนทรวัฒน์ เพื่อขโมยแผ่นพับ ซึ่งตนเกรงว่าจะถูกนำไปใช้เพื่อกล่าวหาว่านายอภิรักษ์ทำผิดกฎหมาย ซึ่งตนได้แจ้ง กกต.ไปแล้ว " ผมจึงอยากขอประกาศไว้ ณ ที่นี้เลยว่า ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามนายอภิรักษ์ และพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ใช้วิธีการที่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน " นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-