องค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้ควบคุมสินค้ายาสูบภายใต้การเปิดเสรีของอาเซียน

        เมื่อวันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม 2547 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาเรียกร้องให้สมาชิกประเทศอาเซียนหันมาให้ความสนใจกับการควบคุมการค้า “สินค้ายาสูบ” ภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรีของอาเซียน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเสียชีวิตของประชาชนและการแพร่ของโรคร้ายที่เกิดจาก “สินค้ายาสูบ” เนื่องจากข้อมูลของ WHO ระบุว่า ผู้เสียชีวิต 1 ใน 10 รายทั่วโลก มีสาเหตุมาจาก“สินค้ายาสูบ” และส่วนใหญ่เป็นประชากรที่มีฐานะยากจน 
        โดย WHO เห็นว่าการลดภาษีสินค้ายาสูบภายใต้ข้อตกลงของอาเซียน  จะส่งผลให้ “ผลิตภัณฑ์ยาสูบ”  มีราคาถูกลงและแพร่หลายมากขึ้นในท้องตลาด ดังนั้นอาเซียนจึงควรมีนโยบาย/มาตรการสำหรับ“สินค้ายาสูบ” เป็นกรณีเฉพาะต่างจากสินค้าอื่นๆ
        สำหรับการเปิดเสรีภายใต้กรอบอาเซียนนี้ เริ่มตั้งแต่ต้นปี 2003 โดยกำหนดให้มีการลดภาษีนำเข้าระหว่างประเทศสมาชิกเหลือร้อยละ 0-5 ภายในปี 2008
        ด้านบริษัท PT HM Sampoerna ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกบุหรี่รายใหญ่อันดับสองของ   อินโดนีเซีย ให้ความเห็นว่าข้อเรียกร้องของ WHO  “ไม่เป็นเรื่องแปลก”  แต่นโยบายในเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งผู้ประกอบการและผู้ส่งออกธุรกิจยาสูบจะต้องยอมรับและ   ถือปฏิบัติ 
        สำหรับอินโดนีเซียนั้น  การส่งออก“สินค้ายาสูบ” ในแต่ละปีมีมูลค่าสูงประมาณ 60-80ล้านเหรียญสหรัฐฯ(ปี 2001มีมูลค่าส่งออก 80.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปี 2002 มีมูลค่าส่งออก 66.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และปี 2003 มีมูลค่าส่งออก 70.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) และอุตสาหกรรมการผลิตบุหรี่ของอินโดนีเซียนี้ยังเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เสียภาษีให้รัฐมากที่สุด รวมถึงมีการจ้างงานในประเทศเป็นจำนวนมากด้วย 
        กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-