นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวยามเช้า ถึงช่วงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่มีการแข่งขันและโจมตีกันระหว่างตัวผู้สมัคร ว่า ในฐานะตนเป็นนักการเมืองที่ผ่านการเลือกตั้งมาหลายครั้งอยากจะให้กำลังใจผู้สมัครทุกคน เพราะเมื่ออาสาตัวเข้ามาทำงาน ก็จะมีปัญหาหลายๆอย่างเข้ามา ทางด้านของพรรคก็กำลังเผชิญกับความปัญหาในการแข่งขันอยู่ 2 ด้าน คือ 1.การกลั่นแกล้ง ตรงนี้ทางพรรคได้ขอความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสถ้าพบเห็นสิ่งผิดปกติ และพรรคก็จะส่งเรื่องให้กกต.ตรวจสอบ โดยเราจะไม่ดูในแง่ของการกระทำผิดทางกฎหมายเพียงอย่างเดียวแต่จะรวมถึงลักษณะของการกลั่นแกล้งด้วย ‘มีคนแจ้งมาว่า มีโทรศัพท์ไปตามบ้านถามว่าบ้านนั้นมีผู้มีสิทธิ์กี่คน จะเอาเงินให้แล้วก็ให้เลือกเบอร์ 1 ตรงนี้เราก็ขอรายละเอียดมาแล้วก็จะแจ้ง กกต. ให้ทราบ เพราะเราไม่มีแนวคิดที่จะทำ และก็กำชับเด็ดขาดว่าทุกฝ่ายต้องปฎิบัติตามกฎหมายรวมถึงสิ่งที่ กกต.กำหนดมา ทางพรรคฯยืนยันมาตลอดในเรื่องของการเลือกตั้งที่จะต้องสุจริตเที่ยงธรรม’ นายอภิสิทธิ์ กล่าว ส่วนปัญหาที่ 2. การแจกใบปลิวเถื่อน เป็นการนำเรื่องที่ไม่ควรหยิบยกขึ้นมาอ้าง เช่น นโยบายไปสร้างห้องละหมาดในโรงเรียน ในวัดต่างๆ ซึ่งนโยบายดังกล่าวไม่เป็นความจริงเลย ก็ถูกนำไปเผยแพร่ ‘จะแข่งขันกันอย่างไรหรือใครอยู่เบื้องหลัง ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องของการแพ้ชนะ ถ้าเกิดเอาเรื่องแบบนี้มาก็จะไม่เกิดผลดีกับสังคม ก่อให้เกิดความแตกแยก ไม่ควรนำเรื่องแบบนี้มาเป็นเงื่อนไข ตนอยากจะเรียกร้องว่า การแข่งขันควรจะอยู่ในขอบเขต อำนาจเป็นของประชาชนให้เขาได้ใช้ดุลพินิจในการตัดสินใจ อย่ามาใช้วิธีการลักษณะนี้ไม่สร้างสรรค์เลย’ นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าวิธีดำเนินการแก้ไขปัญหาจราจรของนายอภิรักษ์เหมือนกับนโยบายที่รัฐบาลประกาศออกมา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าพรรคชัดเจนที่สุด เพราะ เมื่อนายกฯได้พูดเรื่องนี้ในวันอาทิตย์ วันจันทร์นายอภิรักษ์ ก็แถลงข่าว ซึ่งถือเป็นเรื่องชัดเจน เช่นในเรื่องของการต่อขยายระบบขนส่งมวลชนตต่างๆ ก็เป็นแผนงานที่มีมางานแล้ว แล้วก็เป็นงานที่รัฐบาลต้องทำ ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ว่าฯ แต่ในขณะเดียวกันบางโครงการที่เสริมเข้าไปก็ดูเหมือนว่าจะพูดตรงกัน เพราะว่าเราได้พูดถึงโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษ ( BRT ) รัฐบาลพูด 9 เส้นทาง เราพูดมาก่อนหน้านี้เป็น 10 เส้นทางก็ดูจะใกล้เคียงกันมาก ซึ่งเราสามารถมารับและก็เสริมกันได้ เช่นเดียวกับโครงการที่จะปรับที่จอดรถแท็กซี่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยในจุดที่คนจะต้องใช้บริการกันมาก อันนี้ก็จะตรงกัน ซึ่งเหมือนกับที่นายอภิรักษ์ได้ไปขอความร่วมมือจากห้าง เอ็มโพเรี่ยม ให้เป็นตัวอย่างในเรื่องของว่าจะจอดแท็กซี่ อย่างไรไม่ให้การจราจรติดขัด เราจะมีข้อเสนอเพิ่มเติมเพราะเราพูดถึงโครงการป้ายรถเมล์ ที่จอดรถ ป้ายบอกทางจราจร ที่จอดรับส่งรถแท็กซี่อัจฉริยะ คือ ใช้เรื่องของเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามา เพื่อเสริมตรงนี้ด้วย ซึ่งจะได้ถือโอกาสนี้ขอความร่วมมือจากรัฐบาลให้ส่งเสริมตรงนี้ด้วย
ต่อข้อซักถามกรณีนายอภิรักษ์ จะเข้าพบนายกฯ เพื่อเสนอแผนแก้ไขระบบจราจร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ความคิดเหล่านี้จะนำเสนอ แต่เข้าใจว่าท่านนายกฯ ลงใต้ การนำเสนอก็คงจะได้ทำ ตนคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของพรรคการเมือง ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ‘ กรณีที่ท่านพูดออกมามีหลายเรื่องมันตรงกัน ก็เลยมีความคิดว่าถ้าอย่างนั้น น่าจะได้มีโอกาสให้ข้อคิดเพิ่มเติมไปด้วย เสนอแนะไปด้วย’รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า การที่จะเสนอไปอย่างไรก็ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะการกระทำสำคัญมากกว่า เหมือนกับเรื่องการประหยัดพลังงานตอนนี้ ว่าจริงๆแล้วพรรคปชป. อยากให้ประชาชนช่วยกันประหยัดพลังงานด้วย เพราะว่าปัญหาตรงนี้เป็นปัญหาของชาติ จริงๆ แล้วหลายปัจจัยก็ไม่สามารถควบคุมได้ เพราะว่าราคาน้ำมันในตลาดโลก หรืออะไรก็ตาม แม้จะมีความพยายามที่จะหามาตรการประหยัด แต่ว่าจากที่ผ่านมา ก็ไปเน้นในเรื่องของการที่จะไปใช้กองทุนพยุงอยู่มาก แต่มาถึงวันนี้เมื่อยอมรับความจำเป็นในเรื่องการประหยัดพลังงาน ตนคิดว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยินดีที่จะสนับสนุน ช่วยรณรงค์ เพราะฉะนั้น ก็อยากจะเชิญฯชวนประชาชนด้วย ถ้ามารวบประหยัดพลังงาน ประหยัดน้ำมัน ก็เป็นผลดีกับทุกฝ่าย
ส่วนกรณีว่า หากเลือกเบอร์ 1 ที่มาจากพรรคฝ่ายค้าน จะมีปัญหาในเรื่องประสานงานกับรัฐบาลหรือไม่นั้น นายภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาไม่มีอยู่แล้ว และก็หลายโครงการเราเพิ่มเติมที่จะเสนอเข้าไป และรัฐบาลก็คงไม่ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับโครงการดีของชาวกทม.
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 25 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-
ผู้สื่อข่าวถามว่าวิธีดำเนินการแก้ไขปัญหาจราจรของนายอภิรักษ์เหมือนกับนโยบายที่รัฐบาลประกาศออกมา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าพรรคชัดเจนที่สุด เพราะ เมื่อนายกฯได้พูดเรื่องนี้ในวันอาทิตย์ วันจันทร์นายอภิรักษ์ ก็แถลงข่าว ซึ่งถือเป็นเรื่องชัดเจน เช่นในเรื่องของการต่อขยายระบบขนส่งมวลชนตต่างๆ ก็เป็นแผนงานที่มีมางานแล้ว แล้วก็เป็นงานที่รัฐบาลต้องทำ ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ว่าฯ แต่ในขณะเดียวกันบางโครงการที่เสริมเข้าไปก็ดูเหมือนว่าจะพูดตรงกัน เพราะว่าเราได้พูดถึงโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษ ( BRT ) รัฐบาลพูด 9 เส้นทาง เราพูดมาก่อนหน้านี้เป็น 10 เส้นทางก็ดูจะใกล้เคียงกันมาก ซึ่งเราสามารถมารับและก็เสริมกันได้ เช่นเดียวกับโครงการที่จะปรับที่จอดรถแท็กซี่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยในจุดที่คนจะต้องใช้บริการกันมาก อันนี้ก็จะตรงกัน ซึ่งเหมือนกับที่นายอภิรักษ์ได้ไปขอความร่วมมือจากห้าง เอ็มโพเรี่ยม ให้เป็นตัวอย่างในเรื่องของว่าจะจอดแท็กซี่ อย่างไรไม่ให้การจราจรติดขัด เราจะมีข้อเสนอเพิ่มเติมเพราะเราพูดถึงโครงการป้ายรถเมล์ ที่จอดรถ ป้ายบอกทางจราจร ที่จอดรับส่งรถแท็กซี่อัจฉริยะ คือ ใช้เรื่องของเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามา เพื่อเสริมตรงนี้ด้วย ซึ่งจะได้ถือโอกาสนี้ขอความร่วมมือจากรัฐบาลให้ส่งเสริมตรงนี้ด้วย
ต่อข้อซักถามกรณีนายอภิรักษ์ จะเข้าพบนายกฯ เพื่อเสนอแผนแก้ไขระบบจราจร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ความคิดเหล่านี้จะนำเสนอ แต่เข้าใจว่าท่านนายกฯ ลงใต้ การนำเสนอก็คงจะได้ทำ ตนคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของพรรคการเมือง ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ‘ กรณีที่ท่านพูดออกมามีหลายเรื่องมันตรงกัน ก็เลยมีความคิดว่าถ้าอย่างนั้น น่าจะได้มีโอกาสให้ข้อคิดเพิ่มเติมไปด้วย เสนอแนะไปด้วย’รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า การที่จะเสนอไปอย่างไรก็ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะการกระทำสำคัญมากกว่า เหมือนกับเรื่องการประหยัดพลังงานตอนนี้ ว่าจริงๆแล้วพรรคปชป. อยากให้ประชาชนช่วยกันประหยัดพลังงานด้วย เพราะว่าปัญหาตรงนี้เป็นปัญหาของชาติ จริงๆ แล้วหลายปัจจัยก็ไม่สามารถควบคุมได้ เพราะว่าราคาน้ำมันในตลาดโลก หรืออะไรก็ตาม แม้จะมีความพยายามที่จะหามาตรการประหยัด แต่ว่าจากที่ผ่านมา ก็ไปเน้นในเรื่องของการที่จะไปใช้กองทุนพยุงอยู่มาก แต่มาถึงวันนี้เมื่อยอมรับความจำเป็นในเรื่องการประหยัดพลังงาน ตนคิดว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยินดีที่จะสนับสนุน ช่วยรณรงค์ เพราะฉะนั้น ก็อยากจะเชิญฯชวนประชาชนด้วย ถ้ามารวบประหยัดพลังงาน ประหยัดน้ำมัน ก็เป็นผลดีกับทุกฝ่าย
ส่วนกรณีว่า หากเลือกเบอร์ 1 ที่มาจากพรรคฝ่ายค้าน จะมีปัญหาในเรื่องประสานงานกับรัฐบาลหรือไม่นั้น นายภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาไม่มีอยู่แล้ว และก็หลายโครงการเราเพิ่มเติมที่จะเสนอเข้าไป และรัฐบาลก็คงไม่ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับโครงการดีของชาวกทม.
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 25 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-