นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย — ออสเตรเลีย ที่ได้มีการลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันสำหรับสินค้า จำนวน 5,505 รายการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นมา กรมการค้าต่างประเทศได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าให้กับผู้ส่งออกตั้งแต่ ม.ค. — เม.ย. 48(4 เดือน) จำนวน 4,410 ฉบับ มูลค่า 523.60 ล้านเหรียญสหรัฐ (20,126.64 ล้านบาท) สินค้าที่ขอหนังสือรับรองฯ ที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ ยานยนต์สำหรับขนส่งของ คิดเป็นร้อยละ 50 รองลงมาคือ รถยนต์และยานยนต์อื่นที่ออกแบบสำหรับขนส่งบุคคลเป็นหลัก ร้อยละ 12 หม้อแปลงไฟฟ้า ร้อยละ 8 ปลาที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย ร้อยละ 6 เครื่องปรับอากาศที่ประกอบด้วย พัดลมซึ่งขับด้วยมอเตอร์ ร้อยละ 4 กระดาษและกระดาษแข็งที่ไม่เคลือบ ร้อยละ 2
การส่งออก — นำเข้าตามสถิติของกรมศุลกากร ตั้งแต่ ม.ค. — มี.ค.48 (3 เดือน) ไทยส่งออกสินค้าในรายการตามข้อตกลงไปออสเตรเลีย มูลค่า 25,443.15 ล้านบาท สินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ ยานยนต์สำหรับขนส่งของ ร้อยละ27 รองลงมาคือ รถยนต์และยานยนต์สำหรับขนส่งบุคคลเป็นหลัก ร้อยละ 13 ปลาที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย และเครื่องปรับอากาศแบบติดหน้าต่างและติดผนัง ร้อยละ 4 เครื่องประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติและหน่วยต่างๆ ร้อยละ 3
ไทยนำเข้าสินค้าในรายการตามข้อตกลงจากออสเตรเลีย ตั้งแต่ ม.ค. - มี.ค.48 (3 เดือน) มูลค่า 36,789.59 ล้านบาท สินค้านำเข้าที่มีมูลค่ามากที่สุดคือ ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป ร้อยละ 47 รองลงมา ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบและน้ำมันที่ได้จากแร่บิทูมินัส ร้อยละ 8 แคโทดและส่วนของแคโทด อะลูมิเนียม ไม่เจือ ร้อยละ 6 และเมสลีน ร้อยละ 4
ตั้งแต่ ม.ค. — มี.ค.48 ไทยขาดดุลการค้ากับออสเตรเลีย จำนวน 11,346.44 ล้านบาท เป็นเพราะมีการนำเข้าทองคำจากออสเตรเลียซึ่งเป็นแหล่งนำเข้าหลักของไทย มูลค่า 17,273.90 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 47 ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด เนื่องจากราคาทองคำลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค.47 จึงมีการซื้อทองคำเข้าเก็บเพื่อเก็งกำไรเป็นส่วนใหญ่รวมทั้งซื้อเพื่อใช้ผลิตทองคำสำเร็จรูปและใช้เป็นส่วนประกอบของอัญมณีและเครื่องประดับ นอกจากนี้ได้มีการนำเข้าน้ำมันดิบฯเป็นมูลค่า 3,071.91 ล้านบาท โดยนำเข้าในเดือน มี.ค.48 มูลค่า 2,398.24 ล้านบาท ในขณะที่เดือน ก.พ.48 ไม่มีการนำเข้าและเดือน ม.ค.48 มีการนำเข้ามูลค่า 673.67 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 356 อย่างไรก็ตามเนื่องจากทองคำที่ยังไม่ได้ขึ้นรูปและ น้ำมันดิบฯไม่มีภาษีนำเข้า(ภาษีเป็นศูนย์อยู่แล้ว) ดังนั้นหากรวมเฉพาะมูลค่าของการนำเข้าสินค้าอื่นใน รายการตามข้อตกลง(ยกเว้นทองคำและน้ำมัน) ไทยจะเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค.48 จำนวน 8,512.89 ล้านบาท โดยได้ดุลการค้าในเดือน มี.ค.48 เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.พ.48 จำนวน 1,074.65 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 45
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-
การส่งออก — นำเข้าตามสถิติของกรมศุลกากร ตั้งแต่ ม.ค. — มี.ค.48 (3 เดือน) ไทยส่งออกสินค้าในรายการตามข้อตกลงไปออสเตรเลีย มูลค่า 25,443.15 ล้านบาท สินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ ยานยนต์สำหรับขนส่งของ ร้อยละ27 รองลงมาคือ รถยนต์และยานยนต์สำหรับขนส่งบุคคลเป็นหลัก ร้อยละ 13 ปลาที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย และเครื่องปรับอากาศแบบติดหน้าต่างและติดผนัง ร้อยละ 4 เครื่องประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติและหน่วยต่างๆ ร้อยละ 3
ไทยนำเข้าสินค้าในรายการตามข้อตกลงจากออสเตรเลีย ตั้งแต่ ม.ค. - มี.ค.48 (3 เดือน) มูลค่า 36,789.59 ล้านบาท สินค้านำเข้าที่มีมูลค่ามากที่สุดคือ ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป ร้อยละ 47 รองลงมา ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบและน้ำมันที่ได้จากแร่บิทูมินัส ร้อยละ 8 แคโทดและส่วนของแคโทด อะลูมิเนียม ไม่เจือ ร้อยละ 6 และเมสลีน ร้อยละ 4
ตั้งแต่ ม.ค. — มี.ค.48 ไทยขาดดุลการค้ากับออสเตรเลีย จำนวน 11,346.44 ล้านบาท เป็นเพราะมีการนำเข้าทองคำจากออสเตรเลียซึ่งเป็นแหล่งนำเข้าหลักของไทย มูลค่า 17,273.90 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 47 ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด เนื่องจากราคาทองคำลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค.47 จึงมีการซื้อทองคำเข้าเก็บเพื่อเก็งกำไรเป็นส่วนใหญ่รวมทั้งซื้อเพื่อใช้ผลิตทองคำสำเร็จรูปและใช้เป็นส่วนประกอบของอัญมณีและเครื่องประดับ นอกจากนี้ได้มีการนำเข้าน้ำมันดิบฯเป็นมูลค่า 3,071.91 ล้านบาท โดยนำเข้าในเดือน มี.ค.48 มูลค่า 2,398.24 ล้านบาท ในขณะที่เดือน ก.พ.48 ไม่มีการนำเข้าและเดือน ม.ค.48 มีการนำเข้ามูลค่า 673.67 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 356 อย่างไรก็ตามเนื่องจากทองคำที่ยังไม่ได้ขึ้นรูปและ น้ำมันดิบฯไม่มีภาษีนำเข้า(ภาษีเป็นศูนย์อยู่แล้ว) ดังนั้นหากรวมเฉพาะมูลค่าของการนำเข้าสินค้าอื่นใน รายการตามข้อตกลง(ยกเว้นทองคำและน้ำมัน) ไทยจะเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค.48 จำนวน 8,512.89 ล้านบาท โดยได้ดุลการค้าในเดือน มี.ค.48 เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.พ.48 จำนวน 1,074.65 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 45
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-