1. การผลิต
1.1 ปริมาณการผลิต
การผลิตปูนซีเมนต์ ไตรมาสที่ 2 ปี 2547 มีปริมาณการผลิตรวม 18.38 ล้านตัน เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ลดลงร้อยละ 4.52 เนื่องจากในช่วงเดือนเมษายน มีวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับเดือนมิถุนายน เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนการก่อสร้างเริ่มชะลอตัวทำให้ปริมาณการผลิตปูนซีเมนต์ลดลง โดยเป็นการผลิตปูนเม็ด 8.99 ล้านตัน และการผลิตซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) 9.39 ล้านตัน
แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การผลิตปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.39 เนื่องจากภาวะธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความต้องการใช้ปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้น
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2547 มีการผลิตปูนซีเมนต์จำนวน 37.63 ล้านตัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.95 เนื่องจากภาวะธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวเพิ่มขึ้นโดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักทั้งการขยายการลงทุนในภาคเอกชน และการลงทุนในโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของภาครัฐ
1.2 อัตราการใช้กำลังการผลิต
อัตราการใช้กำลังการผลิตปูนซีเมนต์ ไตรมาสที่ 2 ปี 2547 คิดเป็นร้อยละ 61.80 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ลดลงร้อยละ 3.29 แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.92 และในช่วงครึ่งแรกปี 2547 มีอัตราการใช้กำลังการผลิต ร้อยละ 62.85 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.27
2. การตลาด
2.1 การจำหน่ายในประเทศ
การจำหน่ายปูนซีเมนต์ ไตรมาสที่ 2 ปี 2547 มีปริมาณ 7.27 ล้านตัน เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนลดลง ร้อยละ 7.97 เนื่องจากในช่วงเดือนเมษายนมีวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับ เดือนมิถุนายนเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน การก่อสร้างเริ่มชะลอตัว ทำให้ปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ลดลง โดยเป็นการจำหน่ายปูนเม็ด 0.03 ล้านตัน และปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) 7.24 ล้านตัน แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การจำหน่ายปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.98 เนื่องจากภาวะธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวเพิ่มขึ้น
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2547 การจำหน่ายปูนซีเมนต์มีปริมาณ 15.17 ล้านตัน เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.69 เนื่องจากภาวะธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีปัจจัยสนับสนุนทั้งการขยายการลงทุนในภาคเอกชนและการลงทุนในโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของรัฐ ทำให้มีความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศเพิ่มขึ้น
2.2 การส่งออก
การส่งออกปูนซีเมนต์ ไตรมาสที่ 2 ปี 2547 มีปริมาณการส่งออก 3.19 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 3,194.33 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปริมาณและมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.28 และ 12.75 ตามลำดับ โดยเป็นการส่งออกปูนเม็ด จำนวน 1.99 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1,667.11 ล้านบาท และปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) จำนวน 1.20 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1,527.22 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปริมาณและมูลค่าการส่งออกปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.05 และ 1.19 ตามลำดับ เนื่องจากความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศคู่ค้าขยายตัวเพิ่มขึ้น
การส่งออกปูนซีเมนต์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2547 มีปริมาณ 6.22 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 6,027.53 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 2.81 และ 8.62 ตามลำดับ เนื่องจากผู้ประกอบการหันมาเน้นการขยายตลาดในประเทศมากขึ้น ตามความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปูนซีเมนต์เป็นสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ค่าขนส่งสูง ทำให้การส่งออกมีกำไรต่ำ สำหรับตลาดส่งออกปูนซีเมนต์ที่สำคัญ ได้แก่ เวียดนาม สหรัฐอเมริกา กัมพูชาและบังคลาเทศ
2.3 การนำเข้า
ปูนซีเมนต์เป็นสินค้าที่มีปริมาณการนำเข้าไม่มากนัก การนำเข้าปูนซีเมนต์ไตรมาสที่ 2 ปี 2547 มีจำนวน 2,849.48 คิดเป็นมูลค่า 31.11 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปริมาณและมูลค่าการนำเข้าลดลงร้อยละ 33.20 และ 20.92 ตามลำดับ โดยเป็นการนำเข้าปูนเม็ด จำนวน 41.42 ตัน คิดเป็นมูลค่า 0.76 ล้านบาท ปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) จำนวน 2,808.06 ตัน คิดเป็นมูลค่า 30.35 ล้านบาท
แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การนำเข้าปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 142.75 และ 43.56 ตามลำดับ สำหรับการนำเข้าปูนซีเมนต์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2547 มีปริมาณ 7,115.17 ตัน คิดเป็นมูลค่า 70.45 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 194.05 และ 54.77 ตามลำดับ ทั้งนี้การนำเข้าส่วนใหญ่จะเป็นอะลูมินัสซีเมนต์ ซึ่งไม่สามารถผลิตในประเทศได้ และบางส่วนเป็นการ นำเข้าซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ตลาดนำเข้าที่สำคัญ คือไต้หวัน เกาหลีใต้ โครเอเชีย และจีน
5. สรุป
การผลิตและการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศ ไตรมาสที่ 2 ปี 2547 ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากในเดือนเมษายนมีวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และเดือนมิถุนายนเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน การก่อสร้างชะลอตัว ทำให้ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศลดลงเมื่อเทียบกับต้นปี ซึ่งถือว่าเป็นไปตามฤดูกาล แต่เมื่อพิจารณาในครึ่งแรก ปี 2547 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การผลิตและการจำหน่ายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจาก ภาวะธุรกิจก่อสร้างขยายตัวเพิ่มขึ้น แม้ว่า อัตราการเติบโตจะไม่โดดเด่นเท่ากับปีที่ผ่านมา แต่ยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ และความต้องการที่อยู่อาศัย ซึ่งจะเป็นแรงผลักให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงขยายตัวต่อไปในไตรมาสที่ 3 ส่งผลให้อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์เติบโตตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่อาจเป็นอุปสรรคต่อภาวะเศรษฐกิจ คือ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและการขนส่ง
สำหรับตลาดต่างประเทศ การส่งออกปูนซีเมนต์ในไตรมาส 2 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ของประเทศคู่ค้าเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อพิจารณาในช่วงครึ่งแรกของปี 2547 กับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการส่งออกลดลง และคาดว่าการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลัง 2547จะยังทรงตัวอยู่ เนื่องจากปูนซีเมนต์เป็นสินค้าที่มีน้ำหนักมากทำให้ ค่าขนส่งสูง การส่งออกมีกำไรต่ำ ประกอบความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศขยายตัวอย่าง ต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการหันมาเน้นการขยายตลาดในประเทศมากขึ้น
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-
1.1 ปริมาณการผลิต
การผลิตปูนซีเมนต์ ไตรมาสที่ 2 ปี 2547 มีปริมาณการผลิตรวม 18.38 ล้านตัน เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ลดลงร้อยละ 4.52 เนื่องจากในช่วงเดือนเมษายน มีวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับเดือนมิถุนายน เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนการก่อสร้างเริ่มชะลอตัวทำให้ปริมาณการผลิตปูนซีเมนต์ลดลง โดยเป็นการผลิตปูนเม็ด 8.99 ล้านตัน และการผลิตซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) 9.39 ล้านตัน
แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การผลิตปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.39 เนื่องจากภาวะธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความต้องการใช้ปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้น
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2547 มีการผลิตปูนซีเมนต์จำนวน 37.63 ล้านตัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.95 เนื่องจากภาวะธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวเพิ่มขึ้นโดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักทั้งการขยายการลงทุนในภาคเอกชน และการลงทุนในโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของภาครัฐ
1.2 อัตราการใช้กำลังการผลิต
อัตราการใช้กำลังการผลิตปูนซีเมนต์ ไตรมาสที่ 2 ปี 2547 คิดเป็นร้อยละ 61.80 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ลดลงร้อยละ 3.29 แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.92 และในช่วงครึ่งแรกปี 2547 มีอัตราการใช้กำลังการผลิต ร้อยละ 62.85 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.27
2. การตลาด
2.1 การจำหน่ายในประเทศ
การจำหน่ายปูนซีเมนต์ ไตรมาสที่ 2 ปี 2547 มีปริมาณ 7.27 ล้านตัน เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนลดลง ร้อยละ 7.97 เนื่องจากในช่วงเดือนเมษายนมีวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับ เดือนมิถุนายนเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน การก่อสร้างเริ่มชะลอตัว ทำให้ปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ลดลง โดยเป็นการจำหน่ายปูนเม็ด 0.03 ล้านตัน และปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) 7.24 ล้านตัน แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การจำหน่ายปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.98 เนื่องจากภาวะธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวเพิ่มขึ้น
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2547 การจำหน่ายปูนซีเมนต์มีปริมาณ 15.17 ล้านตัน เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.69 เนื่องจากภาวะธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีปัจจัยสนับสนุนทั้งการขยายการลงทุนในภาคเอกชนและการลงทุนในโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของรัฐ ทำให้มีความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศเพิ่มขึ้น
2.2 การส่งออก
การส่งออกปูนซีเมนต์ ไตรมาสที่ 2 ปี 2547 มีปริมาณการส่งออก 3.19 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 3,194.33 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปริมาณและมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.28 และ 12.75 ตามลำดับ โดยเป็นการส่งออกปูนเม็ด จำนวน 1.99 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1,667.11 ล้านบาท และปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) จำนวน 1.20 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1,527.22 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปริมาณและมูลค่าการส่งออกปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.05 และ 1.19 ตามลำดับ เนื่องจากความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศคู่ค้าขยายตัวเพิ่มขึ้น
การส่งออกปูนซีเมนต์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2547 มีปริมาณ 6.22 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 6,027.53 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 2.81 และ 8.62 ตามลำดับ เนื่องจากผู้ประกอบการหันมาเน้นการขยายตลาดในประเทศมากขึ้น ตามความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปูนซีเมนต์เป็นสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ค่าขนส่งสูง ทำให้การส่งออกมีกำไรต่ำ สำหรับตลาดส่งออกปูนซีเมนต์ที่สำคัญ ได้แก่ เวียดนาม สหรัฐอเมริกา กัมพูชาและบังคลาเทศ
2.3 การนำเข้า
ปูนซีเมนต์เป็นสินค้าที่มีปริมาณการนำเข้าไม่มากนัก การนำเข้าปูนซีเมนต์ไตรมาสที่ 2 ปี 2547 มีจำนวน 2,849.48 คิดเป็นมูลค่า 31.11 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปริมาณและมูลค่าการนำเข้าลดลงร้อยละ 33.20 และ 20.92 ตามลำดับ โดยเป็นการนำเข้าปูนเม็ด จำนวน 41.42 ตัน คิดเป็นมูลค่า 0.76 ล้านบาท ปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) จำนวน 2,808.06 ตัน คิดเป็นมูลค่า 30.35 ล้านบาท
แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การนำเข้าปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 142.75 และ 43.56 ตามลำดับ สำหรับการนำเข้าปูนซีเมนต์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2547 มีปริมาณ 7,115.17 ตัน คิดเป็นมูลค่า 70.45 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 194.05 และ 54.77 ตามลำดับ ทั้งนี้การนำเข้าส่วนใหญ่จะเป็นอะลูมินัสซีเมนต์ ซึ่งไม่สามารถผลิตในประเทศได้ และบางส่วนเป็นการ นำเข้าซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ตลาดนำเข้าที่สำคัญ คือไต้หวัน เกาหลีใต้ โครเอเชีย และจีน
5. สรุป
การผลิตและการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศ ไตรมาสที่ 2 ปี 2547 ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากในเดือนเมษายนมีวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และเดือนมิถุนายนเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน การก่อสร้างชะลอตัว ทำให้ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศลดลงเมื่อเทียบกับต้นปี ซึ่งถือว่าเป็นไปตามฤดูกาล แต่เมื่อพิจารณาในครึ่งแรก ปี 2547 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การผลิตและการจำหน่ายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจาก ภาวะธุรกิจก่อสร้างขยายตัวเพิ่มขึ้น แม้ว่า อัตราการเติบโตจะไม่โดดเด่นเท่ากับปีที่ผ่านมา แต่ยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ และความต้องการที่อยู่อาศัย ซึ่งจะเป็นแรงผลักให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงขยายตัวต่อไปในไตรมาสที่ 3 ส่งผลให้อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์เติบโตตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่อาจเป็นอุปสรรคต่อภาวะเศรษฐกิจ คือ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและการขนส่ง
สำหรับตลาดต่างประเทศ การส่งออกปูนซีเมนต์ในไตรมาส 2 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ของประเทศคู่ค้าเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อพิจารณาในช่วงครึ่งแรกของปี 2547 กับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการส่งออกลดลง และคาดว่าการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลัง 2547จะยังทรงตัวอยู่ เนื่องจากปูนซีเมนต์เป็นสินค้าที่มีน้ำหนักมากทำให้ ค่าขนส่งสูง การส่งออกมีกำไรต่ำ ประกอบความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศขยายตัวอย่าง ต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการหันมาเน้นการขยายตลาดในประเทศมากขึ้น
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-