อุตสาหกรรมยาเป็นอุตสาหกรรมที่ผลิตปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและสุขภาพของมนุษย์ จึงนับว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ทั้งด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยในการบริโภค
1. การผลิตในประเทศ
ปริมาณการผลิตยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในไตรมาสที่ 2 ของปี 2547 มีประมาณ 5,791.5 ตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12.0 โดยยาทุกประเภทมีการผลิตเพิ่มขึ้น สำหรับปริมาณการผลิตในครึ่งแรกของปี 2547 มีประมาณ 11,248.7 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.5 โดยยาที่มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยาเม็ด ยาผง ยาครีม และยาแดงทิงเจอร์ไอโอดีน ตามลำดับ (ตารางที่ 1 และ 2)
2. การจำหน่ายในประเทศ
ปริมาณการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในไตรมาสที่ 2 ของปี 2547 มีประมาณ 4,930.6 ตัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.0 โดยยาทุกประเภทมีการจำหน่ายเพิ่มขึ้น สำหรับการจำหน่ายในครึ่งแรกของปี 2547 มีประมาณ 10,025.4 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.9 โดยยาทุกประเภทมีการจำหน่ายเพิ่มขึ้นยกเว้นยาน้ำ (ตารางที่ 1 และ 3)
การขยายตัวของปริมาณการผลิตและการจำหน่ายยาและเภสัชภัณฑ์ มีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ส่งผลให้สถานพยาบาลต่าง ๆ ต้องใช้ยาที่ผลิตจากในประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้การผลิตและและการจำหน่ายยาในประเทศขยายตัวมากขึ้น สำหรับประเภทของยาที่มีการผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับยาประเภทอื่น ๆ คือ ยาเม็ด เนื่องจากเป็นรูปแบบยาที่เป็นที่ต้องการของตลาด
3. การนำเข้า
การนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ไตรมาสที่ 2 ของปี 2547 มีมูลค่า 5,512.1 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 1.6 โดยตลาดนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมที่สำคัญ ในไตรมาสที่ 2 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส สหราช อาณาจักร เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งการนำเข้าจากประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวม 2,922.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 53.0 ของมูลค่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมทั้งหมด
ในครึ่งแรกของปี 2547 การนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์มีมูลค่า 10,958.3 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.6 สำหรับตลาดนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมที่สำคัญในครึ่งปีแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส สหราช อาณาจักร เยอรมนี และ สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งการนำเข้าจากประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวม 5,651.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 51.6 ของมูลค่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมทั้งหมด
การขยายตัวของการนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในไตรมาสที่ 2 และในครึ่งแรกของปี 2547 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุสำคัญมาจากการขยายตัวของการนำเข้ายารักษาโรคที่เป็นยาสำเร็จรูป (HS 3004) ราคาแพง มีสิทธิบัตร ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ ยาเหล่านี้มักเป็นยาสำหรับโรคที่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น โรคความดัน เบาหวาน หัวใจ และไขมันในเส้นเลือด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการนำเข้ายาต้นตำรับ เพิ่มมากขึ้นด้วย
4. การส่งออก
การส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ไตรมาสที่ 2 ของปี 2547 มีมูลค่า 1,160 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.2 (ตารางที่ 4) สำหรับตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมที่สำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา พม่า มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา โดยการส่งออกไปประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวม 643.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 55.5 ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมทั้งหมด
สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ ในครึ่งแรกของปี 2547 มีมูลค่า 2,258.5 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 5.7 สำหรับตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมที่สำคัญในครึ่งปีแรกนี้ ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา พม่า มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา โดยการส่งออกไปประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวม 1,274.8 ล้านบาท หรือร้อยละ 56.4 ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมทั้งหมด
การหดตัวของการส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในไตรมาสที่ 2 ของปี 2547 และในครึ่ง แรกของปี 2547 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุสำคัญมาจากมีการส่งออกสินค้าในหมวด แวดดิ้ง ผ้ากอซ ผ้าพันแผล และสำลี ลดลงมาก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะกระแสความต้องการอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับป้องกันเชื้อโรคในตลาดโลกลดลงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีการแพร่กระจายของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS)
5. สรุป
ปริมาณการผลิตและปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศ ในไตรมาสที่ 2 และในครึ่งแรกของปี 2547 ขยายตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะยาเม็ด สำหรับการนำเข้ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่วนใหญ่ยังเป็นการนำเข้ายาสำเร็จรูปราคาแพงที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ และยาต้นตำรับ อย่างไรก็ตามการส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมมีมูลค่าลดลง โดยเฉพาะสินค้าในหมวดแวดดิ้ง ผ้ากอซ ผ้าพันแผล และสำลี ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากตลาดมีความต้องการอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับป้องกันเชื้อโรคลดลงกว่าปีก่อน ที่มีการแพร่กระจายของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS)
สำหรับไตรมาสที่ 3 ของปี 2547 คาดว่าการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์ เภสัชกรรมในประเทศ จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 เนื่องจากความต้องการในประเทศยังคงขยายตัว โดยเฉพาะยาเม็ด สำหรับการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นเช่นกัน เนื่องจากผู้ประกอบการพยายาม หาตลาดใหม่ ๆ มากขึ้น ส่วนการนำเข้าคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยยังเป็นการนำเข้ายารักษาโรคที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ และยาต้นตำรับ
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-
1. การผลิตในประเทศ
ปริมาณการผลิตยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในไตรมาสที่ 2 ของปี 2547 มีประมาณ 5,791.5 ตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12.0 โดยยาทุกประเภทมีการผลิตเพิ่มขึ้น สำหรับปริมาณการผลิตในครึ่งแรกของปี 2547 มีประมาณ 11,248.7 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.5 โดยยาที่มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยาเม็ด ยาผง ยาครีม และยาแดงทิงเจอร์ไอโอดีน ตามลำดับ (ตารางที่ 1 และ 2)
2. การจำหน่ายในประเทศ
ปริมาณการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในไตรมาสที่ 2 ของปี 2547 มีประมาณ 4,930.6 ตัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.0 โดยยาทุกประเภทมีการจำหน่ายเพิ่มขึ้น สำหรับการจำหน่ายในครึ่งแรกของปี 2547 มีประมาณ 10,025.4 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.9 โดยยาทุกประเภทมีการจำหน่ายเพิ่มขึ้นยกเว้นยาน้ำ (ตารางที่ 1 และ 3)
การขยายตัวของปริมาณการผลิตและการจำหน่ายยาและเภสัชภัณฑ์ มีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ส่งผลให้สถานพยาบาลต่าง ๆ ต้องใช้ยาที่ผลิตจากในประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้การผลิตและและการจำหน่ายยาในประเทศขยายตัวมากขึ้น สำหรับประเภทของยาที่มีการผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับยาประเภทอื่น ๆ คือ ยาเม็ด เนื่องจากเป็นรูปแบบยาที่เป็นที่ต้องการของตลาด
3. การนำเข้า
การนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ไตรมาสที่ 2 ของปี 2547 มีมูลค่า 5,512.1 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 1.6 โดยตลาดนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมที่สำคัญ ในไตรมาสที่ 2 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส สหราช อาณาจักร เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งการนำเข้าจากประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวม 2,922.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 53.0 ของมูลค่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมทั้งหมด
ในครึ่งแรกของปี 2547 การนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์มีมูลค่า 10,958.3 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.6 สำหรับตลาดนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมที่สำคัญในครึ่งปีแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส สหราช อาณาจักร เยอรมนี และ สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งการนำเข้าจากประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวม 5,651.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 51.6 ของมูลค่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมทั้งหมด
การขยายตัวของการนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในไตรมาสที่ 2 และในครึ่งแรกของปี 2547 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุสำคัญมาจากการขยายตัวของการนำเข้ายารักษาโรคที่เป็นยาสำเร็จรูป (HS 3004) ราคาแพง มีสิทธิบัตร ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ ยาเหล่านี้มักเป็นยาสำหรับโรคที่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น โรคความดัน เบาหวาน หัวใจ และไขมันในเส้นเลือด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการนำเข้ายาต้นตำรับ เพิ่มมากขึ้นด้วย
4. การส่งออก
การส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ไตรมาสที่ 2 ของปี 2547 มีมูลค่า 1,160 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.2 (ตารางที่ 4) สำหรับตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมที่สำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา พม่า มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา โดยการส่งออกไปประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวม 643.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 55.5 ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมทั้งหมด
สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ ในครึ่งแรกของปี 2547 มีมูลค่า 2,258.5 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 5.7 สำหรับตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมที่สำคัญในครึ่งปีแรกนี้ ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา พม่า มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา โดยการส่งออกไปประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวม 1,274.8 ล้านบาท หรือร้อยละ 56.4 ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมทั้งหมด
การหดตัวของการส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในไตรมาสที่ 2 ของปี 2547 และในครึ่ง แรกของปี 2547 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุสำคัญมาจากมีการส่งออกสินค้าในหมวด แวดดิ้ง ผ้ากอซ ผ้าพันแผล และสำลี ลดลงมาก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะกระแสความต้องการอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับป้องกันเชื้อโรคในตลาดโลกลดลงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีการแพร่กระจายของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS)
5. สรุป
ปริมาณการผลิตและปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศ ในไตรมาสที่ 2 และในครึ่งแรกของปี 2547 ขยายตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะยาเม็ด สำหรับการนำเข้ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่วนใหญ่ยังเป็นการนำเข้ายาสำเร็จรูปราคาแพงที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ และยาต้นตำรับ อย่างไรก็ตามการส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมมีมูลค่าลดลง โดยเฉพาะสินค้าในหมวดแวดดิ้ง ผ้ากอซ ผ้าพันแผล และสำลี ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากตลาดมีความต้องการอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับป้องกันเชื้อโรคลดลงกว่าปีก่อน ที่มีการแพร่กระจายของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS)
สำหรับไตรมาสที่ 3 ของปี 2547 คาดว่าการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์ เภสัชกรรมในประเทศ จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 เนื่องจากความต้องการในประเทศยังคงขยายตัว โดยเฉพาะยาเม็ด สำหรับการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นเช่นกัน เนื่องจากผู้ประกอบการพยายาม หาตลาดใหม่ ๆ มากขึ้น ส่วนการนำเข้าคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยยังเป็นการนำเข้ายารักษาโรคที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ และยาต้นตำรับ
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-