อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการส่งออกสูงติดอันดับหนึ่งในสิบของสินค้าส่งออกของไทย ก่อให้เกิดการจ้างงานและอุตสาหกรรมต่อเนื่องต่างๆ ตั้งแต่การทำเหมือง การออกแบบ การทำและประกอบตัวเรือน การผลิตเครื่องมือเครื่องจักรในการเจียระไนพลอย และการทำวัสดุหีบห่อ เป็นต้น อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับจึงเป็นหลักประเภทหนึ่งที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
การผลิต
ในไตรมาส 2 ของปี 2547 ดัชนีผลผลิตเครื่องเพชรพลอยและรูปพรรณและของที่เกี่ยวข้องกัน ขยายตัวร้อยละ 20.22 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนของปีเดียวกัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.07
ดัชนีส่งสินค้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.41 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.62
ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง ลดลงร้อยละ 21.35 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนลดลงร้อยละ 8.87
การตลาด
การส่งออก
ช่วงไตรมาสนี้ ไทยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับเป็นมูลค่า 644.20 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 11.49 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่า 577.80 ล้านเหรียญสหรัฐ และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนของปีเดียวกันมีการขยายตัวร้อยละ 9.22 ซึ่งมีมูลค่าการส่งออก 589.80 ล้านเหรียญสหรัฐ
ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนมิถุนายน 2547 ไทยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,234.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.82 ซึ่งมีมูลค่า 1,224.0 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นทุกรายการ ยกเว้นทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูปที่ลดลงถึงร้อยละ 71.52 เนื่องจากการส่งออกไปตลาดสวิตเซอร์แลนด์ลดลง สินค้าที่สำคัญ ได้แก่ เพชร เครื่องประดับแท้ทำด้วยเงินและทอง
ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อิสราเอล และเบลเยี่ยม นับตั้งแต่ต้นปี ไทยส่งออกไปยังประเทศเหล่านี้คิดเป็นมูลค่า 646.9 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 52.42 ของการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับทั้งหมด
การนำเข้า
ช่วงไตรมาส 2 ไทยนำเข้าเครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เป็นมูลค่า 744.60 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 61.13 ซึ่งอยู่ที่ 462.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากมีการนำเข้าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทองคำที่เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 126 และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.10 ซึ่งมีมูลค่า 492.80 ล้านเหรียญสหรัฐ
นับจากต้นปีจนถึงเดือนมิถุนายน 2547 มีการนำเข้าอัญมณีและเครื่องประดับเป็นมูลค่า 1,521.70 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 59.36 ซึ่งอยู่ที่ 954.90 ล้านเหรียญสหรัฐ
ตลาดนำเข้าหลักของไทย ได้แก่ ออสเตรเลีย อิสราเอล ฮ่องกง อินเดีย และสวิตเซอร์แลนด์
สรุปและแนวโน้ม
ภาพรวมของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในไตรมาส 2 ปี 2547 ยังคงอยู่ในระดับที่ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนทั้งด้านการผลิตและการตลาด มีการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นทุกรายการ ยกเว้นการส่งออกทองคำยังไม่ขึ้นรูปที่ลดลงเกือบครึ่งสำหรับไตรมาส 3 คาดว่า จะยังคงมีการขยายตัวได้ดี เนื่องจากฝีมือในการเจียระไนของไทยเป็นที่ยอมรับ มีศักยภาพในการแข่งขันสูง ตลอดจนนโยบายของรัฐบาลในการเจรจาเปิดการค้าเสรี (FTA) ทั้งสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-
การผลิต
ในไตรมาส 2 ของปี 2547 ดัชนีผลผลิตเครื่องเพชรพลอยและรูปพรรณและของที่เกี่ยวข้องกัน ขยายตัวร้อยละ 20.22 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนของปีเดียวกัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.07
ดัชนีส่งสินค้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.41 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.62
ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง ลดลงร้อยละ 21.35 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนลดลงร้อยละ 8.87
การตลาด
การส่งออก
ช่วงไตรมาสนี้ ไทยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับเป็นมูลค่า 644.20 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 11.49 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่า 577.80 ล้านเหรียญสหรัฐ และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนของปีเดียวกันมีการขยายตัวร้อยละ 9.22 ซึ่งมีมูลค่าการส่งออก 589.80 ล้านเหรียญสหรัฐ
ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนมิถุนายน 2547 ไทยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,234.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.82 ซึ่งมีมูลค่า 1,224.0 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นทุกรายการ ยกเว้นทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูปที่ลดลงถึงร้อยละ 71.52 เนื่องจากการส่งออกไปตลาดสวิตเซอร์แลนด์ลดลง สินค้าที่สำคัญ ได้แก่ เพชร เครื่องประดับแท้ทำด้วยเงินและทอง
ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อิสราเอล และเบลเยี่ยม นับตั้งแต่ต้นปี ไทยส่งออกไปยังประเทศเหล่านี้คิดเป็นมูลค่า 646.9 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 52.42 ของการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับทั้งหมด
การนำเข้า
ช่วงไตรมาส 2 ไทยนำเข้าเครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เป็นมูลค่า 744.60 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 61.13 ซึ่งอยู่ที่ 462.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากมีการนำเข้าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทองคำที่เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 126 และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.10 ซึ่งมีมูลค่า 492.80 ล้านเหรียญสหรัฐ
นับจากต้นปีจนถึงเดือนมิถุนายน 2547 มีการนำเข้าอัญมณีและเครื่องประดับเป็นมูลค่า 1,521.70 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 59.36 ซึ่งอยู่ที่ 954.90 ล้านเหรียญสหรัฐ
ตลาดนำเข้าหลักของไทย ได้แก่ ออสเตรเลีย อิสราเอล ฮ่องกง อินเดีย และสวิตเซอร์แลนด์
สรุปและแนวโน้ม
ภาพรวมของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในไตรมาส 2 ปี 2547 ยังคงอยู่ในระดับที่ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนทั้งด้านการผลิตและการตลาด มีการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นทุกรายการ ยกเว้นการส่งออกทองคำยังไม่ขึ้นรูปที่ลดลงเกือบครึ่งสำหรับไตรมาส 3 คาดว่า จะยังคงมีการขยายตัวได้ดี เนื่องจากฝีมือในการเจียระไนของไทยเป็นที่ยอมรับ มีศักยภาพในการแข่งขันสูง ตลอดจนนโยบายของรัฐบาลในการเจรจาเปิดการค้าเสรี (FTA) ทั้งสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-