นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงชัยชนะของพรรคฯในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ว่า ชัยชนะมาจากหลายส่วนหลายด้าน ทั้งส่วนที่เป็นพันธุ์แท้พรรคประชาธิปัตย์ และส่วนที่ต้องการเห็นพรรคฯเติบโต รวมทั้งในส่วนที่เชื่อมั่นในตัวคุณอภิรักษ์ก็มีมากเช่นกัน วันนี้จะสังเกตได้ชัดเจนว่า หลายคนฝากความหวังไว้กับผู้ว่าคนใหม่ โดยดูจากการมาขอจับไม้ จับมือ บางคนฝากเป็นจดหมายก็มี ส่วนนี้จะเป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯกับทีมงานของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเข้าไปทำงานหนักอย่างเต็มที่
ต่อข้อซักถามถึงผลการเลือกตั้ง 9 แสนกว่าคะแนนสะท้อนอะไรได้บ้าง นายบัญญัติ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งที่เห็นอย่างชัดเจนต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงของการเมืองระดับชาติ รวมทั้งการเมืองระดับท้องถิ่นคือกทม.ที่ต้องการให้มีความสะดวก สบายขึ้น และปลอดภัยขึ้น ซึ่งผลการเลือกตั้งคราวนี้คงสรุปได้ทั้งระดับการเมืองชาติและท้องถิ่นเพราะมีคนมาใช้สิทธิ์มาก ทั้งที่ครั้งก่อน 58% แต่ครั้งนี้มาใช้สิทธิ์ถึง 62%
‘การบริหารกทม.จะดำเนินไปอย่างรวดเร็วถ้าทุกคนมีความสุจริตใจมุ่งเน้นประโยชน์ชาวกทม.อย่างเต็มที่ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมอยู่แล้ว และจากท่าทีของนายกฯ จะอย่างไรก็สุดแล้วแต่ ก็เป็นสิ่งที่เราปราถนาจะเห็นอยู่แล้ว ทั้งนี้เชื่อว่าหากนายอภิรักษ์เข้าไป จะสามารถทำงานได้ทันทีตามที่ได้ประกาศไว้ตามเวลาที่ได้หาเสียง ซึ่งช่วงที่ประกาศตัวก่อนคนอื่นมีการวางแผนงานไว้แล้ว ยิ่งถ้าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลแล้วน่าจะสะดวกขึ้น’ นายบัญญัติ กล่าว
ต่อข้อซักถามถึงการได้รับคะแนนมากเช่นนี้จะเป็นแรงกดดันต่อการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ หน.พรรคปชป. กล่าวว่า คนทำงานไม่ว่าจะมีสนับสนุนมากน้อยแค่ไหนก็ย่อมมีแรงกดดัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ได้มีการประกาศล่วงหน้าทั้งนโยบาย ปฏิญา และคำสัญญาไว้แล้ว ตนคิดว่าด้วยความตั้งใจจริงของผู้ว่าฯคนใหม่และทีมงาน รวมทั้งหากได้รับความร่วมมือจากข้าราชการกทม.ถือเป็นเรื่องสำคัญ และสิ่งที่เราคาดหวังไว้มากคือการมีส่วนร่วมของประชาชนซึ่งนายอภิรักษ์ พูดมาโดยตลอด หากทุกอย่างครบถ้วยตามนี้ทุกอย่างจะดีขึ้น
‘การเลือกตั้งใหญ่ได้มีการกำหนดเป้าหมายไว้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ซึ่งมีความชัดเจนอยู่แล้วและไม่คิดที่จะนำมาปนกัน เพียงแต่เห็นว่าคนกทม.เลือกพวกเราด้วยความเชื่อมั่น ความห่วงใยที่มีต่อพรรค จึงทำให้ทุกคนอุ่นใจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าทุกคนต้องทำงานหนัก ซึ่งผู้ว่ากทม.ต้องทำงานหนักอยู่แล้วและพรรคก็ต้องทำงานหนักขึ้น ’ นายบัญญัติกล่าว
ต่อข้อซักถามว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้มาจากกระแสชาวกทม.ต้องการต้านนายกฯ หน.พรรคปชป. กล่าวว่า ตรงนี้ปฏิเสธไม่ได้ และเชื่อมั่นว่าคะแนนที่ได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นคะแนนเสียงที่สะท้อนที่ไม่ค่อยพอใจรัฐบาลส่วนหนึ่ง และวันนี้เห็นปฏิกิริยาตอบรับจากสื่อและองค์กรต่างๆตรงนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่จริง เข้าใจว่าชาวกทม.หรือคนไทยทั้งประเทศกลัวที่สุดกก็คืออำนาจรวมศูนย์ อำนาจไม่กระจาย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-
ต่อข้อซักถามถึงผลการเลือกตั้ง 9 แสนกว่าคะแนนสะท้อนอะไรได้บ้าง นายบัญญัติ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งที่เห็นอย่างชัดเจนต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงของการเมืองระดับชาติ รวมทั้งการเมืองระดับท้องถิ่นคือกทม.ที่ต้องการให้มีความสะดวก สบายขึ้น และปลอดภัยขึ้น ซึ่งผลการเลือกตั้งคราวนี้คงสรุปได้ทั้งระดับการเมืองชาติและท้องถิ่นเพราะมีคนมาใช้สิทธิ์มาก ทั้งที่ครั้งก่อน 58% แต่ครั้งนี้มาใช้สิทธิ์ถึง 62%
‘การบริหารกทม.จะดำเนินไปอย่างรวดเร็วถ้าทุกคนมีความสุจริตใจมุ่งเน้นประโยชน์ชาวกทม.อย่างเต็มที่ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมอยู่แล้ว และจากท่าทีของนายกฯ จะอย่างไรก็สุดแล้วแต่ ก็เป็นสิ่งที่เราปราถนาจะเห็นอยู่แล้ว ทั้งนี้เชื่อว่าหากนายอภิรักษ์เข้าไป จะสามารถทำงานได้ทันทีตามที่ได้ประกาศไว้ตามเวลาที่ได้หาเสียง ซึ่งช่วงที่ประกาศตัวก่อนคนอื่นมีการวางแผนงานไว้แล้ว ยิ่งถ้าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลแล้วน่าจะสะดวกขึ้น’ นายบัญญัติ กล่าว
ต่อข้อซักถามถึงการได้รับคะแนนมากเช่นนี้จะเป็นแรงกดดันต่อการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ หน.พรรคปชป. กล่าวว่า คนทำงานไม่ว่าจะมีสนับสนุนมากน้อยแค่ไหนก็ย่อมมีแรงกดดัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ได้มีการประกาศล่วงหน้าทั้งนโยบาย ปฏิญา และคำสัญญาไว้แล้ว ตนคิดว่าด้วยความตั้งใจจริงของผู้ว่าฯคนใหม่และทีมงาน รวมทั้งหากได้รับความร่วมมือจากข้าราชการกทม.ถือเป็นเรื่องสำคัญ และสิ่งที่เราคาดหวังไว้มากคือการมีส่วนร่วมของประชาชนซึ่งนายอภิรักษ์ พูดมาโดยตลอด หากทุกอย่างครบถ้วยตามนี้ทุกอย่างจะดีขึ้น
‘การเลือกตั้งใหญ่ได้มีการกำหนดเป้าหมายไว้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ซึ่งมีความชัดเจนอยู่แล้วและไม่คิดที่จะนำมาปนกัน เพียงแต่เห็นว่าคนกทม.เลือกพวกเราด้วยความเชื่อมั่น ความห่วงใยที่มีต่อพรรค จึงทำให้ทุกคนอุ่นใจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าทุกคนต้องทำงานหนัก ซึ่งผู้ว่ากทม.ต้องทำงานหนักอยู่แล้วและพรรคก็ต้องทำงานหนักขึ้น ’ นายบัญญัติกล่าว
ต่อข้อซักถามว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้มาจากกระแสชาวกทม.ต้องการต้านนายกฯ หน.พรรคปชป. กล่าวว่า ตรงนี้ปฏิเสธไม่ได้ และเชื่อมั่นว่าคะแนนที่ได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นคะแนนเสียงที่สะท้อนที่ไม่ค่อยพอใจรัฐบาลส่วนหนึ่ง และวันนี้เห็นปฏิกิริยาตอบรับจากสื่อและองค์กรต่างๆตรงนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่จริง เข้าใจว่าชาวกทม.หรือคนไทยทั้งประเทศกลัวที่สุดกก็คืออำนาจรวมศูนย์ อำนาจไม่กระจาย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-