วันนี้ (31 ส.ค. 47) ที่อาคารรัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงภายหลังการประชุมวิปฝ่ายค้านว่า ในส่วนที่ 1 วิปรู้สึกเป็นห่วงเรื่องของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสัปดาห์ที่แล้วจะเห็นชัดเจนได้ว่า กว่าจะประชุมๆได้ต้องเสียเวลารอองค์ประชุมในระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควร เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถที่จะระดมส.ส.ให้มาร่วมประชุมให้ครบองค์ประชุมได้ทำให้ ซึ่งสมัยประชุมเป็นสมัยประชุมสุดท้าย ที่เหลือระยะเวลาประชุมอีกราวๆ 3 เดือนก็จะปิดสมัย เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องที่เราปรารภกันด้วยความเป็นห่วง
นายจุรินทร์ ยังได้กล่าวถึงความรับผิดชอบของรัฐบาลในการทำงานด้านนิติบัญญัติ ว่า ในเรื่องของการที่ท่านนายกฯ และ รัฐมนตรีมีหน้าที่จะต้องตอบกระทู้ถามของสมาชิก ซึ่งปรากฎว่าปัญหานี้เป็นปัญหาที่ยืดเยื้อยาวนาน และช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาได้เรียกร้องมาตลอด ทั้งนี้ท่านนายกฯควรจะให้ความสำคัญกับการประชุมสภามากกว่านี้ และให้ความสำคัญต่อการมาตอบกระทู้ถามของสมาชิกมากกว่านี้ เพราะการตรวจสอบที่ผ่านมาพบว่า 200 กว่ากระทู้ที่ถามท่านายากฯ ท่านมาตอบ 4 กระทู้ และเมื่อท่านติดภารกิจ ท่านต้องมอบหมายให้รัฐมนตรีมาตอบ และรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายจะต้องรับผิดชอบต่อภารกิจที่นายกฯได้มอบหมาย ตัวอย่างของเรื่องนี้จะให้เห็นอย่างชัดเจน คือ สัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯก็ไม่ได้มาตอบกระทู้ถามสดของฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศ
ประธานวิปฝ่ายค้าน ยังได้ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนอีกอันหนึ่ง คือ กฎหมายพรบ. คุ้มครองการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่า และพืชกลางป่าที่ใกล้สูญพันธ์ครั้งที่ 13 ในประเทศไทย ซึ่งคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ กฎหมายนี้มีความจำเป็นที่จะต้องออกเพื่อที่จะให้ความคุ้มครอง หรือเอกสิทธิ์ในการอภิปรายในการประชุมกับสมาชิกภาคี จากหลายประเทศที่มาประชุมในประเทศไทย ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 2 — 14 ต.ค.นี้ ปรากฎว่ากฎหมายดังกล่าวเพิ่งถูกเสนอเข้าสู่การพิจารณาวาระของสภา ซึ่งเหลือเวลาเพียง 1 เดือน ทั้งนี้รัฐบาลจะต้องพยายามากดดันรัฐสภา เพื่อที่จะผ่านกฎหมายได้ก่อนวันที่ 2 ต.ค. ทั้งที่รัฐบาลทราบมาก่อนหน้านี้แล้วถึง 2 ปี ‘ ตนเกรงว่าเคยมีกฎหมายบางฉบับที่เกิดขึ้น และก็เป็นปัญหาในช่วงของระยะเวลาของรัฐบาลชุดนี้ 2-3 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายปฏิรูปการศึกษา จึงไม่อยากให้เกิดกฎหมายซ้ำซ้อนขึ้นมา เพราะรัฐบาลเพิ่งส่งกฎหมายเข้ามา และเหลือเวลา อีก 1 เดือนจะมีการประชุม ‘ นายจุรินทร์ กล่าว
ในส่วนที่ 2 คือการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี 2548 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 ในวันที่ 1 ต.ค. นี้ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ฝ่ายค้านได้แปลญัตติไว้ในมาตราต่างๆ โดยมีสมาชิกที่เข้าชื่อไว้จำนวน 58 ท่าน ในเรื่องของการอภิปรายนั้นก็จะเน้นไปใน 4 ประเด็น คือ
1.การใช้งบประมาณในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เช่น กองทุนหมู่บ้าน พักหนี้เกษตรกร
2. งการทุจริต ซึ่งที่ผ่านประเด็นเหล่านี้ปรากฏมาเป็นลำดับไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดซื้อคอมฯ 900 กว่าล้านของกระทรวงสาธารณสุข หรือ การนำเงินไปให้พม่ากู้เพื่อที่จะให้พม่านำเงินก้อนนั้นกลับมาจ้างบริษัทดาวเทียม ในประเทศไทยไปดำเนินการในโครงการ ลอกแบง ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารโทรคมนาคม ในเรื่องดังกล่าวท่านนายกฯ ได้ออกมาปฏิสเสธว่า ท่านไม่ทราบเรื่อง ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของพม่า จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าการให้ความเห็นชอบ มีการนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยมติรับประกันถึงเงินต้น และ ดอกเบี้ย ให้กับเงิน 4,000 พันล้านที่ เอ็กซิมแบงค์ได้ปล่อยกู้ไป
3. การใช้จ่ายงบกลาง มีการไปอ้างว่าจะนำงบไปใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน แต่มีการนำเงินงบประมาณจำนวนมากไปใช้ในลักษณะไปแจกเพื่อการหาเสียง
4. กรณีที่นำงบประมาณไปใช้จ่ายในการทัวร์นกขมิ้น จะต้องมีการตรวจสอบเป็นพิเศษ เพราะรายละเอียดพบความจริงว่า เป็นการโชว์ภาพ แจกง่าย จ่ายคล่อง ว่องไว ตามอำเภอใจของนายกฯเพียงผู้เดียว ซึ่งดูว่าการทัวร์ครั้งนี้เป็นการโปรยงบประมาณเพื่อหาสียง ทำลายระบบงบประมาณที่ถูกต้องโดยสิ้นเชิง รวมทั้งยังเป็นการสร้างงบประมาณผูกพันในอนาคตอีกจำนวนมากมายมหาศาลที่จะตามมา ‘ การไปทัวร์นกขมิ้น 39 จังหวัดในภาคกลางกับภาคอีสาน พบว่ามีการรับปากที่จะแจกงบไปแล้ว ถึง 19,145 ล้านบาท เกือบ 20,000 ล้านบาท ปรากฎว่างบที่จะไปแจกมีเม็ดเงิน ในส่วนของ ปี 2547 กับ ปี 2548 รวมกันประมาณ 8,200 ล้านบาท อีก 10,000 กว่าล้าน ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะไปนำเงินมาจากไหน และที่สุดอาจจะกลายเป็นงบผูกพันของปีต่อๆไป ซึ่งเป็นภาระที่เพิ่มเติมขึ้นมานอกจากภาระที่รัฐบาลสร้างขึ้น เพียงเพื่อต้องการผลในการที่จะไปหาเสียง และก็แสดงภาพของความเป็นนักแจกง่ายจ่ายคล่อง ว่องไว และผลจากการดำเนินการดังกล่าวจะมาตกอยู่ที่ประชาชน โดยจะรีดภาษีเพิ่มมากขึ้น และการทัวร์ครั้งนี้ เป็นระบบงบประมาณแบบเทวดามาโปรด ถ้าเมวดาไม่มาก็ไม่มีโอกาสที่จะได้งบประมาณดังกล่าว และ 4 ปี เทวดาก็จะมาโปรด 1 ครั้ง ก่อนการเลือกตั้ง ‘ นายจุรินทร์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-
นายจุรินทร์ ยังได้กล่าวถึงความรับผิดชอบของรัฐบาลในการทำงานด้านนิติบัญญัติ ว่า ในเรื่องของการที่ท่านนายกฯ และ รัฐมนตรีมีหน้าที่จะต้องตอบกระทู้ถามของสมาชิก ซึ่งปรากฎว่าปัญหานี้เป็นปัญหาที่ยืดเยื้อยาวนาน และช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาได้เรียกร้องมาตลอด ทั้งนี้ท่านนายกฯควรจะให้ความสำคัญกับการประชุมสภามากกว่านี้ และให้ความสำคัญต่อการมาตอบกระทู้ถามของสมาชิกมากกว่านี้ เพราะการตรวจสอบที่ผ่านมาพบว่า 200 กว่ากระทู้ที่ถามท่านายากฯ ท่านมาตอบ 4 กระทู้ และเมื่อท่านติดภารกิจ ท่านต้องมอบหมายให้รัฐมนตรีมาตอบ และรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายจะต้องรับผิดชอบต่อภารกิจที่นายกฯได้มอบหมาย ตัวอย่างของเรื่องนี้จะให้เห็นอย่างชัดเจน คือ สัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯก็ไม่ได้มาตอบกระทู้ถามสดของฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศ
ประธานวิปฝ่ายค้าน ยังได้ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนอีกอันหนึ่ง คือ กฎหมายพรบ. คุ้มครองการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่า และพืชกลางป่าที่ใกล้สูญพันธ์ครั้งที่ 13 ในประเทศไทย ซึ่งคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ กฎหมายนี้มีความจำเป็นที่จะต้องออกเพื่อที่จะให้ความคุ้มครอง หรือเอกสิทธิ์ในการอภิปรายในการประชุมกับสมาชิกภาคี จากหลายประเทศที่มาประชุมในประเทศไทย ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 2 — 14 ต.ค.นี้ ปรากฎว่ากฎหมายดังกล่าวเพิ่งถูกเสนอเข้าสู่การพิจารณาวาระของสภา ซึ่งเหลือเวลาเพียง 1 เดือน ทั้งนี้รัฐบาลจะต้องพยายามากดดันรัฐสภา เพื่อที่จะผ่านกฎหมายได้ก่อนวันที่ 2 ต.ค. ทั้งที่รัฐบาลทราบมาก่อนหน้านี้แล้วถึง 2 ปี ‘ ตนเกรงว่าเคยมีกฎหมายบางฉบับที่เกิดขึ้น และก็เป็นปัญหาในช่วงของระยะเวลาของรัฐบาลชุดนี้ 2-3 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายปฏิรูปการศึกษา จึงไม่อยากให้เกิดกฎหมายซ้ำซ้อนขึ้นมา เพราะรัฐบาลเพิ่งส่งกฎหมายเข้ามา และเหลือเวลา อีก 1 เดือนจะมีการประชุม ‘ นายจุรินทร์ กล่าว
ในส่วนที่ 2 คือการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี 2548 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 ในวันที่ 1 ต.ค. นี้ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ฝ่ายค้านได้แปลญัตติไว้ในมาตราต่างๆ โดยมีสมาชิกที่เข้าชื่อไว้จำนวน 58 ท่าน ในเรื่องของการอภิปรายนั้นก็จะเน้นไปใน 4 ประเด็น คือ
1.การใช้งบประมาณในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เช่น กองทุนหมู่บ้าน พักหนี้เกษตรกร
2. งการทุจริต ซึ่งที่ผ่านประเด็นเหล่านี้ปรากฏมาเป็นลำดับไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดซื้อคอมฯ 900 กว่าล้านของกระทรวงสาธารณสุข หรือ การนำเงินไปให้พม่ากู้เพื่อที่จะให้พม่านำเงินก้อนนั้นกลับมาจ้างบริษัทดาวเทียม ในประเทศไทยไปดำเนินการในโครงการ ลอกแบง ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารโทรคมนาคม ในเรื่องดังกล่าวท่านนายกฯ ได้ออกมาปฏิสเสธว่า ท่านไม่ทราบเรื่อง ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของพม่า จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าการให้ความเห็นชอบ มีการนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยมติรับประกันถึงเงินต้น และ ดอกเบี้ย ให้กับเงิน 4,000 พันล้านที่ เอ็กซิมแบงค์ได้ปล่อยกู้ไป
3. การใช้จ่ายงบกลาง มีการไปอ้างว่าจะนำงบไปใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน แต่มีการนำเงินงบประมาณจำนวนมากไปใช้ในลักษณะไปแจกเพื่อการหาเสียง
4. กรณีที่นำงบประมาณไปใช้จ่ายในการทัวร์นกขมิ้น จะต้องมีการตรวจสอบเป็นพิเศษ เพราะรายละเอียดพบความจริงว่า เป็นการโชว์ภาพ แจกง่าย จ่ายคล่อง ว่องไว ตามอำเภอใจของนายกฯเพียงผู้เดียว ซึ่งดูว่าการทัวร์ครั้งนี้เป็นการโปรยงบประมาณเพื่อหาสียง ทำลายระบบงบประมาณที่ถูกต้องโดยสิ้นเชิง รวมทั้งยังเป็นการสร้างงบประมาณผูกพันในอนาคตอีกจำนวนมากมายมหาศาลที่จะตามมา ‘ การไปทัวร์นกขมิ้น 39 จังหวัดในภาคกลางกับภาคอีสาน พบว่ามีการรับปากที่จะแจกงบไปแล้ว ถึง 19,145 ล้านบาท เกือบ 20,000 ล้านบาท ปรากฎว่างบที่จะไปแจกมีเม็ดเงิน ในส่วนของ ปี 2547 กับ ปี 2548 รวมกันประมาณ 8,200 ล้านบาท อีก 10,000 กว่าล้าน ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะไปนำเงินมาจากไหน และที่สุดอาจจะกลายเป็นงบผูกพันของปีต่อๆไป ซึ่งเป็นภาระที่เพิ่มเติมขึ้นมานอกจากภาระที่รัฐบาลสร้างขึ้น เพียงเพื่อต้องการผลในการที่จะไปหาเสียง และก็แสดงภาพของความเป็นนักแจกง่ายจ่ายคล่อง ว่องไว และผลจากการดำเนินการดังกล่าวจะมาตกอยู่ที่ประชาชน โดยจะรีดภาษีเพิ่มมากขึ้น และการทัวร์ครั้งนี้ เป็นระบบงบประมาณแบบเทวดามาโปรด ถ้าเมวดาไม่มาก็ไม่มีโอกาสที่จะได้งบประมาณดังกล่าว และ 4 ปี เทวดาก็จะมาโปรด 1 ครั้ง ก่อนการเลือกตั้ง ‘ นายจุรินทร์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค. 2547--จบ--
-ดท-