นายวิจักร วิเศษน้อย รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายไทยได้
เปิดเผยผลการประชุมกลุ่มเทคนิคปฏิบัติการด้านการค้าและการพัฒนา ณ จุดแรกเริ่มภายใต้แผนงานการพัฒนา
เขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 9 — 10
สิงหาคม 2547 ณ จังหวัดภูเก็ต ว่า ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง จะส่งผลดีต่อด้านการค้าและการลง
ทุนในภูมิภาคนี้โดยรวม และจะนำผลการประชุมเสนอต่อที่ประชุม IMT-GT ระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่
อาวุโส (MM/SOM) ครั้งที่ 11 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 22 — 26 สิงหาคม ศกนี้ ที่
จังหวัดปัตตานี
การประชุมได้จำแนกกลุ่มเพื่อพิจารณาหารือร่วมกันในแต่ละด้าน ได้แก่ ด้านการพัฒนาเมืองชายแดน
และด้านตลาดกลางสินค้าขายส่งชายแดน ด้านการค้าระบบหักบัญชี และด้านอื่น ๆ ซึ่งรวมทั้งประเด็นที่สืบ
เนื่องจากการประชุมครั้งก่อนที่ประเทศมาเลเซียและประเด็นใหม่ที่ได้หยิบยกขึ้นมาพิจารณาร่วมกันในการ
ประชุมครั้งนี้
ด้านการพัฒนาเมืองชายแดน ประเทศมาเลเซียได้เสนอโครงการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมชายแดน
หลัก ได้แก่ KOTA PERDANA และ KOTA PUTRA เป็นต้น ซึ่งประเทศไทยได้เสนอการใช้ระบบ
Logistic เชื่อมโยงการพัฒนาเมืองชายแดนโดยสานความร่วมมือทั้งสามประเทศ โดยที่ประชุมเห็นชอบให้
รวมกลุ่มเทคนิคปฏิบัติการย่อย ด้านการพัฒนาเมืองชายแดนและด้านตลาดกลางขายส่งสินค้าชายแดน เป็นกลุ่ม
เทคนิคปฏิบัติย่อยด้านการพัฒนาเมืองชายแดนและระบบ Logistic
ด้านการค้าระบบหักบัญชี (Account Trade) ที่ประชุมเห็นชอบให้ตั้งคณะทำงาน
(Implementing Team) ที่ประกอบด้วยผู้แทนจาก 3 ประเทศ ร่วมกันศึกษาวิธีการในการพัฒนาการค้าระบบ
หักบัญชี โดยจะจัดประชุมทุก 6 เดือน เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคและพัฒนาระบบการค้าแบบหักบัญชีในพื้นที่
IMT-GT ให้มากขึ้น
สำหรับในด้านอื่น ๆ ที่ประชุมได้พิจารณาในหลายเรื่อง อาทิ การอำนวยความสะดวกด้านการค้า
ระหว่างกัน ส่วนประเด็นใหม่ มาเลเซียเสนอเรื่องศูนย์กลางสินค้าฮาลาล (Halal Food hubs) เพื่อ
พัฒนาด้านอาหารฮาลาลร่วมกันในขณะที่ฝ่ายไทยจะจัดตั้งที่จังหวัดปัตตานี โดยทุกประเทศจะมีการร่วมมือกัน
อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ มาเลเซียเสนอการนำระบบการค้าแบบแลกเปลี่ยนสินค้า (Barter Trade) ใน
พื้นที่ IMT-GT ส่วนประเทศไทยเสนอความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนการเยือนผู้แทนการค้า (Trade
Mission) ระหว่างกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือกันให้มากยิ่งขึ้น
ในปี 2546 ที่ผ่านมาการค้าระหว่างไทยกับมาเลเซีย มีมูลค่า 8,700 ล้านเหรียญสหรัฐ
ระหว่างไทยกับอินโดนีเซียมีมูลค่า 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ และมาเลเซียกับอินโดนีเซีย มีมูลค่า 4,800
ล้านเหรียญสหรัฐ หากการดำเนินการจากผลการประชุมในครั้งนี้บรรลุตามวัตถุประสงค์คาดว่าในอีก 5 ปีข้าง
หน้า (2551) มูลค่าการค้าระหว่างกันทั้งสามประเทศ จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 20 สำหรับการประชุม
กลุ่มเทคนิคปฏิบัติการครั้งต่อไป (ครั้งที่ 3) ที่ประชุมเห็นชอบให้ประเทศอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ
--กรมการค้าต่างประเทศ สิงหาคม 2547--
-สส-
เปิดเผยผลการประชุมกลุ่มเทคนิคปฏิบัติการด้านการค้าและการพัฒนา ณ จุดแรกเริ่มภายใต้แผนงานการพัฒนา
เขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 9 — 10
สิงหาคม 2547 ณ จังหวัดภูเก็ต ว่า ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง จะส่งผลดีต่อด้านการค้าและการลง
ทุนในภูมิภาคนี้โดยรวม และจะนำผลการประชุมเสนอต่อที่ประชุม IMT-GT ระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่
อาวุโส (MM/SOM) ครั้งที่ 11 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 22 — 26 สิงหาคม ศกนี้ ที่
จังหวัดปัตตานี
การประชุมได้จำแนกกลุ่มเพื่อพิจารณาหารือร่วมกันในแต่ละด้าน ได้แก่ ด้านการพัฒนาเมืองชายแดน
และด้านตลาดกลางสินค้าขายส่งชายแดน ด้านการค้าระบบหักบัญชี และด้านอื่น ๆ ซึ่งรวมทั้งประเด็นที่สืบ
เนื่องจากการประชุมครั้งก่อนที่ประเทศมาเลเซียและประเด็นใหม่ที่ได้หยิบยกขึ้นมาพิจารณาร่วมกันในการ
ประชุมครั้งนี้
ด้านการพัฒนาเมืองชายแดน ประเทศมาเลเซียได้เสนอโครงการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมชายแดน
หลัก ได้แก่ KOTA PERDANA และ KOTA PUTRA เป็นต้น ซึ่งประเทศไทยได้เสนอการใช้ระบบ
Logistic เชื่อมโยงการพัฒนาเมืองชายแดนโดยสานความร่วมมือทั้งสามประเทศ โดยที่ประชุมเห็นชอบให้
รวมกลุ่มเทคนิคปฏิบัติการย่อย ด้านการพัฒนาเมืองชายแดนและด้านตลาดกลางขายส่งสินค้าชายแดน เป็นกลุ่ม
เทคนิคปฏิบัติย่อยด้านการพัฒนาเมืองชายแดนและระบบ Logistic
ด้านการค้าระบบหักบัญชี (Account Trade) ที่ประชุมเห็นชอบให้ตั้งคณะทำงาน
(Implementing Team) ที่ประกอบด้วยผู้แทนจาก 3 ประเทศ ร่วมกันศึกษาวิธีการในการพัฒนาการค้าระบบ
หักบัญชี โดยจะจัดประชุมทุก 6 เดือน เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคและพัฒนาระบบการค้าแบบหักบัญชีในพื้นที่
IMT-GT ให้มากขึ้น
สำหรับในด้านอื่น ๆ ที่ประชุมได้พิจารณาในหลายเรื่อง อาทิ การอำนวยความสะดวกด้านการค้า
ระหว่างกัน ส่วนประเด็นใหม่ มาเลเซียเสนอเรื่องศูนย์กลางสินค้าฮาลาล (Halal Food hubs) เพื่อ
พัฒนาด้านอาหารฮาลาลร่วมกันในขณะที่ฝ่ายไทยจะจัดตั้งที่จังหวัดปัตตานี โดยทุกประเทศจะมีการร่วมมือกัน
อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ มาเลเซียเสนอการนำระบบการค้าแบบแลกเปลี่ยนสินค้า (Barter Trade) ใน
พื้นที่ IMT-GT ส่วนประเทศไทยเสนอความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนการเยือนผู้แทนการค้า (Trade
Mission) ระหว่างกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือกันให้มากยิ่งขึ้น
ในปี 2546 ที่ผ่านมาการค้าระหว่างไทยกับมาเลเซีย มีมูลค่า 8,700 ล้านเหรียญสหรัฐ
ระหว่างไทยกับอินโดนีเซียมีมูลค่า 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ และมาเลเซียกับอินโดนีเซีย มีมูลค่า 4,800
ล้านเหรียญสหรัฐ หากการดำเนินการจากผลการประชุมในครั้งนี้บรรลุตามวัตถุประสงค์คาดว่าในอีก 5 ปีข้าง
หน้า (2551) มูลค่าการค้าระหว่างกันทั้งสามประเทศ จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 20 สำหรับการประชุม
กลุ่มเทคนิคปฏิบัติการครั้งต่อไป (ครั้งที่ 3) ที่ประชุมเห็นชอบให้ประเทศอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ
--กรมการค้าต่างประเทศ สิงหาคม 2547--
-สส-