คำกล่าว ของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในงาน "ร้อยดวงใจ เพื่อธนาคารใหม่ของเรา" ณ ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี 28 สิงหาคม 2547
ท่านประธานกรรมการสมหมาย ภาษี ท่านคณะกรรมการ ท่านผู้จัดการใหญ่ ท่านผู้บริหาร และพี่น้องที่อยู่ในห้องนี้ทั้งหมดก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณที่ให้เกียรติเชิญผมให้มามีส่วนร่วมในวันแห่งความหมายเช่นนี้ เป็นวันรวมพลังอันเป็นประวัติศาสตร์ของสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงถึงสามแห่ง คือธนาคารทหารไทย ดีบีเอส ไทยทนุ และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และต้องขอแสดงความชื่นชม ขอบพระคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านประธานสมหมาย ภาษี และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนที่ได้ช่วยดำเนินการให้การรวมพลังรวมตัวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิผล จนกระทั่งจะมีผลทางกฎหมายในวันที่ 1 กันยายนที่จะถึงนี้
วันนี้ประเทศไทยเราได้ก้าวผ่านพ้นจากวิกฤติการณ์เศรษฐกิจอย่างแน่นอน และได้แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของเรามีความแข็งแกร่งเพียงพอ มีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะผ่านพ้นอุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้นที่มาเผชิญกับเรา ตั้งแต่ต้นปีมานี้ เราเผชิญมรสุมลูกแล้ว ลูกเล่า แต่ ณ วันนี้เราก็ยังสามารถมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ยังมีเสถียรภาพที่มั่นคงจนเป็นที่ประจักษ์ชัด และล่าสุดสถาบันจัดอันดับระดับโลก คือ S & P ก็ได้ยืนยันในสิ่งที่ผมกล่าวไป
ผมได้กล่าวมาหลายครั้งแล้วว่าประเทศไทยไม่ได้แพ้ประเทศอื่นเลย เศรษฐกิจของเราเข้มแข็ง เราพร้อมจะเผชิญหน้าได้ทุกอย่าง จากวันนั้นถึงวันนี้เราได้รับการยืนยันจาก S & P แล้วว่า ประเทศไทยดีขึ้น ได้รับการจัด Rating สูงขึ้น ให้ความเชื่อมั่นว่าเรามีระบบงบประมาณที่ดี มีดุลการเงินบัญชีสะพัดที่เข้มแข็ง มีเงินสำรองระหว่างประเทศที่เพียงพอ มีวินัยการคลังที่ดีพอ และพร้อมที่จะเผชิญกับภัยข้างหน้า เราเป็นประเทศแรกที่ได้รับการปรับ Rating ทั้งๆ ที่เรากำลังเผชิญกับแรงท้าทายของเรื่องราคาของน้ำมัน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่ายินดี ไม่ใช่เพราะว่า Rating ที่เขาให้เรา แต่น่ายินดีเพราะว่าเราสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้เขารู้ว่าประเทศไทยเราสามารถกลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้งหนึ่งในสายตาชาวโลกได้ เพราะครั้งหนึ่งเขาหาว่าเราเป็นต้นเหตุในการแพร่ "โรคต้มยำกุ้ง" วันนี้เรากลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้งหนึ่ง ถือเป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งมวล ในเมื่อฝรั่งเขากล้าภูมิใจกับเรา กล้ามั่นใจกับเราแล้ว ต้องเป็นหน้าที่ของคนไทยเรานี้แหละที่เราต้องมั่นใจในตัวเอง ไม่ว่าจะเผชิญอุปสรรคใดๆ ก็แล้วแต่ อย่าได้ไปวิตกจนเกินการณ์ ถ้าเรามีพลังมีความสามัคคี ผมเชื่อแน่ว่าประเทศไทยภายใต้การนำของ ฯพณฯนายกรัฐมนตรีสามารถก้าวหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง
S & P พูดมาคำหนึ่งว่าเขาอยากจะเห็นประเทศไทยมีการปฏิรูปที่ต่อเนื่อง เพราะนั่นจะทำให้ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันที่เข้มแข็งขึ้น และจะได้มีโอกาสได้รับการปรับ Rating ในอันดับต่อๆ ไป ซึ่งคำพูดประโยคนี้มีความหมายมาก และก็อยากจะสื่อไปถึง S & P และ Rating ทั่วโลกด้วยว่าประเทศไทยได้ทำอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว และไม่เคยลืมเลย เพราะเราไม่เคยสนใจกับคำว่า GDP เพิ่มหรือลงในระยะสั้น เราสนใจแต่ว่าเราจะทำอย่างไรให้พื้นฐานของเราเข้มแข็ง และมันจะเข้มแข็งได้ก็ต่อเมื่อมีการปฏิรูปสถานเดียว เรากำลังเน้นย้ำการปฏิรูประบบงบประมาณ ปี 2548 นี้เราต้องการงบประมาณสมดุล มีผู้ปรารถนาดีหลายท่านบอกว่า ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจเช่นนั้นขาดดุลก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ผมบอกว่าไม่ได้ เพราะเราต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศไทยเรามีวินัยการคลังที่แท้จริง เราสามารถพิสูจน์ให้เห็นมารอบหนึ่งแล้ว ครั้งต่อไปเราจะแสดงให้เห็นชัดว่าระบบงบประมาณสมดุลเราทำได้แน่นอน เรากำลังปฏิรูประบบขนส่ง ปฏิรูประบบราชการ ปฏิรูประบบอสังหาริมทรัพย์ และในวันนี้เป็นมิติที่ดีวันหนึ่งที่เรากำลังดำเนินการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน
ท่านสมหมาย ภาษี กับข้าราชการกระทรวงการคลัง ได้ช่วยผมในการวางยุทธศาสตร์กระทรวงการคลัง หนึ่งในยุทธศาสตร์นั้นเราต้องการสร้างความเข้มแข็งของระบบตลาดเงินและตลาดทุนของประเทศ ในระบบตลาดเงินนั้นเราระบุไว้ว่าเราต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันการเงินของประเทศ เราต้องการสร้างความโปร่งใสให้กับการบริหารจัดการเพื่อให้สถาบันการเงินของเราสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้การช่วยเหลือการควบรวมระหว่าง 3 สถาบันการเงินที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงให้เป็นหนึ่งเดียวในวันนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย เพราะเป็นการรวมเอา 3 จุดแข็งของ 3 ธนาคารเข้าด้วยกัน เมื่อรวมพลังกันแล้วจะกลายเป็นสถาบันการเงินที่น่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง
ธนาคารทหารไทยมีสาขากระจายทั่วประเทศ จะเป็นช่องทางที่ดีมากในการเข้าไปรับใช้ให้บริการกับประชาชนทุกระดับ ตั้งแต่ระดับชุมชน SMEs บริษัทธุรกิจจัดการทั้งหลาย พร้อมทั้งบริการที่ครบวงจร บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมีชื่อเสียงอย่างยิ่งในด้านของการวิเคราะห์พื้นฐานของอุตสาหกรรม มีนักวิเคราะห์ที่มีความสามารถ ย่อมสามารถช่วยให้ธนาคารแห่งใหม่นี้เป็นพื้นฐานการรองรับการลงทุนหรือการพัฒนาการลงทุนของโครงสร้างสาธารณูปโภคระบบขนส่ง ซึ่งจะต้องมีการลงทุนนับแสนๆ ล้านในระยะ 5 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน
ทั้ง 2 ธนาคารทั้งทหารไทยและบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนถึง 2 บริษัท ซึ่งจะสามารถทำให้เป็นแหล่งระดมทุนแห่งอนาคตของสถาบันแห่งใหม่นี้ได้เป็นอย่างดี
ศักยภาพของการรวมนี้จะไม่ถูกจำกัดเพียงเฉพาะในประเทศไทย แต่ด้วยการรวมเอาจุดแข็งของดีบีเอส ไทยทนุเข้ามา ทางด้าน International banking จะสามารถช่วยทำให้ขยายเครือข่ายเจาะตลาดในตลาดต่างประเทศ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับต่างประเทศ ไม่เพียงเท่านั้น ท่านยังสามารถช่วยดึงช่องทางนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาสู่ประเทศไทยได้อีกมากฉะนั้น การรวมของ 3 สถาบันแห่งนี้ จึงถือว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง และเมื่อเรารวมแล้วทั้ง 3 ธนาคาร ท่านกำลังกลายเป็นธนาคารพาณิชย์อันดับ 5 ของประเทศไทย มีทรัพย์สินกว่า 600,000 - 700,000 ล้านบาท มีพนักงานกว่า 8,000 คน มีสาขาเกือบ 500 สาขา ทั่วประเทศไทย และการรวมตัวเช่นนี้ ถ้าเป็นการรวมตัวอย่างหลวมๆ มันจะกลายเป็นองค์กรซึ่งไม่มีพลัง แต่องค์กรนี้ถ้าสามารถร้อยดวงใจเข้าไปด้วยกัน เป็นพลังหนึ่งเดียว มันจะกลายเป็นสถาบันการเงินที่น่าเกรงขามมีพลังเป็นอย่างยิ่งแห่งอนาคตทีเดียว
ท่านลองหลับตานึกภาพถึงจุดแข็งที่ผมกล่าวเมื่อสักครู่นี้ ด้วยพลังทรัพย์สิน ด้วยพลังบุคลากร ด้วยคนหนุ่มสาวที่ผมเดินเข้ามาในห้องนี้ ถ้าท่านสามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวได้ คิดถึงสถาบันการเงินใหม่ คิดถึงอนาคต คิดถึงคำว่า "Teaming for the Future" อย่าไปคิดถึงว่าเรามาจากไหน ผู้บริหารใหม่มีคนจากแบงก์เก่าเหลือกี่คน อย่ามองในเชิงลบ ลืมมันเสียให้หมด มองไปข้างหน้าว่าธนาคารแห่งใหม่นี้เป็นที่รวมของพลังร่วม เป็นที่รวมของจุดแข็ง เป็นที่รวมของทุกสิ่งทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตใจและการทุ่มเท ถ้าเรารวมพลังกัน ทุ่มเทร่วมกัน ธนาคารแห่งใหม่นี้จะกลายเป็นจักรกลสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
ผมได้ขอให้ท่านประธานสมหมาย ภาษี และคณะว่าผมไม่ห่วงเรื่องของการควบรวมเลย ผมห่วงอยู่อย่างเดียวเท่านั้นเองว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนมาหลอมความสามัคคีเข้าด้วยกัน หลอมรวมเป็นวัฒนธรรมเดียวกัน มองไปข้างหน้า ช่วยกันสร้างระบบ ช่วยกันสร้างกระบวนการจัดการ ช่วยกันยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ช่วยในการให้บริการแก่ประชาชน และช่วยเหลือประเทศชาติวันนี้จึงต้องขอขอบคุณท่านประธาน และคณะกรรมการทุกท่าน ที่ช่วยให้ความปรารถนาของผมสมความตั้งใจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการรวมตัวกันของ 3 สถาบันการเงินแห่งนี้จะนำไปสู่สิ่งดีๆ ต่อประเทศชาติ และต้องขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่อยู่ในห้องนี้ ที่ได้มีส่วนร่วมในวันประวัติศาสตร์ในวันนี้ ขอให้ทุกท่าน และสถาบันการเงินแห่งใหม่นี้จงประสบโชคดีทุกประการ ขอขอบพระคุณอีกครั้งครับ
กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
สุรีย์พร ชัยยะรุ่งสกุล : ถอดเทป / พิมพ์
เชาวลิตร์ บุณยภูษิต : Edit
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง--
ท่านประธานกรรมการสมหมาย ภาษี ท่านคณะกรรมการ ท่านผู้จัดการใหญ่ ท่านผู้บริหาร และพี่น้องที่อยู่ในห้องนี้ทั้งหมดก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณที่ให้เกียรติเชิญผมให้มามีส่วนร่วมในวันแห่งความหมายเช่นนี้ เป็นวันรวมพลังอันเป็นประวัติศาสตร์ของสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงถึงสามแห่ง คือธนาคารทหารไทย ดีบีเอส ไทยทนุ และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และต้องขอแสดงความชื่นชม ขอบพระคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านประธานสมหมาย ภาษี และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนที่ได้ช่วยดำเนินการให้การรวมพลังรวมตัวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิผล จนกระทั่งจะมีผลทางกฎหมายในวันที่ 1 กันยายนที่จะถึงนี้
วันนี้ประเทศไทยเราได้ก้าวผ่านพ้นจากวิกฤติการณ์เศรษฐกิจอย่างแน่นอน และได้แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของเรามีความแข็งแกร่งเพียงพอ มีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะผ่านพ้นอุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้นที่มาเผชิญกับเรา ตั้งแต่ต้นปีมานี้ เราเผชิญมรสุมลูกแล้ว ลูกเล่า แต่ ณ วันนี้เราก็ยังสามารถมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ยังมีเสถียรภาพที่มั่นคงจนเป็นที่ประจักษ์ชัด และล่าสุดสถาบันจัดอันดับระดับโลก คือ S & P ก็ได้ยืนยันในสิ่งที่ผมกล่าวไป
ผมได้กล่าวมาหลายครั้งแล้วว่าประเทศไทยไม่ได้แพ้ประเทศอื่นเลย เศรษฐกิจของเราเข้มแข็ง เราพร้อมจะเผชิญหน้าได้ทุกอย่าง จากวันนั้นถึงวันนี้เราได้รับการยืนยันจาก S & P แล้วว่า ประเทศไทยดีขึ้น ได้รับการจัด Rating สูงขึ้น ให้ความเชื่อมั่นว่าเรามีระบบงบประมาณที่ดี มีดุลการเงินบัญชีสะพัดที่เข้มแข็ง มีเงินสำรองระหว่างประเทศที่เพียงพอ มีวินัยการคลังที่ดีพอ และพร้อมที่จะเผชิญกับภัยข้างหน้า เราเป็นประเทศแรกที่ได้รับการปรับ Rating ทั้งๆ ที่เรากำลังเผชิญกับแรงท้าทายของเรื่องราคาของน้ำมัน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่ายินดี ไม่ใช่เพราะว่า Rating ที่เขาให้เรา แต่น่ายินดีเพราะว่าเราสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้เขารู้ว่าประเทศไทยเราสามารถกลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้งหนึ่งในสายตาชาวโลกได้ เพราะครั้งหนึ่งเขาหาว่าเราเป็นต้นเหตุในการแพร่ "โรคต้มยำกุ้ง" วันนี้เรากลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้งหนึ่ง ถือเป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งมวล ในเมื่อฝรั่งเขากล้าภูมิใจกับเรา กล้ามั่นใจกับเราแล้ว ต้องเป็นหน้าที่ของคนไทยเรานี้แหละที่เราต้องมั่นใจในตัวเอง ไม่ว่าจะเผชิญอุปสรรคใดๆ ก็แล้วแต่ อย่าได้ไปวิตกจนเกินการณ์ ถ้าเรามีพลังมีความสามัคคี ผมเชื่อแน่ว่าประเทศไทยภายใต้การนำของ ฯพณฯนายกรัฐมนตรีสามารถก้าวหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง
S & P พูดมาคำหนึ่งว่าเขาอยากจะเห็นประเทศไทยมีการปฏิรูปที่ต่อเนื่อง เพราะนั่นจะทำให้ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันที่เข้มแข็งขึ้น และจะได้มีโอกาสได้รับการปรับ Rating ในอันดับต่อๆ ไป ซึ่งคำพูดประโยคนี้มีความหมายมาก และก็อยากจะสื่อไปถึง S & P และ Rating ทั่วโลกด้วยว่าประเทศไทยได้ทำอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว และไม่เคยลืมเลย เพราะเราไม่เคยสนใจกับคำว่า GDP เพิ่มหรือลงในระยะสั้น เราสนใจแต่ว่าเราจะทำอย่างไรให้พื้นฐานของเราเข้มแข็ง และมันจะเข้มแข็งได้ก็ต่อเมื่อมีการปฏิรูปสถานเดียว เรากำลังเน้นย้ำการปฏิรูประบบงบประมาณ ปี 2548 นี้เราต้องการงบประมาณสมดุล มีผู้ปรารถนาดีหลายท่านบอกว่า ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจเช่นนั้นขาดดุลก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ผมบอกว่าไม่ได้ เพราะเราต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศไทยเรามีวินัยการคลังที่แท้จริง เราสามารถพิสูจน์ให้เห็นมารอบหนึ่งแล้ว ครั้งต่อไปเราจะแสดงให้เห็นชัดว่าระบบงบประมาณสมดุลเราทำได้แน่นอน เรากำลังปฏิรูประบบขนส่ง ปฏิรูประบบราชการ ปฏิรูประบบอสังหาริมทรัพย์ และในวันนี้เป็นมิติที่ดีวันหนึ่งที่เรากำลังดำเนินการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน
ท่านสมหมาย ภาษี กับข้าราชการกระทรวงการคลัง ได้ช่วยผมในการวางยุทธศาสตร์กระทรวงการคลัง หนึ่งในยุทธศาสตร์นั้นเราต้องการสร้างความเข้มแข็งของระบบตลาดเงินและตลาดทุนของประเทศ ในระบบตลาดเงินนั้นเราระบุไว้ว่าเราต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันการเงินของประเทศ เราต้องการสร้างความโปร่งใสให้กับการบริหารจัดการเพื่อให้สถาบันการเงินของเราสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้การช่วยเหลือการควบรวมระหว่าง 3 สถาบันการเงินที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงให้เป็นหนึ่งเดียวในวันนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย เพราะเป็นการรวมเอา 3 จุดแข็งของ 3 ธนาคารเข้าด้วยกัน เมื่อรวมพลังกันแล้วจะกลายเป็นสถาบันการเงินที่น่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง
ธนาคารทหารไทยมีสาขากระจายทั่วประเทศ จะเป็นช่องทางที่ดีมากในการเข้าไปรับใช้ให้บริการกับประชาชนทุกระดับ ตั้งแต่ระดับชุมชน SMEs บริษัทธุรกิจจัดการทั้งหลาย พร้อมทั้งบริการที่ครบวงจร บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมีชื่อเสียงอย่างยิ่งในด้านของการวิเคราะห์พื้นฐานของอุตสาหกรรม มีนักวิเคราะห์ที่มีความสามารถ ย่อมสามารถช่วยให้ธนาคารแห่งใหม่นี้เป็นพื้นฐานการรองรับการลงทุนหรือการพัฒนาการลงทุนของโครงสร้างสาธารณูปโภคระบบขนส่ง ซึ่งจะต้องมีการลงทุนนับแสนๆ ล้านในระยะ 5 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน
ทั้ง 2 ธนาคารทั้งทหารไทยและบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนถึง 2 บริษัท ซึ่งจะสามารถทำให้เป็นแหล่งระดมทุนแห่งอนาคตของสถาบันแห่งใหม่นี้ได้เป็นอย่างดี
ศักยภาพของการรวมนี้จะไม่ถูกจำกัดเพียงเฉพาะในประเทศไทย แต่ด้วยการรวมเอาจุดแข็งของดีบีเอส ไทยทนุเข้ามา ทางด้าน International banking จะสามารถช่วยทำให้ขยายเครือข่ายเจาะตลาดในตลาดต่างประเทศ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับต่างประเทศ ไม่เพียงเท่านั้น ท่านยังสามารถช่วยดึงช่องทางนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาสู่ประเทศไทยได้อีกมากฉะนั้น การรวมของ 3 สถาบันแห่งนี้ จึงถือว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง และเมื่อเรารวมแล้วทั้ง 3 ธนาคาร ท่านกำลังกลายเป็นธนาคารพาณิชย์อันดับ 5 ของประเทศไทย มีทรัพย์สินกว่า 600,000 - 700,000 ล้านบาท มีพนักงานกว่า 8,000 คน มีสาขาเกือบ 500 สาขา ทั่วประเทศไทย และการรวมตัวเช่นนี้ ถ้าเป็นการรวมตัวอย่างหลวมๆ มันจะกลายเป็นองค์กรซึ่งไม่มีพลัง แต่องค์กรนี้ถ้าสามารถร้อยดวงใจเข้าไปด้วยกัน เป็นพลังหนึ่งเดียว มันจะกลายเป็นสถาบันการเงินที่น่าเกรงขามมีพลังเป็นอย่างยิ่งแห่งอนาคตทีเดียว
ท่านลองหลับตานึกภาพถึงจุดแข็งที่ผมกล่าวเมื่อสักครู่นี้ ด้วยพลังทรัพย์สิน ด้วยพลังบุคลากร ด้วยคนหนุ่มสาวที่ผมเดินเข้ามาในห้องนี้ ถ้าท่านสามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวได้ คิดถึงสถาบันการเงินใหม่ คิดถึงอนาคต คิดถึงคำว่า "Teaming for the Future" อย่าไปคิดถึงว่าเรามาจากไหน ผู้บริหารใหม่มีคนจากแบงก์เก่าเหลือกี่คน อย่ามองในเชิงลบ ลืมมันเสียให้หมด มองไปข้างหน้าว่าธนาคารแห่งใหม่นี้เป็นที่รวมของพลังร่วม เป็นที่รวมของจุดแข็ง เป็นที่รวมของทุกสิ่งทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตใจและการทุ่มเท ถ้าเรารวมพลังกัน ทุ่มเทร่วมกัน ธนาคารแห่งใหม่นี้จะกลายเป็นจักรกลสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
ผมได้ขอให้ท่านประธานสมหมาย ภาษี และคณะว่าผมไม่ห่วงเรื่องของการควบรวมเลย ผมห่วงอยู่อย่างเดียวเท่านั้นเองว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนมาหลอมความสามัคคีเข้าด้วยกัน หลอมรวมเป็นวัฒนธรรมเดียวกัน มองไปข้างหน้า ช่วยกันสร้างระบบ ช่วยกันสร้างกระบวนการจัดการ ช่วยกันยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ช่วยในการให้บริการแก่ประชาชน และช่วยเหลือประเทศชาติวันนี้จึงต้องขอขอบคุณท่านประธาน และคณะกรรมการทุกท่าน ที่ช่วยให้ความปรารถนาของผมสมความตั้งใจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการรวมตัวกันของ 3 สถาบันการเงินแห่งนี้จะนำไปสู่สิ่งดีๆ ต่อประเทศชาติ และต้องขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่อยู่ในห้องนี้ ที่ได้มีส่วนร่วมในวันประวัติศาสตร์ในวันนี้ ขอให้ทุกท่าน และสถาบันการเงินแห่งใหม่นี้จงประสบโชคดีทุกประการ ขอขอบพระคุณอีกครั้งครับ
กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
สุรีย์พร ชัยยะรุ่งสกุล : ถอดเทป / พิมพ์
เชาวลิตร์ บุณยภูษิต : Edit
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง--