เศรษฐกิจภาคเหนือโดยรวมเดือนกรกฎาคม 2547 ยังขยายตัวในเกณฑ์ดีแต่ในอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อยตามการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนที่ชะลอลงโดยเฉพาะในภาคเหนือตอนบนเนื่องจากรายได้เกษตรกรจากการขายพืชผลหลักลดลง แต่ยังขยายตัวดีในเขตภาคเหนือตอนล่าง อย่างไรก็ตาม การผลิตภาคอุตสาหกรรมเร่งตัวตามอุปสงค์จากต่างประเทศ ส่งผลให้การลงทุนขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนการส่งออก ภาคบริการขยายตัวสูงจากการจัดประชุมสัมมนาทั้งของส่วนราชการและเอกชน การส่งเสริมการขายของธุรกิจท่องเที่ยว และผลดีจากการแข่งขันของสายการบินต้นทุนต่ำ ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐเร่งตัว ระดับราคาเร่งตัวจากราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม สถาบันการเงินขยายการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการมากขึ้น ในธุรกิจโรงสีข้าว และอิเล็กทรอนิกส์
รายละเอียดของแต่ละภาคเศรษฐกิจในเดือนกรกฎาคม 2547 มีดังนี้
1. ภาคเกษตร แม้ว่าผลผลิตพืชสำคัญเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 11.3 ตามผลผลิตลำไยที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 55.1 จากการขยายพื้นที่เพาะปลูกเมื่อ 4-5 ปีก่อน และสภาพอากาศที่เหมาะสมในช่วงติดดอก ประกอบกับผลผลิตหอมแดงและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.8 และร้อยละ 3.7 ตามลำดับ จากราคาปีก่อนหน้าจูงใจ อย่างไรก็ตามราคาพืชผลสำคัญลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 14.5 เนื่องจากลำไยและหอมแดงมีราคาลดลงร้อยละ 57.1 และร้อยละ 54.5 ตามลำดับ จากการที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรจากการจำหน่ายพืชผลหลักลดลงร้อยละ 3.2
ส่วนสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดนกรอบใหม่ เพียงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2547 แม้ว่าไม่รุนแรงเท่ากับครั้งแรก แต่ได้ส่งผลกระทบต่อการบริโภคเนื้อไก่ โดยเฉพาะผู้บริโภคกลุ่มโรงเรียนลดลงเหลือร้อยละ 85 ของภาวะปกติ อย่างไรก็ตามราคาเนื้อไก่ ไข่ไก่ และไข่เป็ด ยังมีราคาสูงกว่าระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 20.1, ร้อยละ 69.4, และร้อยละ 82.9 ตามลำดับ เนื่องจากอุปทานลดลง
2. ภาคอุตสาหกรรม การผลิตภาคอุตสาหกรรมในภาคเหนือขยายตัวต่อเนื่องตามการผลิตเพื่อส่งออก โดยมูลค่าส่งออกสินค้าผ่านด่านศุลกากรนิคมอุตสาหกรรม ภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 52.8 เป็น 150.4 ล้านดอลลาร์ สรอ. เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อน ตามความต้องการสินค้าของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งความต้องการมีมากในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สินค้าที่ผลิตเพิ่มขึ้นมากได้แก่ เครื่องตัดต่อวงจรไฟฟ้า อุปกรณ์เกี่ยวกับสายตา และเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่การผลิตอัญมณี อุปกรณ์กีฬา และอุปกรณ์ถ่ายภาพลดลง บริษัทในนิคมอุตสาหกรรม ภาคเหนือหลายแห่งเริ่มเต็มกำลังการผลิตแล้ว จึงขยายกำลังการผลิตรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยนำเข้าเครื่องจักรใหม่เพิ่มขึ้น
3. ภาคบริการ ขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี จากกิจกรรมของภาครัฐ เช่น การตรวจราชการ และการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร การประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการของส่วนราชการและเอกชน นอกจากนี้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว (Low Season) ส่งผลให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 46.2 ระยะเดียวกันปีก่อน เป็นร้อยละ 53.5 ปีนี้และราคาห้องพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 711.94 บาทต่อห้อง เป็น 769.78 บาทต่อห้อง ขณะที่ผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 50.2 โดยเพิ่มมากที่ท่าอากาศยานเชียงรายร้อยละ 76.6 และท่าอากาศยานเชียงใหม่ร้อยละ 50.8 จากการแข่งขันของสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airline)
4. การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อย ยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนเพียงร้อยละ 3.9 ชะลอลงจากเดือนก่อนโดยปรากฎชัดในภาคเหนือตอนบนเป็นสำคัญโดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย ลำพูน และเชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม ยอดจดทะเบียนในส่วนภาคเหนือตอนล่างยังอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนหนึ่งเพราะได้รับผลดีจากราคาพืชผลสำคัญที่อยู่ในเกณฑ์สูง ส่วนยอดจดทะเบียนรถยนต์เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 26.2 เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มมากในภาคเหนือตอนล่างเป็นสำคัญ ขณะที่ในภาคเหนือตอนบนชะลอตัวลง สำหรับการใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนเดือนมิถุนายน 2547 เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนเพียงร้อยละ 2.2 ชะลอลงจากเดือนก่อนตามความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ชะลอตัวในทุกจังหวัดภาคเหนือ
5. การลงทุนภาคเอกชน ชะลอลงตามการลงทุนก่อสร้างขณะที่การลงทุนผลิตขยายตัวดี กิจกรรมการลงทุนก่อสร้าง เช่น พื้นที่ก่อสร้างรับอนุญาตในเขตเทศบาล ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 6.3 ตามการลดลงของพื้นที่ก่อสร้างประเภทอยู่อาศัยและพาณิชยกรรม ขณะที่ประเภทบริการและขนส่งเพิ่มขึ้นมากตามการขยายตัวของหอพักและอพาร์ทเมนท์ในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนค่าธรรมเนียมขายที่ดินชะลอลงจากเดือนก่อนเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในเกณฑ์สูงโดยเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 26.0 ตามการขยายตัวในภาคเหนือตอนบนเป็นหลัก ด้านการลงทุนผลิตขยายตัวสูง ในเดือนนี้มูลค่านำเข้าเครื่องจักรกลและส่วนประกอบเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 89.0 เร่งตัวจากเดือนก่อน ตามการขยายกำลังการผลิตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยนำเข้าเครื่องจักรจากญี่ปุ่นและสวิตเซอร์แลนด์เพิ่มขึ้นมาก ขณะที่เงินลงทุนของโรงงานอุตสาหกรรมจดทะเบียนตั้งใหม่ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนเกือบ 2 เท่า ตามการลงทุน ของทั้งผู้ประกอบการรายใหม่และที่เป็นการขยายการประกอบธุรกิจของรายเก่า ในอุตสาหกรรมซ่อมรถยนต์ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร และผลิตภัณฑ์น้ำแข็ง ในจังหวัดเชียงใหม่ เพชรบูรณ์ และอุตรดิตถ์ เป็นสำคัญ แนวโน้มการลงทุนผลิตจะเพิ่มขึ้นในเกณฑ์ดี โดยเงินลงทุนของโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ส่วนใหญ่เป็นความสนใจลงทุนผลิตโลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์
6. การคลัง การเบิกจ่ายงบประมาณผ่านคลังจังหวัด เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 24.9 เป็น 11,603.3 ล้านบาท จากหมวดรายจ่ายประจำ โดยเพิ่มขึ้นมากที่จังหวัดเชียงใหม่ และ ลำปาง การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.0 เป็น 1,086.2 ล้านบาท จากรายได้ภาษีที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.7 เป็นสำคัญ โดยเพิ่มขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ และอุทัยธานี ส่งผลให้ดุลในงบประมาณขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 10,517.1 ล้านบาท เทียบกับที่ขาดดุล 9,051.8 และ 8,354.3 ล้านบาท เดือนก่อนและระยะเดียวกันปีก่อน ตามลำดับ
7. การค้าต่างประเทศ การส่งออกผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือยังขยายตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง มูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 55.9 เป็น 201.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. เร่งตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยเฉพาะการส่งออกผ่านด่านศุลกากรนิคมอุตสาหกรรม ภาคเหนือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 52.8 เป็น 150.4 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากอุปสงค์ของต่างประเทศเพื่อนำไปผลิตสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าขายในช่วงกีฬาโอลิมปิก 2004 และช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สินค้าส่งออกที่ขยายตัวดี ได้แก่ เครื่องตัดต่อวงจรไฟฟ้า อุปกรณ์เกี่ยวกับสายตา และเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่การส่งออกอัญมณี ลดลง ตลาดสำคัญที่ส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ขณะที่การส่งออกไป สหรัฐอเมริกา และอิสราเอล ลดลง ส่วนการส่งออกผ่านชายแดนขยายตัวต่อเนื่อง มูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เป็น 35.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการส่งออกไปพม่าเป็นสำคัญ โดยเฉพาะ น้ำมันพืช ผงชูรส ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนสินค้าส่งออกไปจีนที่เพิ่มขึ้นมาก จาก ลำไยอบแห้ง ผลิตภัณฑ์ยาง และน้ำมันพืช
มูลค่านำเข้าผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 26.2 เป็น 114.4 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยการนำเข้าผ่านด่านนิคมอุตสาหกรรม ภาคเหนือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.8 เป็น 109.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากการนำเข้าเครื่องจักรใหม่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ส่วนการนำเข้าผ่านชายแดนเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.2 เป็น 4.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการนำเข้าสินค้าจากพม่า โดยเฉพาะปู และปลาเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าตัว ขณะที่การนำเข้าผลิตภัณฑ์ไม้จากจีนลดลงมาก ส่งผลให้ดุลการค้าผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือเดือนกรกฎาคม 2547 เกินดุล 86.8 ล้านดอลลาร์ สรอ. สูงขึ้นจากปีก่อนที่เกินดุลเพียง 38.4 ล้านดอลลาร์ สรอ.
8. ระดับราคา ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.1 เร่งตัวจากเดือนก่อน จากราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 ตามการเพิ่มขึ้นของราคาผักสด เนื้อสุกร ไข่และผลิตภัณฑ์นม เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม ราคาเนื้อสุกรและไก่สดอ่อนตัวลงจากเดือนก่อน สำหรับราคาอาหารหมวดอื่นๆ ที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.9 เท่ากับเดือนก่อน จากการปรับเพิ่มราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและราคาค่าไฟฟ้าต่อหน่วย ด้านดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) ไม่เปลี่ยนแปลงจากระยะเดียวกันปีก่อนแต่เร่งตัวจากเดือนก่อนเล็กน้อยตามการขยายตัวของราคาอาหารสดและราคาพลังงาน ขณะที่ค่าเช่าบ้านยังคงลดลงต่อเนื่อง
9. การจ้างงาน จากข้อมูลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรของสำนักงานสถิติแห่งชาติเดือนมิถุนายน 2547 ภาคเหนือมีกำลังแรงงานรวม 6.8 ล้านคน เป็นผู้มีงานทำ 6.6 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 96.7 ของกำลังแรงงานรวม ใกล้เคียงกับระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 96.6 การจ้างงานในภาคเกษตรขยายตัวร้อยละ 11.7 เนื่องจากภาคเหนือตอนบนมีความต้องการแรงงานช่วงเก็บเกี่ยวลำไยมาก ขณะที่ภาคเหนือตอนล่างเข้าสู่ฤดูการเพาะปลูกข้าวนาปี ทำให้การจ้างงานในภาคก่อสร้างลดลงมากถึงร้อยละ 20.2 เนื่องจากย้ายไปทำงานในภาคเกษตร อย่างไรก็ดีการจ้างงานนอกภาคเกษตร โดยรวมยังคงขยายตัวต่อเนื่องและสูงกว่าในปีก่อนร้อยละ 8.6 ตามการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมากในสาขาอุตสาหกรรมและการค้าปลีก-ค้าส่ง สำหรับอัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 3.1 สูงกว่าร้อยละ 2.7 เดือนเดียวกันปีก่อน
10. การเงิน ยอดคงค้างเงินฝากของสาขาธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2547 ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.1 เป็น 291,765 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน พิษณุโลก และเชียงราย ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากของส่วนราชการ โดยส่วนหนึ่งเป็นเงินชำระค่าหน่วยกิตของมหาวิทยาลัย ส่วนเงินฝากของจังหวัดกำแพงเพชรลดลงมาก เนื่องจากมีการโอนเงินภาษีน้ำมันจาก อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร ไปส่วนกลาง ส่วนสินเชื่อมียอดคงค้าง 206,567 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 9.6 เพิ่มขึ้นมากในภาคเหนือตอนล่าง เช่น นครสวรรค์ พิจิตร และพิษณุโลก จากความต้องการสินเชื่อในธุรกิจโรงสีข้าว ขณะที่ภาคเหนือตอนบน สินเชื่อเพิ่มขึ้นที่ เชียงใหม่ ลำพูน และเชียงราย จากอุตสาหกรรมส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และไม้แกะสลัก นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อที่ให้กับธุรกิจสนามกอล์ฟ อพาร์ทเม้นท์ และการค้าส่งและค้าปลีกพืชไร่
--ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ--
-ยก-
รายละเอียดของแต่ละภาคเศรษฐกิจในเดือนกรกฎาคม 2547 มีดังนี้
1. ภาคเกษตร แม้ว่าผลผลิตพืชสำคัญเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 11.3 ตามผลผลิตลำไยที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 55.1 จากการขยายพื้นที่เพาะปลูกเมื่อ 4-5 ปีก่อน และสภาพอากาศที่เหมาะสมในช่วงติดดอก ประกอบกับผลผลิตหอมแดงและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.8 และร้อยละ 3.7 ตามลำดับ จากราคาปีก่อนหน้าจูงใจ อย่างไรก็ตามราคาพืชผลสำคัญลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 14.5 เนื่องจากลำไยและหอมแดงมีราคาลดลงร้อยละ 57.1 และร้อยละ 54.5 ตามลำดับ จากการที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรจากการจำหน่ายพืชผลหลักลดลงร้อยละ 3.2
ส่วนสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดนกรอบใหม่ เพียงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2547 แม้ว่าไม่รุนแรงเท่ากับครั้งแรก แต่ได้ส่งผลกระทบต่อการบริโภคเนื้อไก่ โดยเฉพาะผู้บริโภคกลุ่มโรงเรียนลดลงเหลือร้อยละ 85 ของภาวะปกติ อย่างไรก็ตามราคาเนื้อไก่ ไข่ไก่ และไข่เป็ด ยังมีราคาสูงกว่าระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 20.1, ร้อยละ 69.4, และร้อยละ 82.9 ตามลำดับ เนื่องจากอุปทานลดลง
2. ภาคอุตสาหกรรม การผลิตภาคอุตสาหกรรมในภาคเหนือขยายตัวต่อเนื่องตามการผลิตเพื่อส่งออก โดยมูลค่าส่งออกสินค้าผ่านด่านศุลกากรนิคมอุตสาหกรรม ภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 52.8 เป็น 150.4 ล้านดอลลาร์ สรอ. เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อน ตามความต้องการสินค้าของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งความต้องการมีมากในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สินค้าที่ผลิตเพิ่มขึ้นมากได้แก่ เครื่องตัดต่อวงจรไฟฟ้า อุปกรณ์เกี่ยวกับสายตา และเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่การผลิตอัญมณี อุปกรณ์กีฬา และอุปกรณ์ถ่ายภาพลดลง บริษัทในนิคมอุตสาหกรรม ภาคเหนือหลายแห่งเริ่มเต็มกำลังการผลิตแล้ว จึงขยายกำลังการผลิตรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยนำเข้าเครื่องจักรใหม่เพิ่มขึ้น
3. ภาคบริการ ขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี จากกิจกรรมของภาครัฐ เช่น การตรวจราชการ และการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร การประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการของส่วนราชการและเอกชน นอกจากนี้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว (Low Season) ส่งผลให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 46.2 ระยะเดียวกันปีก่อน เป็นร้อยละ 53.5 ปีนี้และราคาห้องพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 711.94 บาทต่อห้อง เป็น 769.78 บาทต่อห้อง ขณะที่ผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 50.2 โดยเพิ่มมากที่ท่าอากาศยานเชียงรายร้อยละ 76.6 และท่าอากาศยานเชียงใหม่ร้อยละ 50.8 จากการแข่งขันของสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airline)
4. การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อย ยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนเพียงร้อยละ 3.9 ชะลอลงจากเดือนก่อนโดยปรากฎชัดในภาคเหนือตอนบนเป็นสำคัญโดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย ลำพูน และเชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม ยอดจดทะเบียนในส่วนภาคเหนือตอนล่างยังอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนหนึ่งเพราะได้รับผลดีจากราคาพืชผลสำคัญที่อยู่ในเกณฑ์สูง ส่วนยอดจดทะเบียนรถยนต์เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 26.2 เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มมากในภาคเหนือตอนล่างเป็นสำคัญ ขณะที่ในภาคเหนือตอนบนชะลอตัวลง สำหรับการใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนเดือนมิถุนายน 2547 เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนเพียงร้อยละ 2.2 ชะลอลงจากเดือนก่อนตามความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ชะลอตัวในทุกจังหวัดภาคเหนือ
5. การลงทุนภาคเอกชน ชะลอลงตามการลงทุนก่อสร้างขณะที่การลงทุนผลิตขยายตัวดี กิจกรรมการลงทุนก่อสร้าง เช่น พื้นที่ก่อสร้างรับอนุญาตในเขตเทศบาล ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 6.3 ตามการลดลงของพื้นที่ก่อสร้างประเภทอยู่อาศัยและพาณิชยกรรม ขณะที่ประเภทบริการและขนส่งเพิ่มขึ้นมากตามการขยายตัวของหอพักและอพาร์ทเมนท์ในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนค่าธรรมเนียมขายที่ดินชะลอลงจากเดือนก่อนเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในเกณฑ์สูงโดยเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 26.0 ตามการขยายตัวในภาคเหนือตอนบนเป็นหลัก ด้านการลงทุนผลิตขยายตัวสูง ในเดือนนี้มูลค่านำเข้าเครื่องจักรกลและส่วนประกอบเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 89.0 เร่งตัวจากเดือนก่อน ตามการขยายกำลังการผลิตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยนำเข้าเครื่องจักรจากญี่ปุ่นและสวิตเซอร์แลนด์เพิ่มขึ้นมาก ขณะที่เงินลงทุนของโรงงานอุตสาหกรรมจดทะเบียนตั้งใหม่ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนเกือบ 2 เท่า ตามการลงทุน ของทั้งผู้ประกอบการรายใหม่และที่เป็นการขยายการประกอบธุรกิจของรายเก่า ในอุตสาหกรรมซ่อมรถยนต์ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร และผลิตภัณฑ์น้ำแข็ง ในจังหวัดเชียงใหม่ เพชรบูรณ์ และอุตรดิตถ์ เป็นสำคัญ แนวโน้มการลงทุนผลิตจะเพิ่มขึ้นในเกณฑ์ดี โดยเงินลงทุนของโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ส่วนใหญ่เป็นความสนใจลงทุนผลิตโลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์
6. การคลัง การเบิกจ่ายงบประมาณผ่านคลังจังหวัด เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 24.9 เป็น 11,603.3 ล้านบาท จากหมวดรายจ่ายประจำ โดยเพิ่มขึ้นมากที่จังหวัดเชียงใหม่ และ ลำปาง การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.0 เป็น 1,086.2 ล้านบาท จากรายได้ภาษีที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.7 เป็นสำคัญ โดยเพิ่มขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ และอุทัยธานี ส่งผลให้ดุลในงบประมาณขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 10,517.1 ล้านบาท เทียบกับที่ขาดดุล 9,051.8 และ 8,354.3 ล้านบาท เดือนก่อนและระยะเดียวกันปีก่อน ตามลำดับ
7. การค้าต่างประเทศ การส่งออกผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือยังขยายตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง มูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 55.9 เป็น 201.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. เร่งตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยเฉพาะการส่งออกผ่านด่านศุลกากรนิคมอุตสาหกรรม ภาคเหนือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 52.8 เป็น 150.4 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากอุปสงค์ของต่างประเทศเพื่อนำไปผลิตสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าขายในช่วงกีฬาโอลิมปิก 2004 และช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สินค้าส่งออกที่ขยายตัวดี ได้แก่ เครื่องตัดต่อวงจรไฟฟ้า อุปกรณ์เกี่ยวกับสายตา และเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่การส่งออกอัญมณี ลดลง ตลาดสำคัญที่ส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ขณะที่การส่งออกไป สหรัฐอเมริกา และอิสราเอล ลดลง ส่วนการส่งออกผ่านชายแดนขยายตัวต่อเนื่อง มูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เป็น 35.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการส่งออกไปพม่าเป็นสำคัญ โดยเฉพาะ น้ำมันพืช ผงชูรส ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนสินค้าส่งออกไปจีนที่เพิ่มขึ้นมาก จาก ลำไยอบแห้ง ผลิตภัณฑ์ยาง และน้ำมันพืช
มูลค่านำเข้าผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 26.2 เป็น 114.4 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยการนำเข้าผ่านด่านนิคมอุตสาหกรรม ภาคเหนือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.8 เป็น 109.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากการนำเข้าเครื่องจักรใหม่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ส่วนการนำเข้าผ่านชายแดนเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.2 เป็น 4.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการนำเข้าสินค้าจากพม่า โดยเฉพาะปู และปลาเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าตัว ขณะที่การนำเข้าผลิตภัณฑ์ไม้จากจีนลดลงมาก ส่งผลให้ดุลการค้าผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือเดือนกรกฎาคม 2547 เกินดุล 86.8 ล้านดอลลาร์ สรอ. สูงขึ้นจากปีก่อนที่เกินดุลเพียง 38.4 ล้านดอลลาร์ สรอ.
8. ระดับราคา ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.1 เร่งตัวจากเดือนก่อน จากราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 ตามการเพิ่มขึ้นของราคาผักสด เนื้อสุกร ไข่และผลิตภัณฑ์นม เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม ราคาเนื้อสุกรและไก่สดอ่อนตัวลงจากเดือนก่อน สำหรับราคาอาหารหมวดอื่นๆ ที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.9 เท่ากับเดือนก่อน จากการปรับเพิ่มราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและราคาค่าไฟฟ้าต่อหน่วย ด้านดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) ไม่เปลี่ยนแปลงจากระยะเดียวกันปีก่อนแต่เร่งตัวจากเดือนก่อนเล็กน้อยตามการขยายตัวของราคาอาหารสดและราคาพลังงาน ขณะที่ค่าเช่าบ้านยังคงลดลงต่อเนื่อง
9. การจ้างงาน จากข้อมูลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรของสำนักงานสถิติแห่งชาติเดือนมิถุนายน 2547 ภาคเหนือมีกำลังแรงงานรวม 6.8 ล้านคน เป็นผู้มีงานทำ 6.6 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 96.7 ของกำลังแรงงานรวม ใกล้เคียงกับระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 96.6 การจ้างงานในภาคเกษตรขยายตัวร้อยละ 11.7 เนื่องจากภาคเหนือตอนบนมีความต้องการแรงงานช่วงเก็บเกี่ยวลำไยมาก ขณะที่ภาคเหนือตอนล่างเข้าสู่ฤดูการเพาะปลูกข้าวนาปี ทำให้การจ้างงานในภาคก่อสร้างลดลงมากถึงร้อยละ 20.2 เนื่องจากย้ายไปทำงานในภาคเกษตร อย่างไรก็ดีการจ้างงานนอกภาคเกษตร โดยรวมยังคงขยายตัวต่อเนื่องและสูงกว่าในปีก่อนร้อยละ 8.6 ตามการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมากในสาขาอุตสาหกรรมและการค้าปลีก-ค้าส่ง สำหรับอัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 3.1 สูงกว่าร้อยละ 2.7 เดือนเดียวกันปีก่อน
10. การเงิน ยอดคงค้างเงินฝากของสาขาธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2547 ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.1 เป็น 291,765 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน พิษณุโลก และเชียงราย ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากของส่วนราชการ โดยส่วนหนึ่งเป็นเงินชำระค่าหน่วยกิตของมหาวิทยาลัย ส่วนเงินฝากของจังหวัดกำแพงเพชรลดลงมาก เนื่องจากมีการโอนเงินภาษีน้ำมันจาก อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร ไปส่วนกลาง ส่วนสินเชื่อมียอดคงค้าง 206,567 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 9.6 เพิ่มขึ้นมากในภาคเหนือตอนล่าง เช่น นครสวรรค์ พิจิตร และพิษณุโลก จากความต้องการสินเชื่อในธุรกิจโรงสีข้าว ขณะที่ภาคเหนือตอนบน สินเชื่อเพิ่มขึ้นที่ เชียงใหม่ ลำพูน และเชียงราย จากอุตสาหกรรมส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และไม้แกะสลัก นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อที่ให้กับธุรกิจสนามกอล์ฟ อพาร์ทเม้นท์ และการค้าส่งและค้าปลีกพืชไร่
--ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ--
-ยก-