นางอภิรดี ตัณตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการด้านการค้าและการลงทุนภายใต้กรอบเอเปค ครั้งที่ 3 ประจำปี 2547 ที่กำลังจะมาถึงในเดือนกันยายน - ตุลาคมนี้ จะเป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งของงานด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าของเอเปค ซึ่งได้ดำเนินมาจนถึงครึ่งทางแล้ว
การอำนวยความสะดวกทางการค้าได้เข้ามาเป็นประเด็นหารือหลักในกรอบเอเปคตั้งแต่ปี2544 เมื่อผู้นำเอเปคได้ประกาศเป้าหมายการลดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมในภูมิภาคลงร้อยละ 5 ภายในระยะเวลา 5 ปี คือ ระหว่างปี 2545-2549ต่อมาในปี 2545 ผู้นำเอเปคได้เห็นชอบแผนปฎิบัติการด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าของเอเปค ซึ่งจะเป็นแนวทางให้สมาชิกก้าวไปสู่เป้าหมายที่ได้กำหนดเอาไว้
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวต่อว่า แผนปฏิบัติการดังกล่าวได้กำหนดให้สมาชิกทบทวนผลการดำเนินงานของตนและของเอเปคโดยรวมในช่วงการประชุมคณะกรรมการด้านการค้าและการลงทุน ครั้งที่ 3 ของปี2547 ซึ่งจะแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน คือ การทบทวนผลการดำเนินงานโดยเจ้าหน้าที่ เอเปค ผ่านทางคณะกรรมการด้านการค้าและการลงทุน และการจัดการเสวนาระหว่างเจ้าหน้าที่เอเปค ผู้เชี่ยวชาญ และภาคธุรกิจ ซึ่งกำหนดให้จัดขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2547 ณ กรุงซานติอาโก ประเทศชิลี
ทั้งนี้ สมาชิกเอเปคได้เตรียมการประเมินและวัดผลการลดลงของค่าใช้จ่ายทางธุรกรรมและประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติตามมาตรการอำนวยความสะดวกทางการค้า หนึ่งในจำนวนนั้น คือ โครงการเพื่อศึกษาวิธีการประเมินประสิทธิภาพของการปฏิบัติตามมาตรการอำนวยความสะดวกทางการค้าของสมาชิกเอเปคที่เสนอโดยจีน ซึ่งจีนได้เลือกที่จะนำกรณีของออสเตรเลีย ไทย และของจีนมาทำการศึกษาเป็นพิเศษ และคาดว่าผลการศึกษาจะเสร็จสมบูรณ์ทันการประชุมคณะกรรมการด้านการค้าและการลงทุนครั้งนี้
การอำนวยความสะดวกทางการค้าในกรอบเอเปคประกอบด้วย 4 สาขา ได้แก่ การเคลื่อนย้าย สินค้า มาตรฐานสินค้า การเดินทางของนักธุรกิจ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศรับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-