ส.ส.มหาสารคาม พรรคประชาธิปัตย์ รวบรวมหลักฐานการเซ็นต์สัญญาโครงการจัดรถเพลิง 6,600 ล้านบาทของอดีตผู้ว่าฯกทม.ให้ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ ท้าออกรายการทีวีเพื่อให้รู้ข้อเท็จจริงทั้งหมด ยันเรื่องของหน้าที่ในการตรวจสอบไม่มีการแบ่งรุ่น
วันนี้(4 ก.ย. 47)เวลา 11.00น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การพิจารณางบประมาณมาตรา 17 ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ที่ได้ขอเสนอให้ลดงบประมาณของกรุงเทพฯ ในโครงการพัฒนาระบบบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพฯ โครงการจัดซื้อรถดับเพลิงจากประเทศออสเตรียจำนวน 6,600ล้านบาท เห็นว่าเป็นโครงการที่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดิน หากจะเซ็นต์อนุมัติโครงการฯต้องคิดด้วยว่าเป็นงบประมาณแผ่นดินเป็นเงินของประชาชนทั้งประเทศ
“ขอย้ำนะครับว่าประเทศออสเตรีย ที่อยู่ยุโรปนะครับ มูลค่าจำนวน 6,687ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ต้องใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน เงินภาษีของพี่น้องประชาชน กระผมในฐานะที่เป็นตัวแทนของประชาชน ถึงต้องทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้ มันไม่ใช่ว่าใครไม่เซ็นต์ก็โง่อย่างที่ท่านอดีตผู้ว่าฯกล่าวและเงินจำนวน 6,600ล้านบาทมันไม่ใช่เงินส่วนตัวของตัวท่านเอง”นายยุทธพงษ์ กล่าว
นายยุทธพงษ์ ยังกล่าวด้วยว่า ตนได้ติดตามโครงการนี้มาตั้งแต่ช่วงที่มีการเสนอโครงการนี้ แล้วในงบประมาณวาระ 1 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ก็ได้อภิปรายเรื่องนี้ไปแล้ว และสาเหตุที่ตนต้องติดตามในเรื่องนี้ก็เพราะว่า เมื่อเปรียบเทียบกับราคาข้าวหอมมะลิที่มีราคาตกต่ำของพี่น้องภาคอีสานกับการประหยัดงบประมาณแผ่นดินได้จำนวน 6,600ล้าน โดยนำมาช่วยพี่น้องเกษตรกรภาคอีสานที่กำลังเดือดร้อนในขณะนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี แล้วนำเงิน6,600ล้านไปช่วยพี่น้องประชาชนภาคอีสานในการปลดหนี้จะเป็นเรื่องที่ดีกว่าการที่จะนำเงินงบประมาณส่วนนี้ไปซื้อรถดับเพลิงที่เกินความเป็นจริงมาก
“ส่วนกรณีที่อดีตผู้ว่าฯสมัคร สุนทรเวช บอกให้ตนไปส่องกระจก เช้าวันนี้ผมก็ได้ส่องกระจกและบังเอิญบ้านผมเป็นกระจกพิเศษครับ มีไว้ปราบทุจริตไม่เห็นหน้าผมหรอกครับ ส่องแล้วเห็นโจรปล้นแผ่นดินครับ เห็นหน้าคุ้นๆ ผมนึกได้ ผมเห็นหน้าตาคุ้น ผมถึงได้ไล่ตามเอาเงินภาษีของประชาชนมาคืนให้กับประเทศชาติ ผมขอเรียนท่านสมัครไว้ว่า เรื่องทุจริต มันไม่มีมวยคนละรุ่นหลอกครับ และเรื่องหน้าที่มันก็ไม่มีการแบ่งรุ่นครับผมจึงต้องขอเรียนท่านสมัครที่ผมต้องติดตามเรื่องงบรถดับเพลิงจำนวน6,600บาทเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของแผ่นดินปกป้องเงินภาษีของประชาชน”นายยุทธพงษ์ กล่าว
นายยุทธพงษ์ ยังกล่าวย้ำว่า ตนเป็นผู้ติดตามการทุจริต ติดตามเอาภาษีของประชาชนคืนให้กับประเทศชาติ และเรื่องมวยคนละรุ่นเห็นว่ามันคงไม่มี หรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเซ็นต์อนุมัติหรือไม่เซ็นต์อนุมัติก็ไม่ใช่สิ่งที่จะออกมาบอกว่าโง่หรือไม่โง่ ทั้งนี้ตนเห็นว่าหากมีความเป็นไปได้ ขอร้องให้ท่านสมัครกรุณาออกรายการทีวีกับตน ถ้าข้อเท็จจริงทั้งหมดเรื่องรถดับเพลิง6,600ล้าน
ทั้งนี้ส.ส.มหาสารคาม กล่าวตอนท้ายว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีชาวกรุงเทพฯนำกระดาษทิชชู่มาให้ และบอกว่าให้ตนนำกระดาษทิชชู่ไปให้นายสมัครเช็ดปาก เวลารับประทานอาหารในรายการชิมไปบ่นไป จะได้ไม่เลอะเทอะ ชาวบ้านเห็นแล้วมันไม่ดี อย่างไรก็ตามนายยุทธพงษ์ยืนยันว่า จะต้องตามหาตัวนายสมัครให้เจอให้ได้เพราะพี่น้องชาวกรุงเทพฯเขาฝากมา เพราะตนเป็นคนที่ฝากมาให้ใครก็ต้องเอาไปให้คนนั้น
นอกจากนี้ ยังถามนายสมัครถึงมารยาทในการเซ็นต์สัญญารถดับเพลิงจำนวน 6,600ล้านบาท ว่าตัวนายสมัครเองไม่ได้เป็นผู้ว่าฯกทม.ที่มีอำนาจอย่างเต็มที่เพราะเป็นเพียงแค่รักษาการผู้ว่าฯกทม.เท่านั้น และในวันที่ 27 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. จึงฝากถามไปยังนายสมัครไปว่า โครงการฯ6,600ล้านทำไมต้องเซ็นต์เป็นวันสุดท้าย และโครงการนี้ผูกพันงบประมาณที่ยาวนานถึง 7 ปี
นายยุทธพงษ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากที่ได้อภิปรายในสภาเมื่อวานนี้ว่า ตอนนี้กำลังรวบรวมหกลักฐานทั้งหมดเพื่อนำไปให้ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ เพื่อตรวจสอบถึงความโปร่งใสในโครงการดังกล่าว และเห็นว่าโครงการใหญ่ๆแบบนี้ควรแล้วหรือคนที่มีความรู้สึกมีมารยาททางการเมือง ก็ควรที่จะรอให้ผู้ว่าฯคนใหม่มาตัดสินใจในโครงการนี้ ไม่ใช่ว่าเห็นเป็นวันสุดท้ายก็ได้รีบร้อนดำเนินการ
“และที่ผมได้ติดตามเรื่องนี้ ก็ได้ติดตามมาอย่างต่อเนื่องทุกระยะถึงแม้ว่า ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่จะมาจากไหน มาจากปชป.หรือไม่ ผมก็จะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป และเรื่องตรงนี้ผมถือว่าผมได้ทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นตัวแทนของประชาชน ทำหน้าที่ในการปกป้องเงินภาษีอากรของพี่น้องประชาชนครับ”ส.ส.มหาสารคาม กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-
วันนี้(4 ก.ย. 47)เวลา 11.00น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การพิจารณางบประมาณมาตรา 17 ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ที่ได้ขอเสนอให้ลดงบประมาณของกรุงเทพฯ ในโครงการพัฒนาระบบบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพฯ โครงการจัดซื้อรถดับเพลิงจากประเทศออสเตรียจำนวน 6,600ล้านบาท เห็นว่าเป็นโครงการที่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดิน หากจะเซ็นต์อนุมัติโครงการฯต้องคิดด้วยว่าเป็นงบประมาณแผ่นดินเป็นเงินของประชาชนทั้งประเทศ
“ขอย้ำนะครับว่าประเทศออสเตรีย ที่อยู่ยุโรปนะครับ มูลค่าจำนวน 6,687ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ต้องใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน เงินภาษีของพี่น้องประชาชน กระผมในฐานะที่เป็นตัวแทนของประชาชน ถึงต้องทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้ มันไม่ใช่ว่าใครไม่เซ็นต์ก็โง่อย่างที่ท่านอดีตผู้ว่าฯกล่าวและเงินจำนวน 6,600ล้านบาทมันไม่ใช่เงินส่วนตัวของตัวท่านเอง”นายยุทธพงษ์ กล่าว
นายยุทธพงษ์ ยังกล่าวด้วยว่า ตนได้ติดตามโครงการนี้มาตั้งแต่ช่วงที่มีการเสนอโครงการนี้ แล้วในงบประมาณวาระ 1 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ก็ได้อภิปรายเรื่องนี้ไปแล้ว และสาเหตุที่ตนต้องติดตามในเรื่องนี้ก็เพราะว่า เมื่อเปรียบเทียบกับราคาข้าวหอมมะลิที่มีราคาตกต่ำของพี่น้องภาคอีสานกับการประหยัดงบประมาณแผ่นดินได้จำนวน 6,600ล้าน โดยนำมาช่วยพี่น้องเกษตรกรภาคอีสานที่กำลังเดือดร้อนในขณะนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี แล้วนำเงิน6,600ล้านไปช่วยพี่น้องประชาชนภาคอีสานในการปลดหนี้จะเป็นเรื่องที่ดีกว่าการที่จะนำเงินงบประมาณส่วนนี้ไปซื้อรถดับเพลิงที่เกินความเป็นจริงมาก
“ส่วนกรณีที่อดีตผู้ว่าฯสมัคร สุนทรเวช บอกให้ตนไปส่องกระจก เช้าวันนี้ผมก็ได้ส่องกระจกและบังเอิญบ้านผมเป็นกระจกพิเศษครับ มีไว้ปราบทุจริตไม่เห็นหน้าผมหรอกครับ ส่องแล้วเห็นโจรปล้นแผ่นดินครับ เห็นหน้าคุ้นๆ ผมนึกได้ ผมเห็นหน้าตาคุ้น ผมถึงได้ไล่ตามเอาเงินภาษีของประชาชนมาคืนให้กับประเทศชาติ ผมขอเรียนท่านสมัครไว้ว่า เรื่องทุจริต มันไม่มีมวยคนละรุ่นหลอกครับ และเรื่องหน้าที่มันก็ไม่มีการแบ่งรุ่นครับผมจึงต้องขอเรียนท่านสมัครที่ผมต้องติดตามเรื่องงบรถดับเพลิงจำนวน6,600บาทเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของแผ่นดินปกป้องเงินภาษีของประชาชน”นายยุทธพงษ์ กล่าว
นายยุทธพงษ์ ยังกล่าวย้ำว่า ตนเป็นผู้ติดตามการทุจริต ติดตามเอาภาษีของประชาชนคืนให้กับประเทศชาติ และเรื่องมวยคนละรุ่นเห็นว่ามันคงไม่มี หรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเซ็นต์อนุมัติหรือไม่เซ็นต์อนุมัติก็ไม่ใช่สิ่งที่จะออกมาบอกว่าโง่หรือไม่โง่ ทั้งนี้ตนเห็นว่าหากมีความเป็นไปได้ ขอร้องให้ท่านสมัครกรุณาออกรายการทีวีกับตน ถ้าข้อเท็จจริงทั้งหมดเรื่องรถดับเพลิง6,600ล้าน
ทั้งนี้ส.ส.มหาสารคาม กล่าวตอนท้ายว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีชาวกรุงเทพฯนำกระดาษทิชชู่มาให้ และบอกว่าให้ตนนำกระดาษทิชชู่ไปให้นายสมัครเช็ดปาก เวลารับประทานอาหารในรายการชิมไปบ่นไป จะได้ไม่เลอะเทอะ ชาวบ้านเห็นแล้วมันไม่ดี อย่างไรก็ตามนายยุทธพงษ์ยืนยันว่า จะต้องตามหาตัวนายสมัครให้เจอให้ได้เพราะพี่น้องชาวกรุงเทพฯเขาฝากมา เพราะตนเป็นคนที่ฝากมาให้ใครก็ต้องเอาไปให้คนนั้น
นอกจากนี้ ยังถามนายสมัครถึงมารยาทในการเซ็นต์สัญญารถดับเพลิงจำนวน 6,600ล้านบาท ว่าตัวนายสมัครเองไม่ได้เป็นผู้ว่าฯกทม.ที่มีอำนาจอย่างเต็มที่เพราะเป็นเพียงแค่รักษาการผู้ว่าฯกทม.เท่านั้น และในวันที่ 27 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. จึงฝากถามไปยังนายสมัครไปว่า โครงการฯ6,600ล้านทำไมต้องเซ็นต์เป็นวันสุดท้าย และโครงการนี้ผูกพันงบประมาณที่ยาวนานถึง 7 ปี
นายยุทธพงษ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากที่ได้อภิปรายในสภาเมื่อวานนี้ว่า ตอนนี้กำลังรวบรวมหกลักฐานทั้งหมดเพื่อนำไปให้ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ เพื่อตรวจสอบถึงความโปร่งใสในโครงการดังกล่าว และเห็นว่าโครงการใหญ่ๆแบบนี้ควรแล้วหรือคนที่มีความรู้สึกมีมารยาททางการเมือง ก็ควรที่จะรอให้ผู้ว่าฯคนใหม่มาตัดสินใจในโครงการนี้ ไม่ใช่ว่าเห็นเป็นวันสุดท้ายก็ได้รีบร้อนดำเนินการ
“และที่ผมได้ติดตามเรื่องนี้ ก็ได้ติดตามมาอย่างต่อเนื่องทุกระยะถึงแม้ว่า ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่จะมาจากไหน มาจากปชป.หรือไม่ ผมก็จะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป และเรื่องตรงนี้ผมถือว่าผมได้ทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นตัวแทนของประชาชน ทำหน้าที่ในการปกป้องเงินภาษีอากรของพี่น้องประชาชนครับ”ส.ส.มหาสารคาม กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-