‘โฆษกพรรคประชาธิปัตย์’ ตั้งข้อสังเกต รัฐบาลตี 2 หน้า เล่นละครหลอกตา’ปชช.’ แนะรัฐบาลคำนึงถึงผลกระทบ ในการแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ที่ให้ศาลมีอำนาจในการตัดสิน ‘ชี้’ สิ่งที่รัฐควรทำ ณ ขณะนี้คือ สนับสนุนการทำหน้าที่ของกกต.ให้เข้มแข็งมากกว่าการเล่นละคร
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ให้ศาลมีอำนาจตัดสิน ให้ใบเหลือง หรือ ใบ แดง กับผู้สมัคร รับเลือกตั้ง ซึ่งจากการออกมาเคลื่อนไหวของ วิปรัฐบาล กับกรณีที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องต้องให้กกต.เห็นชอบหรือไม่อย่างไรนั้น ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ขอตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลกำลัง เล่นบทตี 2 หน้า ในเรื่องของการแก้ไขกฎหายดังกล่าว โดยให้อำนาจศาลในการตัดสินให้ใบเหลือง ใบแดง แทนที่จะเป็นอำนาจของกกต.
สาเหตุที่พรรคฯมีข้อสังเกตเช่นนี้เพราะว่าวิปรัฐบาลได้ออกมาแถลงข่าวบอกว่า ขณะนี้ได้เตรียมที่จะเสนอกฎหมายแก้ไข พ.ร.บ.การเลือกตั้ง เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร และจะแก้ไข 3 วาระ ให้เสร็จ ภายใน วันเดียว ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงเป้นพวกมากลากไปในสภาฯ กฎหมายใดที่เข้าสู่สภา แล้วผ่าน 3 วาระรวด เป็นไปไม่ได้ที่วิปรัฐบาลจะไม่ประสานงาน กับนายกฯ หรือรัฐบาลก่อน พฤติกรรมดังกล่าวจึงน่าจะเป็นการเล่นบทตี 2 หน้าของรัฐบาล
จึงอยากถามรัฐบาลว่า กำลังเล่นละครหลอกประชาชน หรือไม่ และการเล่นละครดังกล่าวมุ่งหวังอะไร เพราะเป็นที่ทราบดีรัฐบาลนี้ พยายามจะเข้าไปแทรกแซงการทำงานขององค์กรอิสระตลอดมา นับแต่การสรรหาผู้เข้าไปทำหน้าที่ในองค์กรอิสระ เพราะฉะนั้นการพยายามแก้ไขกฎหมายใดๆ รัฐบาลควรคำนึงถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน และการแก้ไขปัญหาต้องเป็นไปอย่างถาวร
สิ่งที่รัฐบาลควรจะดำเนินการ คือการเข้าไปสนับสนุนให้กกต.สามารถทำงานได้อย่างเข้มแข็ง และจริงจัง โดยเฉพาะให้กกต.เข้าไปดำเนินการกับการซื้อสิทธิ ขายเสียงอย่างมีคุณภาพ ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าที่ผ่านมา กกต. ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือในการดำเนินงาน หากรัฐบาลได้สนันสนุน กกต.เต็มที่แล้ว กกต.ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทะภาพ วันนั้นจึงควรมาพูดถึงการแก้กฎหมาย ดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 5 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ให้ศาลมีอำนาจตัดสิน ให้ใบเหลือง หรือ ใบ แดง กับผู้สมัคร รับเลือกตั้ง ซึ่งจากการออกมาเคลื่อนไหวของ วิปรัฐบาล กับกรณีที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องต้องให้กกต.เห็นชอบหรือไม่อย่างไรนั้น ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ขอตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลกำลัง เล่นบทตี 2 หน้า ในเรื่องของการแก้ไขกฎหายดังกล่าว โดยให้อำนาจศาลในการตัดสินให้ใบเหลือง ใบแดง แทนที่จะเป็นอำนาจของกกต.
สาเหตุที่พรรคฯมีข้อสังเกตเช่นนี้เพราะว่าวิปรัฐบาลได้ออกมาแถลงข่าวบอกว่า ขณะนี้ได้เตรียมที่จะเสนอกฎหมายแก้ไข พ.ร.บ.การเลือกตั้ง เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร และจะแก้ไข 3 วาระ ให้เสร็จ ภายใน วันเดียว ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงเป้นพวกมากลากไปในสภาฯ กฎหมายใดที่เข้าสู่สภา แล้วผ่าน 3 วาระรวด เป็นไปไม่ได้ที่วิปรัฐบาลจะไม่ประสานงาน กับนายกฯ หรือรัฐบาลก่อน พฤติกรรมดังกล่าวจึงน่าจะเป็นการเล่นบทตี 2 หน้าของรัฐบาล
จึงอยากถามรัฐบาลว่า กำลังเล่นละครหลอกประชาชน หรือไม่ และการเล่นละครดังกล่าวมุ่งหวังอะไร เพราะเป็นที่ทราบดีรัฐบาลนี้ พยายามจะเข้าไปแทรกแซงการทำงานขององค์กรอิสระตลอดมา นับแต่การสรรหาผู้เข้าไปทำหน้าที่ในองค์กรอิสระ เพราะฉะนั้นการพยายามแก้ไขกฎหมายใดๆ รัฐบาลควรคำนึงถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน และการแก้ไขปัญหาต้องเป็นไปอย่างถาวร
สิ่งที่รัฐบาลควรจะดำเนินการ คือการเข้าไปสนับสนุนให้กกต.สามารถทำงานได้อย่างเข้มแข็ง และจริงจัง โดยเฉพาะให้กกต.เข้าไปดำเนินการกับการซื้อสิทธิ ขายเสียงอย่างมีคุณภาพ ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าที่ผ่านมา กกต. ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือในการดำเนินงาน หากรัฐบาลได้สนันสนุน กกต.เต็มที่แล้ว กกต.ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทะภาพ วันนั้นจึงควรมาพูดถึงการแก้กฎหมาย ดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 5 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-