เกษตรกรภาคใต้เรียกร้องเปิดเสรีสินค้าเกษตร....เชื่อ!!...มีศักยภาพแข่งขันในตลาดโลกได้

        นางอภิรดี ตันตราภรณ์   อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้กรมฯได้จัดสัมมนาและประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง  “  การเจรจาสินค้าเกษตรภายใต้ WTO และ FTA  ”   ณ   จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยผู้เข้าร่วมสัมมนาฯประกอบด้วยผู้แทนกลุ่มเกษตรกร  ชุมนุมสหกรณ์  หอการค้าจังหวัด  เจ้าหน้าที่ภาครัฐ จากกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้งในส่วนกลางและในเขตภาคใต้  วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับทราบถึงสาระสำคัญ และความคืบหน้าของการเจรจาสินค้าเกษตรรอบใหม่ขององค์การการค้าโลก และความคืบหน้าการเจรจาภายใต้กรอบการจัดทำเขตการค้าเสรี ระหว่างไทยกับประเทศคู่ค้าที่ได้ดำเนินการอยู่ขณะนี้ รวมทั้งร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น เพื่อกำหนดเป็นท่าทีเบื้องต้นของไทยในการเจรจาเปิดเสรีสินค้าเกษตรเป็นรายสินค้าสำคัญของภาคใต้ ได้แก่ ข้าว ปาล์มน้ำมัน สินค้าปศุสัตว์ (โคเนื้อ โคนม)ผักและผลไม้สดและแปรรูป มันสำปะหลัง และ กาแฟ 
        อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ  กล่าวต่อไปด้วยว่า กรมฯ ได้ประเมินผลการสัมมนาจากแบบสอบถาม พบว่าผู้เข้าร่วมสัมมนามากกว่าร้อยละ 76 เห็นว่าสินค้าเกษตรของไทยมีศักยภาพในการแข่งขันและพร้อมที่จะแข่งขันในตลาดโลกได้  ร้อยละ 67 เห็นด้วยว่าการเจรจาเปิดเสรีการค้าเกษตรจะช่วยให้การส่งออกสินค้าเกษตรขยายตัวเพิ่มมากขึ้น  ร้อยละ 67 เห็นว่าไทยควรผลักดันการเจรจาเปิดเสรีสินค้าเกษตรต่อไป ร้อยละ 48 ให้ความสำคัญกับการเจรจาลดภาษีและขยายโควตาภาษีเป็นลำดับแรก  ร้อยละ 23 ให้ความสำคัญกับการเจรจาลดการอุดหนุนส่งออก  ร้อยละ 20 ต้องการให้ประเทศกำลังพัฒนาได้สิทธิในเรื่องความยืดหยุ่นและข้อยกเว้นเป็นพิเศษ และร้อยละ 25 ให้ความสำคัญกับการเจรจาลดการอุดหนุนภายใน 
        สำหรับข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดเสรีสินค้าเกษตรของภาคใต้ ภายใต้การเจรจาของ WTO ที่ประชุมสนับสนุนการลดเลิกภาษีนำเข้าและโควตาภาษี ลดการอุดหนุนการผลิตภายในที่ประเทศร่ำรวยให้ความช่วยเหลือเกษตรกร รวมถึงการยกเลิกการอุดหนุนส่งออกที่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาสินค้าเกษตรที่ทำให้ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกตกต่ำ ในส่วนของการเจรจาจัดทำFTA แม้ว่าผู้เข้าร่วมการสัมมนาส่วนใหญ่จะสนับสนุนการเปิดเสรีสินค้าเกษตรต่อไป แต่ก็มีความกังวลในการเสรีสินค้าบางรายการที่มีความอ่อนไหวโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปาล์มน้ำมัน  กาแฟ  นม และผลิตภัณฑ์นม และโคเนื้อ โดยขอให้ขยายเวลาปรับตัวเพื่อให้มีความพร้อมก่อนการเปิดเสรีเต็มรูปแบบต่อไป  
        “กรมฯ จะนำผลที่ได้จากการสัมมนาในครั้งนี้ไปประมวลรวมกับผลสรุปการสัมมนาที่จะจัดขึ้นแล้วในภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางก่อนที่จะนำเสนอนำเสนอต่อระดับนโยบายเพื่อกำหนดเป็นท่าทีการเจรจาของไทยในการเจรจาสินค้าเกษตรรอบใหม่ภายใต้ WTO และ FTA ต่อไป ”  อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ  กล่าว
        กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-