นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการแถลงผลการประชุมวิปฝ่ายค้าน ถึงกรณีที่ รองประธานสภาฯ ออกมาเสนอให้แก้ไขกฎหมายประกอบด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ สว. ควรเป็นหน้าที่ของ องค์กรอิสระโดยเฉพาะกกต. นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนในเรื่องนี้มาตลอด การแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอย่างน้อยที่สุดควรจะได้ริเริ่มโดยองค์กรอิสระ และในส่วนของกกต.ก็เหมือนกัน ตนได้สอบถามจากเลขาธิการกกต. ซึ่งได้ข้อมูลว่า ขณะนี้กกต.ได้รวบรวมประเด็นต่างๆในการที่จะขอแก้ไขกฎหมายไว้เบื้องต้นแล้ว รอที่จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกกต. โดยคิดว่าตรงนี้เป็นขั้นตอนที่น่าจะรับได้ ถือเป็นการริเริ่มโดยคณะกรรมการองค์กรอิสระ
ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่ากรณีที่สว.จะเป็นผู้ริเริ่มในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ท่านมีสิทธิ์ริเริ่ม เพราะว่าสว.ก็เป็นตัวแทนของประชาชน และเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเลือกตั้ง เพียงแต่ไม่อยู่ในฐานะที่จะเสนอกฎหมายได้ ทั้งหมดนี้จะ ต้องดูในเนื้อหาสาระอีกว่า ประเด็นที่ว่าคืออะไร ทั้งนี้รื่องดังกล่าวต้องไปจบที่รัฐบาลว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ ถ้ารัฐบาลไม่เอาด้วยก็แก้ยาก เพราะว่ารัฐบาลกุมเสียงข้างมาก ทั้งในส่วนสภาผู้แทนราษฎร และในรัฐสภา แต่เท่าที่ฟังเสียงของท่านนายกฯเข้าใจว่า ท่านไม่ต้องการที่จะให้แก้ไข ซึ่งมีคำถามตามออกมาว่าเพราะอะไร ตนจึงคิดว่าท่านคงจะพอใจกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ‘ขณะที่วิปรัฐบาลบอกว่าจะเสนอแก้กฎหมาย ท่านนายกฯบอกว่าไม่ควรแก้ไขกฎหมาย แต่ทั้งหมดก็ไปจบที่ท่านายกฯ เพราะว่าวิปรัฐบาลก็ต้องฟังท่านอยู่แล้ว’ นายจุรินทร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าบุคคลในรัฐบาลมีส่วนในการปั่นหุ้น ปธ.วิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เรื่องนี้ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก ตนอยากจะเตือนนักลงทุนรายย่อยว่า ต้องระมัดระวังในการเข้าไปซื้อหุ้นบางตัว รวมถึงการไปเป็นเครื่องมือของการหาประโยชน์ของนักลงทุนรายใหญ่ ในหุ้นบางตัวที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย
สำหรับกรณีการออกมาเปิดโปงเรื่องการปั่นหุ้นในขณะนี้ ซึ่งสังคมต้องการเห็นว่า จะมีการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร มากกว่า การที่นายกฯออกมาปฏิเสธด้วยวาจาว่า ไม่จริง ไม่มีใครคิด ไม่มีใครทำ เพราะเร็วเกินไปที่จะออกมาปฏิเสธ ทั้งนี้พรรคก็ได้ติดตามเรื่องดังกล่าวอยู่ เพราะเป็นประเด็นที่ละเลยไม่ได้
สำหรับเรื่องการใช้ตลาดหุ้น หรือตลาดหลักทรัพย์ แสวงหาผลประโยชน์ เป็นเรื่องที่มีการพูดมาเป็นลำดับ เพียงแต่การที่จะนำเอาเอกสารหลักฐานมาเปิดเผยต่อสาธารณะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีกฎหมายควบคุมอยู่ และการกระทำดังกล่าวก็แยบยลมาก สิ่งที่ตนชี้แจงคือเรื่องที่มันจะกระทบต่อสังคม แล้วก็ภาพของตลาดทุน ตลาดหุ้นของประเทศ เป็นหลัก ในส่วนของ กลต. มีหน้าที่ตามกฎหมายในการเข้าไปตรวจสอบดูแลอยู่แล้ว ถ้าไม่ทำก็เหมือนกับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 7 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-
ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่ากรณีที่สว.จะเป็นผู้ริเริ่มในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ท่านมีสิทธิ์ริเริ่ม เพราะว่าสว.ก็เป็นตัวแทนของประชาชน และเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเลือกตั้ง เพียงแต่ไม่อยู่ในฐานะที่จะเสนอกฎหมายได้ ทั้งหมดนี้จะ ต้องดูในเนื้อหาสาระอีกว่า ประเด็นที่ว่าคืออะไร ทั้งนี้รื่องดังกล่าวต้องไปจบที่รัฐบาลว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ ถ้ารัฐบาลไม่เอาด้วยก็แก้ยาก เพราะว่ารัฐบาลกุมเสียงข้างมาก ทั้งในส่วนสภาผู้แทนราษฎร และในรัฐสภา แต่เท่าที่ฟังเสียงของท่านนายกฯเข้าใจว่า ท่านไม่ต้องการที่จะให้แก้ไข ซึ่งมีคำถามตามออกมาว่าเพราะอะไร ตนจึงคิดว่าท่านคงจะพอใจกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ‘ขณะที่วิปรัฐบาลบอกว่าจะเสนอแก้กฎหมาย ท่านนายกฯบอกว่าไม่ควรแก้ไขกฎหมาย แต่ทั้งหมดก็ไปจบที่ท่านายกฯ เพราะว่าวิปรัฐบาลก็ต้องฟังท่านอยู่แล้ว’ นายจุรินทร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าบุคคลในรัฐบาลมีส่วนในการปั่นหุ้น ปธ.วิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เรื่องนี้ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก ตนอยากจะเตือนนักลงทุนรายย่อยว่า ต้องระมัดระวังในการเข้าไปซื้อหุ้นบางตัว รวมถึงการไปเป็นเครื่องมือของการหาประโยชน์ของนักลงทุนรายใหญ่ ในหุ้นบางตัวที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย
สำหรับกรณีการออกมาเปิดโปงเรื่องการปั่นหุ้นในขณะนี้ ซึ่งสังคมต้องการเห็นว่า จะมีการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร มากกว่า การที่นายกฯออกมาปฏิเสธด้วยวาจาว่า ไม่จริง ไม่มีใครคิด ไม่มีใครทำ เพราะเร็วเกินไปที่จะออกมาปฏิเสธ ทั้งนี้พรรคก็ได้ติดตามเรื่องดังกล่าวอยู่ เพราะเป็นประเด็นที่ละเลยไม่ได้
สำหรับเรื่องการใช้ตลาดหุ้น หรือตลาดหลักทรัพย์ แสวงหาผลประโยชน์ เป็นเรื่องที่มีการพูดมาเป็นลำดับ เพียงแต่การที่จะนำเอาเอกสารหลักฐานมาเปิดเผยต่อสาธารณะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีกฎหมายควบคุมอยู่ และการกระทำดังกล่าวก็แยบยลมาก สิ่งที่ตนชี้แจงคือเรื่องที่มันจะกระทบต่อสังคม แล้วก็ภาพของตลาดทุน ตลาดหุ้นของประเทศ เป็นหลัก ในส่วนของ กลต. มีหน้าที่ตามกฎหมายในการเข้าไปตรวจสอบดูแลอยู่แล้ว ถ้าไม่ทำก็เหมือนกับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 7 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-