นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สรุปผลการดำเนินการบริหาร จัดการหนี้ของภาครัฐประจำเดือนสิงหาคม 2547 และในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2547 (ตุลาคม 2546 - สิงหาคม 2547) พร้อมทั้งสถานะหนี้สาธารณะล่าสุด ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2547 ดังนี้
1. การปรับโครงสร้างหนี้ของภาครัฐ
ในเดือนสิงหาคม 2547 :-
ด้านในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF1) ที่ครบกำหนดเมื่อเดือนมิถุนายน วงเงิน 40,000 ล้านบาท โดยได้ออกพันธบัตรในเดือนนี้ 2,500 ล้านบาท เพื่อคืนบัญชีเงินฝากจากเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้
ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2547 :-
ด้านต่างประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระคืนเงินกู้ต่างประเทศก่อนครบกำหนดในวงเงินรวม 4,766 ล้านบาท ทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้ 4,766 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยในอนาคตได้ 1,207 ล้านบาท และได้ Roll Over เงินกู้ ECP (Euro Commercial Paper) 395 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 15,850 ล้านบาท ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยได้ 375 ล้านบาท นอกจากนั้นได้ Refinance เงินกู้ธนาคารพัฒนาเอเชียและธนาคารโลกโดยวิธีการออกตราสารอัตราดอกเบี้ยลอยตัว วงเงิน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 39,500 ล้านบาท ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยได้ 3,950 ล้านบาท
สำหรับรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ต่างประเทศเป็นวงเงินรวม 59,055 ล้านบาท โดย 1) การชำระคืนก่อนกำหนด 17,384 ล้านบาท 2) การ Refinance 31,267 ล้านบาท ซึ่งเป็นการ Refinance เงินกู้ต่างประเทศด้วยเงินบาท 25,478 ล้านบาท และ 3) การ Roll Over จำนวนรวม 10,404 ล้านบาท ผลจากการดำเนินการดังกล่าวทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้ 17,384 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยได้ 7,646 ล้านบาท
ด้านในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF1) วงเงินรวม 90,000 ล้านบาท ด้วยการชำระคืนเงินต้น 3,747 ล้านบาท จากกำไรสุทธิที่ธนาคารแห่งประเทศไทยนำส่งสมทบกองทุนชำระคืนต้นเงินกู้ และได้ทำการ Roll Over ส่วนที่เหลือจำนวน 86,253 ล้านบาท โดยเป็นพันธบัตร 55,000 ล้านบาท ตั๋วปรับโครงสร้างหนี้ 25,000 ล้านบาท และเงินกู้ระยะสั้น 6,253 ล้านบาท และชำระคืนพันธบัตรกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน (FIDF2) ที่ครบกำหนด 22,000 ล้านบาท รวมทั้งการชำระคืนยอดหนี้อันเกิดจากการตั้งบัญชีเงินทดรองจ่ายอีก 315 ล้านบาท นอกจากนั้น กระทรวงการคลังได้ไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1) ก่อนครบกำหนดในวงเงิน 25,075 ล้านบาท ทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้ 25,075 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ย 6,305 ล้านบาท ส่วนรัฐวิสาหกิจได้ทำการกู้เงินในประเทศเพื่อการ Roll Over หนี้เดิมรวม 17,000 ล้านบาท และเพื่อการ Refinance หนี้ต่างประเทศรวม 24,100 ล้านบาท
2. การกู้เงินของภาครัฐ
ในเดือนสิงหาคม 2547 :-
กระทรวงการคลังได้ออกออกพันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF3) รวม 80,500 ล้านบาท โดยเป็นพันธบัตรออมทรัพย์ อายุ 7 ปี และ 10 ปี รวม 70,000 ล้านบาท และพันธบัตรรัฐบาลกรณีพิเศษ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ครั้งที่ 4 6,000 ล้านบาท และครั้งที่ 5 4,500 ล้านบาท รวม 10,500 ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศด้วยการออกพันธบัตร 3,250 ล้านบาท ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 1,450 ล้านบาท และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 1,800 ล้านบาท
ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2547 :-
กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศไปแล้วทั้งสิ้น 178,500 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 43,000 ล้านบาท และการออกพันธบัตร FIDF3 135,500 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศ 26,908 ล้านบาท และกู้เงินจากต่างประเทศตามแผนก่อหนี้ 21,096 ล้านบาท
3. การชำระหนี้ของรัฐบาล
ในเดือนสิงหาคม 2547 :-
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณ 6,338 ล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้น 5,140 ล้านบาท และดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 1,198 ล้านบาท
ในช่วง 11 เดือนผ่านมาของปีงบประมาณ 2547 :-
กระทรวงการคลังได้ชำระหนี้จากงบประมาณรวมทั้งสิ้น 93,704 ล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้น 22,219 ล้านบาท และดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 71,485 ล้านบาท
สถานะหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2547
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2547 มีจำนวน 2,932,228 ล้านบาท หรือร้อยละ 45.30 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 1,653,479 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 866,963 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 411,786 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 13,683 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงลดลง 38,649 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 19,796 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯเพิ่มขึ้น 32,536 ล้านบาทหนี้สาธารณะจำแนกได้เป็นหนี้ต่างประเทศ 662,316 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.59 และหนี้ในประเทศ 2,269,911 ล้านบาท หรือร้อยละ 77.41 และเป็นหนี้ระยะยาว 2,384,834 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.33 และหนี้ระยะสั้น 547,394 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.67 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง รายละเอียดตาม ตารางที่แนบ
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 69/2547 8 กันยายน 2547--
1. การปรับโครงสร้างหนี้ของภาครัฐ
ในเดือนสิงหาคม 2547 :-
ด้านในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF1) ที่ครบกำหนดเมื่อเดือนมิถุนายน วงเงิน 40,000 ล้านบาท โดยได้ออกพันธบัตรในเดือนนี้ 2,500 ล้านบาท เพื่อคืนบัญชีเงินฝากจากเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้
ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2547 :-
ด้านต่างประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระคืนเงินกู้ต่างประเทศก่อนครบกำหนดในวงเงินรวม 4,766 ล้านบาท ทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้ 4,766 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยในอนาคตได้ 1,207 ล้านบาท และได้ Roll Over เงินกู้ ECP (Euro Commercial Paper) 395 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 15,850 ล้านบาท ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยได้ 375 ล้านบาท นอกจากนั้นได้ Refinance เงินกู้ธนาคารพัฒนาเอเชียและธนาคารโลกโดยวิธีการออกตราสารอัตราดอกเบี้ยลอยตัว วงเงิน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 39,500 ล้านบาท ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยได้ 3,950 ล้านบาท
สำหรับรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ต่างประเทศเป็นวงเงินรวม 59,055 ล้านบาท โดย 1) การชำระคืนก่อนกำหนด 17,384 ล้านบาท 2) การ Refinance 31,267 ล้านบาท ซึ่งเป็นการ Refinance เงินกู้ต่างประเทศด้วยเงินบาท 25,478 ล้านบาท และ 3) การ Roll Over จำนวนรวม 10,404 ล้านบาท ผลจากการดำเนินการดังกล่าวทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้ 17,384 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยได้ 7,646 ล้านบาท
ด้านในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF1) วงเงินรวม 90,000 ล้านบาท ด้วยการชำระคืนเงินต้น 3,747 ล้านบาท จากกำไรสุทธิที่ธนาคารแห่งประเทศไทยนำส่งสมทบกองทุนชำระคืนต้นเงินกู้ และได้ทำการ Roll Over ส่วนที่เหลือจำนวน 86,253 ล้านบาท โดยเป็นพันธบัตร 55,000 ล้านบาท ตั๋วปรับโครงสร้างหนี้ 25,000 ล้านบาท และเงินกู้ระยะสั้น 6,253 ล้านบาท และชำระคืนพันธบัตรกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน (FIDF2) ที่ครบกำหนด 22,000 ล้านบาท รวมทั้งการชำระคืนยอดหนี้อันเกิดจากการตั้งบัญชีเงินทดรองจ่ายอีก 315 ล้านบาท นอกจากนั้น กระทรวงการคลังได้ไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1) ก่อนครบกำหนดในวงเงิน 25,075 ล้านบาท ทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้ 25,075 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ย 6,305 ล้านบาท ส่วนรัฐวิสาหกิจได้ทำการกู้เงินในประเทศเพื่อการ Roll Over หนี้เดิมรวม 17,000 ล้านบาท และเพื่อการ Refinance หนี้ต่างประเทศรวม 24,100 ล้านบาท
2. การกู้เงินของภาครัฐ
ในเดือนสิงหาคม 2547 :-
กระทรวงการคลังได้ออกออกพันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF3) รวม 80,500 ล้านบาท โดยเป็นพันธบัตรออมทรัพย์ อายุ 7 ปี และ 10 ปี รวม 70,000 ล้านบาท และพันธบัตรรัฐบาลกรณีพิเศษ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ครั้งที่ 4 6,000 ล้านบาท และครั้งที่ 5 4,500 ล้านบาท รวม 10,500 ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศด้วยการออกพันธบัตร 3,250 ล้านบาท ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 1,450 ล้านบาท และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 1,800 ล้านบาท
ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2547 :-
กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศไปแล้วทั้งสิ้น 178,500 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 43,000 ล้านบาท และการออกพันธบัตร FIDF3 135,500 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศ 26,908 ล้านบาท และกู้เงินจากต่างประเทศตามแผนก่อหนี้ 21,096 ล้านบาท
3. การชำระหนี้ของรัฐบาล
ในเดือนสิงหาคม 2547 :-
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณ 6,338 ล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้น 5,140 ล้านบาท และดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 1,198 ล้านบาท
ในช่วง 11 เดือนผ่านมาของปีงบประมาณ 2547 :-
กระทรวงการคลังได้ชำระหนี้จากงบประมาณรวมทั้งสิ้น 93,704 ล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้น 22,219 ล้านบาท และดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 71,485 ล้านบาท
สถานะหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2547
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2547 มีจำนวน 2,932,228 ล้านบาท หรือร้อยละ 45.30 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 1,653,479 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 866,963 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 411,786 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 13,683 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงลดลง 38,649 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 19,796 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯเพิ่มขึ้น 32,536 ล้านบาทหนี้สาธารณะจำแนกได้เป็นหนี้ต่างประเทศ 662,316 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.59 และหนี้ในประเทศ 2,269,911 ล้านบาท หรือร้อยละ 77.41 และเป็นหนี้ระยะยาว 2,384,834 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.33 และหนี้ระยะสั้น 547,394 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.67 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง รายละเอียดตาม ตารางที่แนบ
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 69/2547 8 กันยายน 2547--