สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎรการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ ฉบับที่ ๒๔

ข่าวการเมือง Thursday September 9, 2004 11:42 —รัฐสภา

ฉบับที่ ๒๔
สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘
วันพฤหัสบดีที่ ๒ กันยายน ๒๕๔๗
เวลา ๑๗.๓๐ - ๑๘.๓๐ นาฬิกา
นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ กรรมาธิการ ได้ตอบชี้แจงในเรื่องงบประมาณ กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ที่ได้รับงบประมาณ ๒,๖๓๗,๕๕๒,๕๐๐ บาท ( สองพันหกร้อยสามสิบเจ็ดล้านห้าแสนห้าหมื่นสองพันห้าร้อยบาท) และกรรมาธิการได้ปรับลดลง ๑๖๑ ล้านบาท โดยกล่าวว่า เนื่องจากการดำเนินงานล่าช้ากว่าแผนที่ได้กำหนดไว้ และตามที่ได้มีสมาชิกอภิปรายถึงการใช้งบประมาณในการขุดลอกคลองถึง ๑๓๘ ล้านบาท โดยหากกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีดำเนินการขุดลอกเองจะใช้ งบประมาณเพียง ๓๘ ล้านบาทเท่านั้น ขอชี้แจงว่า เนื่องจากมีข้อจำกัดในด้านเครื่องมือ เครื่องจักร ค่าเสื่อมราคา และความยากลำบากในพื้นที่ดำเนินการ จึงจำเป็นต้องจ้างเหมาตามงบประมาณดังกล่าว
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ตอบชี้แจงประเด็น การตั้งงบประมาณในโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษสายสมุทรสาคร-แหลมผักเบี้ย-อำเภอชะอำ (สะพานทะเล) ที่ตั้งงบประมาณถึง ๖,๔๐๐ ล้านบาท ดังนี้
๑. โครงการนี้รัฐบาลได้ดำเนินการเป็นขั้นตอนเริ่มตั้งแต่รับข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ที่ได้ทำการพิจารณาศึกษาถึงผลกระทบของสิ่งแวดล้อม และความเป็นไปได้ในทุกด้านตลอดจนข้อมูลด้านเทคนิคและความคุ้มทุนแล้วจึงส่งข้อมูลให้กับกรมทางหลวงไปตั้ง งบประมาณ เพื่อเสนอให้รัฐบาลพิจารณาเห็นชอบ
๒. กรณีการก่อสร้างสะพานลงในทะเล ที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้แสดงความคิด
เห็นว่า ควรจะสร้างบนบกดีกว่านั้น จากการพิจารณาศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความคุ้มทุนใน
ทุกด้านของ สนข. แล้วพบว่า การก่อสร้างในทะเลเหมาะสมที่สุด
๓. กรณีการตั้งงบประมาณล่วงหน้าร้อยละ ๑๕ ให้กับบริษัทเอกชนที่จะเข้ามาทำงานนั้น
อาจจะก่อให้เกิดการทุจริตขึ้นได้ ขอชี้แจงว่า ได้มีหลักเกณฑ์ป้องกันไว้ด้วยการให้บริษัทเอกชนทำหนังสือ ค้ำประกันในการเบิกจ่ายเงินล่วงหน้าร้อยละ ๑๕ ไว้ด้วย เพื่อให้บริษัทเอกชนสามารถมีกำลังจะดำเนินงานได้ และถ้าจะมองว่าการทำงานโครงการใหญ่ ๆ จะต้องมีการทุจริตเสมอนั้น ก็อาจจะเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศได้ แต่ก็จะนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของกรรมาธิการเสียงข้างน้อยไปพิจารณา
๔. กรณีที่อาจจะไม่สามารถใช้เงินงบประมาณได้ทันกรมทางหลวงได้ชี้แจงมาแล้วว่า
สามารถดำเนินการได้ทันโดยในเดือนมีนาคม ๒๕๔๘ จะสามารถออกแบบได้แล้วเสร็จ เดือนเมษายนจะ
ดำเนินการประกวดราคา เดือนมิถุนายนลงนามในสัญญาและเดือนกรกฎาคม เริ่มดำเนินการก่อสร้างได้
ซึ่งบริษัทเอกชนที่เข้ามาดำเนินการจะได้รับเงินในการก่อสร้างงวดแรกในเดือนสิงหาคมด้วย
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรค
ประชาธิปัตย์ กรรมาธิการเสียงข้างน้อย ได้อภิปรายในกรณีมีบางประเด็นเรื่อง วิธีการประมูลงาน โดยไม่อยากให้มีการยื่นซองประมูลแบบ ๒ ซอง และควรเปิดซองพร้อมกันทั้งหมด และในโครงการใหญ่ ๆ หลายโครงการควรจะมีการปรับลดเงินล่วงหน้าให้เหลือเพียงร้อยละ ๕ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงเรื่อง
การประมูลแบบ ๒ ซองนั้นเป็นไปตามระเบียบของทางราชการที่จะต้องนำไปปฏิบัติ
นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบุรี พรรค
ประชาธิปัตย์ อภิปรายประเด็นการก่อสร้างทางหลวงพิเศษสายสมุทรสาคร-แหลมผักเบี้ย-อำเภอชะอำ
(สะพานทะเล) ขณะนี้เกิดความวิตกกังวลของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ๆ โดยรอบและใกล้เคียงว่าจะได้รับ
ผลกระทบจากโครงการดังกล่าว ในขณะเดียวกันก็มีทางเลือกแล้ว คือ การขยายถนนเพชรเกษมและ
ถนนพระราม ๒ ซึ่งก็ใช้งบประมาณน้อยกว่าด้วย จึงอยากทราบว่ามีความจำเป็นอะไร ที่จะต้องสร้าง
สะพานทะเล
เมื่อสมาชิกฯ ได้อภิปรายและกรรมาธิการได้ตอบชี้แจงในมาตรา ๑๒ พอสมควรแล้วที่
ประชุมได้ลงมติเห็นชอบกับกรรมาธิการเสียงข้างมากด้วยคะแนน ๒๖๑ เสียง
จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาต่อในมาตรา ๑๓ ซึ่งเป็นงบประมาณของกระทรวง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีสมาชิกฯ ได้อภิปรายอย่างกว้างขว้างดังนี้
นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบุรี พรรค
ประชาธิปัตย์ ได้แปรญัตติตัดงบประมาณลงร้อยละ ๑๐ เนื่องจากเห็นว่าเกิดความไม่โปร่งใสดังนี้
๑. โครงการที่จะสร้างโรงกลั่นน้ำมันคอนแดนเซทที่ตำบลบางแก้ว อำเภอบ้านแหลม
จังหวัดเพชรบุรี ชาวบ้านได้มีการคัดค้านโครงการดังกล่าว ซึ่งต่อมาจังหวัดเพชรบุรีได้ประกาศนโยบาย
กำหนดให้อำเภอบ้านแหลมเป็นเขตปลอดการก่อสร้างอุตสาหกรรมปิโตรเคมี แต่ภายหลังเมื่อมีการ
เปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีและคณะกรรมการบางคน การศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมกลับเห็นชอบให้
ก่อสร้างได้จึงอยากทราบว่า กรรมาธิการมีการสอบถามถึงประเด็นนี้หรือไม่ เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการ
ปฏิบัติต่อไป
๒. โครงการดูแลป่าชายเลน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในหมู่ที่ ๑ ตำบลแหลมผักเบี้ย
จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นโครงการตามพระราชดำริและเป็นป่าชายเลนที่สมบูรณ์ แต่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติกลับไปปลูกต้นแสมดำ และป่าโกงกาง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการบริหารจัดการ
งบประมาณที่ส่งผลลบให้แก่ชุมชน และราษฎรได้ร้องเรียนมาจึงขอปรับลดงบประมาณลงร้อยละ ๑๐
นายนคร มาฉิม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขอปรับลดงบประมาณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงร้อยละ ๑๐ ในหน่วยงาน
ดังนี้
๑. กรมควบคุมมลพิษ ซึ่งพบว่าไม่ได้ใส่ใจเข้าไปกำกับดูแลและการนำเข้าสารพิษจาก
ต่างประเทศ โดยพบว่ามีการใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง ในพืชผลการเกษตรเพิ่มมากขึ้นทุกปีและเกษตรกร
ต้องรับภาระในขณะเดียวกันสารพิษต่าง ๆ เหล่านี้ก็ซึมเข้าไปในพืชผล เมื่อนำไปบริโภคก็ได้รับสารพิษเข้า
ไปด้วย กรมควบคุมมลพิษไม่ได้เข้าไปตรวจสอบหรือรณรงค์ให้เกษตรกรลดการใช้สารเคมีแต่อย่างใด
๒. กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช อยากทราบเหตุผลที่กรรมาธิการปรับลดงบ
ประมาณของหน่วยงานนี้ลงร้อยละ ๑๐ เนื่องจากเป็นกรมที่ตั้งขึ้นใหม่ น่าจะได้รับงบประมาณมากกว่านี้
และในหน่วยงานนี้ก็มีประเด็นปัญหาประชาชนที่อาศัยทำมาหากินในพื้นที่เขตแนวป่าอุทยานถูกจับกุมจาก
เจ้าหน้าที่จนเกิดกรณีพิพาทกันขึ้นนั้น อยากให้รัฐบาลเพิกถอนเขตป่าสงวน เพื่อประชาชนได้อยู่อาศัย
ทำมาหากิน และให้เร่งรัดออกเอกสารสิทธิ์ให้แก่ประชาชน เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับ
เจ้าหน้าที่ของรัฐ สำหรับการเก็บอัตราค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติค่อนข้างสูง อยากจะให้มีการปรับ
ลดลง รวมทั้งการกันแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกายังไม่ชัดเจน ก่อให้เกิดปัญหา ในช่วงฤดูฝน
ที่ประชาชนจะต้องนำสัตว์ไปเลี้ยง บริเวณเขตอุทยาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปจับกุมและนำสัตว์เลี้ยงไปเก็บไว้
เป็นของกลางแล้วสัตว์เกิดหายไป ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน จึงอยากให้มีการผ่อนปรนแนวเขต
อุทยานในช่วงฤดูฝน
นายวินัย เสนเนียม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์
ได้อภิปรายในประเด็นที่สงวนความเห็นไว้ ในส่วนของกรมป่าไม้และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนี้
๑. กรมป่าไม้ ในด้านอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ ขณะนี้กำลังประสบปัญหาไม่มี
งานทำ ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงมีงานอยู่มากมาย เช่น การแปรรูป การนำไม้เคลื่อนที่ ซึ่งรัฐบาลไม่สนใจที่
จะแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
๒. สำนักงานนโยบายและแผนฯ ขอปรับลดงบประมาณลงร้อยละ ๑๐ เนื่องจากความ
ไม่พร้อมของหน่วยงานและการดำเนินงานที่ไม่มีวิสัยทัศน์ โดยขณะนี้มีหน่วยงานท้องถิ่นเกิดขึ้นมากมาย
ที่ไม่มีประสบการณ์ในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักนโยบานและแผนฯ ควรเข้าไป
ทำหน้าที่เป็นที่เลี้ยงในการรักษาสิ่งแวดล้อม
สำหรับแผนงานส่งเสริมและพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในส่วนของเงินอุดหนุน
เฉพาะกิจ ในเรื่องระบบการกำจัดขยะมูลฝอยและการกำจัดน้ำเสียที่มีการของบประมาณมากมาย ทำให้
เกิดปัญหา เมื่อก่อสร้างแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ถึงร้อยละ ๕๐ โดยปีนี้ยังได้รับอนุมัติงบประมาณอีกถึง ๒๙
โครงการ ไม่ทราบว่ากรรมาธิการได้สอบถามถึงเรื่องในอดีตที่ทำมาแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือไม่ จึงขอเสนอ
แนะว่า ควรจะมีการจัดเก็บรายได้ จากผู้ที่ก่อมลพิษ เพื่อนำมาเป็นค่าใช้บริหารจัดการภายในชุมชน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ