ฉบับที่ ๓๐
สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘
วันศุกร์ที่ ๓ กันยายน ๒๕๔๗
เวลา ๑๐.๓๐ - ๑๑.๓๐ นาฬิกา
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรค ไทยรักไทย อภิปรายขอปรับลดงบประมาณในส่วนของ
๑. กรมโยธาธิการและผังเมืองขอปรับลดจำนวนร้อยละ ๑๕ ในส่วนของแผนงานพัฒนาเมือง เรื่องงานวางและจัดทำผังเมือง ซึ่งปัจจุบันการจัดวางผังเมืองเป็นหน้าที่ของท้องถิ่น โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองจะเป็นผู้กำกับดูแล การจัดทำผังเมืองของกรุงเทพมหานครนั้นได้หมดอายุลงเมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๔๗ แต่ยังไม่มีการประกาศใช้ผังเมืองใหม่ เนื่องจากประสบปัญหาในเรื่องขั้นตอนการ จัดทำและประชาพิจารณ์ โดยผังเมืองใหม่มีผู้ร้องค้านถึง ๘,๐๐๐ ราย ขอถามกรรมาธิการว่า ได้มีการสอบถามรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวหรือไม่
๒. กรุงเทพมหานครได้อภิปรายในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
๑. แผนงานขนส่งทางบก เหตุใดจึงไม่มีโครงการก่อสร้างถนนสายบางชัน-พระยาสุเรนท์และถนนสายหทัยราษฎร์ ซึ่งมีความสำคัญเพราะเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับสนามบินสุวรรณภูมิรวมอยู่แผนงานด้วย เรื่องการติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิด CCTV ตามแยกต่าง ๆ ที่ดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จ เพราะยังไม่ได้ต่อเชื่อมไปยังสัญญาณจราจรที่อยู่ในความดูแลของกรมทางหลวงไม่ทราบว่ากรรมาธิการได้ศึกษา รายละเอียดหรือไม่
๒. แผนงานส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวในเรื่องเงินอุดหนุนไม่มีความชัดเจน อีกทั้งผลที่ได้รับก็ไม่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยวหรือเรื่องสินค้า OTOP ที่ไม่มีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน
นอกจากนี้ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า แผนงานจัดการศึกษาปฐมวัย ซึ่งมีปัญหาในเรื่องการจัดการศึกษาศูนย์เด็กเล็ก ทั้งที่สังกัดกรุงเทพมหานครและของเอกชน ต่างก็ประสบกับปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์ที่จำเป็น รวมทั้งนมสำหรับนักเรียน ตลอดจนเงินเดือนครูอาสาที่ได้รับอยู่ในปัจจุบันก็ไม่เพียงพอ
นางสาวรังสิมา รอดรัศมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขอปรับลดงบประมาณในมาตรา ๑๔ กระทรวงมหาดไทย ลงจำนวน ๒๕,๗๑๘, ๒๙๐,๗๒๕ บาท (สองหมื่นห้าพันเจ็ดร้อยสิบแปดล้านสองแสนเก้าหมื่นเจ็ดร้อยยี่สิบห้าบาท) โดยได้อภิปรายว่า รายละเอียดการจัดสรรงบประมาณที่ได้รับนั้นไม่มีรายละเอียดเพียงพอ และมีประเด็นอภิปรายอื่น ๆ ดังนี้
๑. หอประชุมอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งก่อสร้างมาแล้ว ๓๓ ปี เป็นอาคารไม้
ปัจจุบันนี้อยู่ในสภาพไม่สามารถใช้การได้ เหตุใดจึงยังไม่ได้รับงบประมาณในการซ่อมแซมหรือก่อสร้างใหม่
๒. เขื่อนหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง ในปี ๒๕๔๗ ได้รับงบประมาณ ๑๕ ล้านบาท แต่ถูก
กรรมาธิการตัดลงเหลือเพียง ๑๐ ล้านบาท ทำให้ไม่สามารถก่อสร้างให้แล้วเสร็จได้ ซึ่งส่งผลให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อน
๓. เหตุใดโครงการก่อสร้างถนนคลองโคน-คลองช่วงจึงถูกตัดงบประมาณจนทำให้ไม่
สามารถดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จได้ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
ว่าที่ร้อยตรี ไพโรจน์ สุวรรณฉวี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา พรรคไทยรักไทย รองประธานคณะกรรมาธิการการวิสามัญ คนที่หก ได้ชี้แจงดังนี้
๑. โครงการHome Solar Cell ที่ตั้งงบประมาณไว้ ๘,๐๐๐ ล้านบาท แต่กรรมาธิการ ปรับลดลงเหลือ ๔,๐๐๐ ล้านบาท สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมให้มีการใช้พลังงาน ทดแทน ซึ่งเป็นผลจากน้ำมันมีราคาแพง และเหตุผลอีกประการหนึ่งคือ การปักเสา และเดินสายไฟฟ้า ในบางพื้นที่ไม่สามารถกระทำได้ โดยรัฐบาลต้องดำเนินโครงการให้เสร็จสิ้นในปี ๒๕๔๘ ซึ่งการดำเนินการได้แบ่งเป็น ๒ ระยะคือ ระยะแรกปี ๒๕๔๗ จะติดตั้งให้กับประชาชน ๑๕๓,๐๐๐ ครัวเรือน ใช้งบประมาณ ๔,๐๐๐ ล้านบาท ระยะที่สอง ปี ๒๕๔๘ จะติดตั้งอีก ๑๓๐,๐๐๐ ครัวเรือน ใช้งบประมาณ ๓,๐๐๐ ล้านบาท สำหรับในระยะแรก ๑๕๓,๐๐๐ ครัวเรือนได้ดำเนินอนุมัติแล้ว แต่การติดตั้งยังไม่แล้วเสร็จ ส่วนในระยะที่สอง คณะกรรมาธิการจะรอการประเมินผลในระยะแรกก่อนจึงอนุมัติให้ติดตั้งเพียง ๕๐,๐๐๐ ครัวเรือน
๒. ทางด่วนข้อมูลระยะที่ ๓ ราคากลางที่ตั้งไว้ ๗๑๕ ล้านบาท เป็นราคาที่สูงกว่าวงเงิน งบประมาณ เพราะได้มีการกำหนดราคากลางก่อนอนุมัติวงเงินงบประมาณ ซึ่งได้มีการประมูลและ เซ็นสัญญาในวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๔๗ ซึ่งต่ำกว่าราคากลาง ๑๕ ล้าน ๘ แสนบาท คิดเป็นร้อยละ ๒.๒๑ โดยจะเป็นงบผูกพันตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ -๒๕๔๙ ดังนี้ ๒๕๔๗ จำนวน ๑๔๐ ล้านบาท ๒๕๔๘ จำนวน ๒๘๐ ล้านบาท และปี ๒๕๔๙ จำนวน ๒๘๐ ล้านบาท
๓. สำหรับเรื่องสำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนนั้น กรรมาธิการยังไม่ได้พิจารณา เนื่องจากในปี ๒๕๔๘ ยังไม่มีงบประมาณ แต่จะมีงบประมาณในปี ๒๕๔๙ - ๒๕๕๓
๔. โครงการหมู่บ้าน S,M,L นั้น ขณะนี้เพิ่งจะริเริ่ม โดยโครงการดังกล่าวยังไม่ได้ตั้งงบใน ปี ๒๕๔๘ และอยู่ในขั้นตอนการตั้งคณะกรรมการพิจารณา ส่วนโครงการนำร่องจะนำงบประมาณอื่นมาใช้ เช่น อาจมีการขอจากงบกลาง ซึ่งหากมีข้อสงสัยให้สอบถามกับสำนักงบประมาณได้
๕. กรมโยธาธิการและผังเมืองนั้น การจัดทำผังเมืองล่าช้าจะให้กรมโยธาธิการและผังเมืองนำรายละเอียดมาให้ เรื่องถนนสายบางชัน-พระยาสุเรนท์ และถนนสายหทัยราษฎร์ กรุงเทพมหานครแจ้งว่าการออกแบบยังไม่เรียบร้อยและจะบรรจุลงในงบประมาณปี ๒๕๔๙ สำหรับเงินอุดหนุนเพื่อส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวปีก่อนได้รับงบประมาณไปทั้งสิ้น ๒,๐๐๐ ล้านบาท แต่จากการตรวจสอบกรุงเทพใช้เพียงร้อยละ ๖ ปีนี้ จึงถูกปรับลดลงเหลือ ๑,๐๐๐ ล้านบาท ส่วนเรื่องสินค้า OTOP กรุงเทพจะใช้เงินจากงบประมาณของคณะกรรมการกระจายอำนาจ เรื่องของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กกรุงเทพนั้นเป็นการใช้เงินอุดหนุนของตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับงบประมาณที่ได้รับ
ต่อข้อถามของสมาชิกถึงเรื่องการสร้างเขื่อนหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงครามนั้น ขอชี้แจงว่า
๑. ปีงบประมาณนี้นั้นไม่มีการกำหนดเรื่องเงินอุดหนุนเฉพาะกิจเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา
น้ำท่วมเอาไว้และเรื่องนี้อยู่ในความดูแลของคณะกรรมการกระจายอำนาจ จึงขอให้ติดต่อกับคณะกรรมการ
กระจายอำนาจโดยตรง
๒. เงินอุดหนุนยุทธศาสตร์ พัฒนาประเทศ ๓,๒๐๐ ล้าน สำหรับ ๓,๐๐๐ องค์กร มี ๓๖๓
โครงการปรับลดไป ๗๐๐ ล้านบาท ที่เหลืออีก ๒,๐๐๐ โครงการจะใช้เงินเหลือ
๓. การสร้างหอประชุมนั้นไม่สามารถจัดสรรงบประมาณระบุเจาะจงได้ เพราะผู้ที่จะจัดลำดับความสำคัญว่าโครงการใดมีความจำเป็นและสมควรที่จะได้รับการอนุมัติก่อนหรือหลังคือกระทรวงมหาดไทย ดังนั้นขอให้ติดต่อกับอธิบดีกรมการปกครองโดยตรง