ฉบับที่ ๓๓
สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘
วันศุกร์ที่ ๓ กันยายน ๒๕๔๗
เวลา ๑๓.๓๐ - ๑๔.๓๐ นาฬิกา
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายขอให้ตัดลดงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน ๑,๕๐๐ ล้านบาท ในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างไม่เป็นไปตามระเบียบของกระทรวงการคลัง พ.ศ. ๒๕๓๕ แต่กลับใช้ระเบียบของกระทรวงมหาดไทยซึ่งมีช่องว่างของกฎหมายทำให้ง่ายต่อการสุจริต ในขณะที่สมาชิก องค์กรส่วนท้องถิ่นไม่เข้าใจในระเบียบข้างต้น ทำให้เสี่ยงต่อการทำผิดระเบียบ นอกจากนี้สมาชิก องค์กรท้องถิ่นเสียงข้างมาก มักจะใช้อำนาจหรืออิทธิพลเพื่อทำให้พรรคพวกตนเองเป็นผู้ชนะ การประมูล จัดซื้อจัดจ้าง จากนั้นได้ฝากข้อสังเกตเกี่ยวกับการตั้งงบประมาณในหลายเรื่อง คือ
๑. เหตุใดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงได้รับงบประมาณเพิ่มเติม
๒. การใช้งบประมาณ ๑๐ ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบราชการแบบบูรณาการนั้นมี
รายละเอียดอย่างไร
๓. งบประมาณของกรุงเทพมหานครนั้นควรเน้นเรื่องประสิทธิภาพและเหมาะสมกับ
สัดส่วนในนโยบายที่จำเป็นเร่งด่วน โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่า
- การแก้ไขจราจรควรวางระบบให้เป็นเครือข่ายเชื่อมโยงและกระจาย รถออกด้านข้างของเส้นทางหลัก
- การจัดงบเพื่อการศึกษาของกรุงเทพฯ ได้จัดทำแผนงานไว้อย่างไร
- การอบรมวิชาชีพระยะสั้น เหตุใดไม่สร้างตลาดรองรับสินค้าที่เกิดจากการ อบรมให้ประชาชนมีรายได้
- การจัดซื้อวิทยุสื่อสารให้กับตำรวจดับเพลิง เพื่อใช้กับการแก้ไข สถานการณ์เพลิงไหม้ให้ทันท่วงที
นางพิชญ์สินี มุ่งฝากกลาง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมาพรรคไทยรักไทย อภิปรายขอตัดลดงบประมาณลงร้อยละ ๕ ในส่วนของการดูแลทุกข์สุข การแก้ไขปัญหาการร้องเรียนของประชาชนที่ไร้ประสิทธิภาพ การจัดทำข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของประชาชนในตำบลหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา ทำให้ประชาชนเสียสิทธิ์ในการเลือกตั้งระดับต่าง ๆ การถ่ายโอน งบประมาณให้กับองค์การส่วนท้องถิ่นจำนวนมาก ทำให้เกิดการฮั้วกันระหว่างผู้ประมูลการก่อสร้าง ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณไม่คุ้มค่าการเก็บภาษีราษฎร
นายไพโรจน์ สุวรรณฉวี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา พรรคไทยรักไทย ในฐานะกรรมาธิการ ได้อภิปรายตอบชี้แจง และจะมอบเอกสารรายละเอียดให้ภายหลังจากการชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
๑. ระบบงบประมาณ CEO จัดให้สอดคล้องกับกลุ่มยุทธศาสตร์ กลุ่มจังหวัด เฉลี่ย
๒๐-๒๕ ล้านบาท ขึ้นอยู่กับจำนวนประชากร
๒. กรณีการย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงเป็นผู้ตรวจราชการนั้น เนื่องจากจะได้ช่วย
กระทรวงในการควบคุมดูแลหลายจังหวัดภาคใต้
๓. การจัดสรรงบเพื่อการซื้อรถยนต์ให้กับองค์กรส่วนท้องถิ่นนั้น รัฐบาลตระหนักดีว่า
จะคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของราชการอย่างแน่นอน
๔. สถานการณ์ความไม่สงบของภาคใต้นั้น คาดว่าปีหน้าทุกอย่างคงดีขึ้น เพราะ
จะใช้นโยบายเศรษฐกิจนำความมั่นคง
๕. ปีนี้ได้ตั้งงบประมาณให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นในทุกโครงการอยู่แล้ว
เพื่อให้การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นเกิดผลสำเร็จ