นายนคร มาฉิม กระทู้ถามสด รมว.พาณิชย์ ถึงสถานการณ์ราคาข้าวโพดตกต่ำ ทำให้มีหนี้สินต่อครัวเรือนสูงขึ้น ชี้ หลังการตรวจสอบ มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากต่างประเทศ โดยมีบริษัทรายใหญ่ในเครือรัฐบาลได้ประโยชน์ทันที แต่คนที่เสียประโยชน์คือประชาชน
นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กระทู้ถามสด นายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถึงราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่กำลังตกต่ำในขณะนี้ว่า ขณะนี้มีพี่น้องประชาชนที่ทำไร่ข้าวโพดทั่วประเทศประมาณ 400,000 ครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีฐานะยากจน มีหนี้สินต่อครัวเรือนสูงมาก โดยประเทศไทยมีพื้นที่การปลูกข้าวโพดประมาณ 7.9 ล้านไร่ ผลผลิตรวมประมาณ 4.5 ล้านแสนตัน/ปี โดยเฉลี่ยที่ผลิตได้ภายในประเทศถือว่าเป็นขนาดกลางประมาณ 566 กิโลกรัม/ไร่ ต้นทุนการผลิตที่สำนักงานเศรษฐกิจของกระทรวงพาณิชย์ได้ทำสถิติไว้ เช่น ค่าปุ๋ย ค่าไถ ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าแรง ค่าที่ดิน เป็นต้น อยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท / ไร่ แต่ในปัจจุบันราคาน้ำมันและราคาปุ๋ยสูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้ต้นทุนในปัจจุบันจะอยู่ที่ราคาไม่น้อยกว่า 2,500 บาท / ไร่ แต่ราคาขายที่ขายได้ 2.80 — 3.50 บาท / ก.ก. ทำให้พี่น้องเกษตรกรที่ทำไร่ข้าวโพดในปัจจุบันจะขาดทุนทันที 500 — 1,000 บาท โดยที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวและนำมาขาย
นายนคร กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า มีผู้ประกอบการผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลได้กดดันกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้เปิดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากต่างประเทศ อาทิ เขมร ลาว เวียดนาม และพม่า โดยมีมติ ครม. เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 47 ให้นำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 5 แสนตัน โดยไม่เก็บภาษี หลังจากนั้นราคาข้าวโพดในประเทศก็ตกต่ำลง ตนจึงอยากถามว่าใครได้ประโยชน์ ใครเสียประโยชน์จากการนำเข้าผลิตภัณฑ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากต่างประเทศ นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ได้มีมติออกมาเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2547 ว่าเกษตรกรจะได้รับการดูแลจากรัฐบาล โดยจะรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ชนิดเม็ด ในระดับความชื้นต่างๆ เฉลี่ยแล้วเกษตรกรจะได้ถังละประมาณ 50 บาท ขณะที่ต้นทุนการผลิตอยู่ที่ถังละ 60 — 70 บาท ดังนั้นเกษตรกรก็อยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นขอให้ รมต.เสนอรัฐบาลเพื่อหาเงินมาพยุงราคา หรือรับจำนำข้าวโพดจากเกษตรกรในฤดูกาลเก็บเกี่ยวนี้ที่ 6 บาท / ก.ก. ขึ้นไปได้หรือไม่ และขอให้ รมต.เสนอ ครม. เพื่อมีมติยกเลิกการนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้านได้หรือไม่ เพราะต้นทุนการผลิตต่างกันมาก
‘จากการนำเข้าข้าวโพดครั้งนี้ บริษัทรายใหญ่ในเครือรัฐบาลได้ประโยชน์ทันที โดยจะได้กำไรทันที 2 พันล้านบาท และจากการที่ราคาผลผลิตของเกษตรกรลดลงจาก 7 บาท เป็น 3 บาท บริษัทจะได้รับกำไร 1หมื่นล้านบาท รวมแล้วการทุบราคาครั้งนี้จะได้กำไรไม่น้อยกว่า 12,000 ล้านบาท แต่คนที่เสียประโยชน์คือเกษตรกร 400,000 ครัวเรือน ที่ได้รับผลกระทบอย่างยิ่งใหญ่’ นายนครกล่าว
ซึ่งนายวัฒนา ได้ชี้แจงว่า มีการขอมติ ครม. เพื่อให้มีการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากต่างประเทศ 5 แสนตันจริง แต่ไม่มีใครมากดดันใดๆทั้งสิ้น นายนครจึงถามต่อว่า หากไม่มีการกดดัน ทำไมจึงมีมติ ครม. ในเรื่องนี้ออกมา นอกจากนั้นยังมีการให้นำเข้าทันที และประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันเดียวกัน คือ วันที่ 15 ก.ค. ทำให้เกษตรกรยังเดือดร้อนอยู่ การที่รัฐบาลรับจำนำข้าวโพดยังไม่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ จึงอยากขอความมั่นใจทั้งจากรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ให้ช่วยเหลือเกษตรกรให้มากกว่านี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 9 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-
นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กระทู้ถามสด นายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถึงราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่กำลังตกต่ำในขณะนี้ว่า ขณะนี้มีพี่น้องประชาชนที่ทำไร่ข้าวโพดทั่วประเทศประมาณ 400,000 ครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีฐานะยากจน มีหนี้สินต่อครัวเรือนสูงมาก โดยประเทศไทยมีพื้นที่การปลูกข้าวโพดประมาณ 7.9 ล้านไร่ ผลผลิตรวมประมาณ 4.5 ล้านแสนตัน/ปี โดยเฉลี่ยที่ผลิตได้ภายในประเทศถือว่าเป็นขนาดกลางประมาณ 566 กิโลกรัม/ไร่ ต้นทุนการผลิตที่สำนักงานเศรษฐกิจของกระทรวงพาณิชย์ได้ทำสถิติไว้ เช่น ค่าปุ๋ย ค่าไถ ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าแรง ค่าที่ดิน เป็นต้น อยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท / ไร่ แต่ในปัจจุบันราคาน้ำมันและราคาปุ๋ยสูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้ต้นทุนในปัจจุบันจะอยู่ที่ราคาไม่น้อยกว่า 2,500 บาท / ไร่ แต่ราคาขายที่ขายได้ 2.80 — 3.50 บาท / ก.ก. ทำให้พี่น้องเกษตรกรที่ทำไร่ข้าวโพดในปัจจุบันจะขาดทุนทันที 500 — 1,000 บาท โดยที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวและนำมาขาย
นายนคร กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า มีผู้ประกอบการผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลได้กดดันกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้เปิดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากต่างประเทศ อาทิ เขมร ลาว เวียดนาม และพม่า โดยมีมติ ครม. เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 47 ให้นำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 5 แสนตัน โดยไม่เก็บภาษี หลังจากนั้นราคาข้าวโพดในประเทศก็ตกต่ำลง ตนจึงอยากถามว่าใครได้ประโยชน์ ใครเสียประโยชน์จากการนำเข้าผลิตภัณฑ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากต่างประเทศ นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ได้มีมติออกมาเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2547 ว่าเกษตรกรจะได้รับการดูแลจากรัฐบาล โดยจะรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ชนิดเม็ด ในระดับความชื้นต่างๆ เฉลี่ยแล้วเกษตรกรจะได้ถังละประมาณ 50 บาท ขณะที่ต้นทุนการผลิตอยู่ที่ถังละ 60 — 70 บาท ดังนั้นเกษตรกรก็อยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นขอให้ รมต.เสนอรัฐบาลเพื่อหาเงินมาพยุงราคา หรือรับจำนำข้าวโพดจากเกษตรกรในฤดูกาลเก็บเกี่ยวนี้ที่ 6 บาท / ก.ก. ขึ้นไปได้หรือไม่ และขอให้ รมต.เสนอ ครม. เพื่อมีมติยกเลิกการนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้านได้หรือไม่ เพราะต้นทุนการผลิตต่างกันมาก
‘จากการนำเข้าข้าวโพดครั้งนี้ บริษัทรายใหญ่ในเครือรัฐบาลได้ประโยชน์ทันที โดยจะได้กำไรทันที 2 พันล้านบาท และจากการที่ราคาผลผลิตของเกษตรกรลดลงจาก 7 บาท เป็น 3 บาท บริษัทจะได้รับกำไร 1หมื่นล้านบาท รวมแล้วการทุบราคาครั้งนี้จะได้กำไรไม่น้อยกว่า 12,000 ล้านบาท แต่คนที่เสียประโยชน์คือเกษตรกร 400,000 ครัวเรือน ที่ได้รับผลกระทบอย่างยิ่งใหญ่’ นายนครกล่าว
ซึ่งนายวัฒนา ได้ชี้แจงว่า มีการขอมติ ครม. เพื่อให้มีการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากต่างประเทศ 5 แสนตันจริง แต่ไม่มีใครมากดดันใดๆทั้งสิ้น นายนครจึงถามต่อว่า หากไม่มีการกดดัน ทำไมจึงมีมติ ครม. ในเรื่องนี้ออกมา นอกจากนั้นยังมีการให้นำเข้าทันที และประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันเดียวกัน คือ วันที่ 15 ก.ค. ทำให้เกษตรกรยังเดือดร้อนอยู่ การที่รัฐบาลรับจำนำข้าวโพดยังไม่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ จึงอยากขอความมั่นใจทั้งจากรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ให้ช่วยเหลือเกษตรกรให้มากกว่านี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 9 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-