วันนี้ (12 ก.ย.47)เวลา 10.30น. ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองในขณะนี้ว่า ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ จะอยู่ในช่วงเวลา 90 วัน ซึ่งนับจากต้นเดือนตุลาคมไปจนถึงต้นเดือนมกราคม คือวันที่ 5 มกราคม จะเป็นวันสุดท้ายของสภาชุดนี้ ในช่วงเวลา 90 วันนี้ก็เป็นไปตามเงื่อนไขของกฎหมายของผู้ที่จะลงสมัครส.ส.จะต้องสังกัดพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียว
เพราะฉะนั้นขณะนี้ปรากฎว่า ความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองบางพรรคที่ ดูดส.ส.จากพรรคปชป.และพรรคการเมืองอื่นไปตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมานั้น ความเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ ก็ยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่น่าสนใจในการดูดในระยหลังนี้ นอกจากจะเป็นการดูดคนของพรรคปชป.เพื่อให้ลงสมัครส.สแล้ว ยังเป็นการดูดเพื่อไม่ให้ลงสมัครส.ส.อีกด้วย ซึ่งเรียกการดูดลักษณะนี้ว่า “เป็นการดูดเพื่อดอง” คนเหล่านั้นไว้ และเพื่อที่จะให้ผู้สมัครส.ส.ในนามของพรรคการเมืองอื่นนั้นได้รับการเลือกตั้งในการเลือกตั้งจะมีขึ้นในเร็วๆนี้
“ความพยายามในการดูดในลักษณะนี้ เกิดขึ้นในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลางของประเทศไทย มีความพยายามกดดันส.ส.ของพรรคที่อาจจะมีญาติพี่น้องหรือบุคคลในครอบครัวที่ประกอบธุรกิจ โดยมีความพยายามกดดันว่า ถ้ายังอยู่กับพรรคปชป.ต่อไปก็อาจจะมีความเดือดร้อนในเรื่องของการประกอบอาชีพ แต่ถ้าไปอยู่พรรคการเมืองอื่น ปัญหาที่จะเกิดขึ้นต่อการประกอบอาชีพก็อาจจะหมดไป”นายองอาจ กล่าวและว่า ความพยายามเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองบางพรรคในขณะนี้ ก็คงเป็นที่ชัดเจนว่า คงไม่มีเป้าหมายอื่นนอกจากเป้าหมายที่จะเข้าไปทดแทนจำนวนส.ส.ที่อาจจะลดลงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ปชป.ไม่หวั่นไหวต่อกระแสการดูด เรียกร้องอย่าใช้เงินเรียกคะแนนนิยมจากปชช.
นายองอาจ ยังกล่าวอีกว่า เนื่องจากขณะนี้กระแสคนรู้ทันรัฐบาลชุดนี้มีเพิ่มมากขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย รวมทั้งเป็นเพราะกระแสขาลงของรัฐบาลนั้น ได้แพร่กระจายออกไปเป็นที่รับรู้ของพี่น้องประชาชนในหลายระดับ อย่างไรก็ดีการพยายามเคลื่อนไหวในลักษณะการดูดหลายๆรูปแบบนี้ คงจะไม่สามารถทำให้พรรคประชาธิปัตย์หวั่นไหวได้ และทางพรรคประชาธิปัตย์เองก็พร้อมที่จะรับมือต่อความพยายามที่จะดำเนินการทางการเมืองนอกรูปแบบเช่นนี้
“หวังว่าพี่น้องประชาชน ควรจะมีส่วนลงโทษนักการเมืองหรือพรรคการเมืองใดก็ตามที่มีความพยายามที่จะใช้วีธีดูดส.ส.จากพรรคการเมืองอื่น ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ลงสมัครส.ส.หรือว่าดูดไปเพื่อให้เก็บส.ส.ท่านนั้นไว้ไม่ให้ลงสมัครก็ตาม เชื่อว่าประชาชนควรจะจับตาการใช้เงินเพื่อหวังผลทางการเมืองในขณะนี้อย่างเต็มที่”นายองอาจ กล่าว
นอกเหนือจากการดูดส.ส.ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาและกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้แล้ว ปรากฎว่าขณะนี้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทยการเคลื่อนไหวทางการเมืองของพรรคทรท.ก็เป็นการคลื่อนไหวที่ใช้เงินเป็นตัวตั้งในการหาคะแนนนิยมจากพี่น้องประชาชน ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับรายงานจากส.ส.และผู้สมัครส.ส.ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย ว่า มีความพยายามใช้เงินทั้งที่เป็นเงินที่ไปจากส่วนกลางที่ไม่ใช่งบประมาณแผ่นดิน และมีความพยายามใช้เงินที่เป็นงบประมาณแผ่นดินลงไปสร้างคะแนนนิยมในพื้นที่ทั่วประเทศหลายพื้นที่ การใช้เงินที่ไม่ใช่งบประมาณแผ่นดินก็ คือการซื้อของ ซื้ออาหาร ไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การซื้อข้าวสาร การนำข้าวสารจากกรมการค้าภายใน ไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนในหลายๆพื้นที่ทั่วประเทศไทย ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด “การใช้เงินงบประมาณแผ่นดินในการไปสร้างคะแนนนิยมนอกเหนือจากที่ท่านนายกฯนำไปหว่านในพื้นที่ต่างๆแล้ว ปรากฎว่าก็มีการใช้เงินงบประมาณ พาพี่น้องประชาชน ไปทัวร์ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆทั่วประเทศ โดยอ้างว่าเป็นการนำงบประมาณแผ่นดินไปใช้เพื่อการสัมมนาในเรื่องต่างๆ แต่ในความเป็นจริงก็เป็นที่เปิดเผยและรับรู้กันทั่วไปว่า ก็คือการนำเงินพาไปทัวร์มากกว่า”นายองอาจ กล่าวและว่า การเคลื่อนไหวในลักษณะเช่นนี้ นอกเหนือจากเป็นการเคลื่อนไหวที่เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตยที่ถูกต้องแล้ว ก็เป็นการเคลื่อนไหวที่มีส่วนในการทำลายระบอบประชาธิปไตยมากกว่า จึงอยากจะเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการดำเนินการใดๆที่ใช้เงินไปเพื่อประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้งในขณะนี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-
เพราะฉะนั้นขณะนี้ปรากฎว่า ความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองบางพรรคที่ ดูดส.ส.จากพรรคปชป.และพรรคการเมืองอื่นไปตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมานั้น ความเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ ก็ยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่น่าสนใจในการดูดในระยหลังนี้ นอกจากจะเป็นการดูดคนของพรรคปชป.เพื่อให้ลงสมัครส.สแล้ว ยังเป็นการดูดเพื่อไม่ให้ลงสมัครส.ส.อีกด้วย ซึ่งเรียกการดูดลักษณะนี้ว่า “เป็นการดูดเพื่อดอง” คนเหล่านั้นไว้ และเพื่อที่จะให้ผู้สมัครส.ส.ในนามของพรรคการเมืองอื่นนั้นได้รับการเลือกตั้งในการเลือกตั้งจะมีขึ้นในเร็วๆนี้
“ความพยายามในการดูดในลักษณะนี้ เกิดขึ้นในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลางของประเทศไทย มีความพยายามกดดันส.ส.ของพรรคที่อาจจะมีญาติพี่น้องหรือบุคคลในครอบครัวที่ประกอบธุรกิจ โดยมีความพยายามกดดันว่า ถ้ายังอยู่กับพรรคปชป.ต่อไปก็อาจจะมีความเดือดร้อนในเรื่องของการประกอบอาชีพ แต่ถ้าไปอยู่พรรคการเมืองอื่น ปัญหาที่จะเกิดขึ้นต่อการประกอบอาชีพก็อาจจะหมดไป”นายองอาจ กล่าวและว่า ความพยายามเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองบางพรรคในขณะนี้ ก็คงเป็นที่ชัดเจนว่า คงไม่มีเป้าหมายอื่นนอกจากเป้าหมายที่จะเข้าไปทดแทนจำนวนส.ส.ที่อาจจะลดลงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ปชป.ไม่หวั่นไหวต่อกระแสการดูด เรียกร้องอย่าใช้เงินเรียกคะแนนนิยมจากปชช.
นายองอาจ ยังกล่าวอีกว่า เนื่องจากขณะนี้กระแสคนรู้ทันรัฐบาลชุดนี้มีเพิ่มมากขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย รวมทั้งเป็นเพราะกระแสขาลงของรัฐบาลนั้น ได้แพร่กระจายออกไปเป็นที่รับรู้ของพี่น้องประชาชนในหลายระดับ อย่างไรก็ดีการพยายามเคลื่อนไหวในลักษณะการดูดหลายๆรูปแบบนี้ คงจะไม่สามารถทำให้พรรคประชาธิปัตย์หวั่นไหวได้ และทางพรรคประชาธิปัตย์เองก็พร้อมที่จะรับมือต่อความพยายามที่จะดำเนินการทางการเมืองนอกรูปแบบเช่นนี้
“หวังว่าพี่น้องประชาชน ควรจะมีส่วนลงโทษนักการเมืองหรือพรรคการเมืองใดก็ตามที่มีความพยายามที่จะใช้วีธีดูดส.ส.จากพรรคการเมืองอื่น ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ลงสมัครส.ส.หรือว่าดูดไปเพื่อให้เก็บส.ส.ท่านนั้นไว้ไม่ให้ลงสมัครก็ตาม เชื่อว่าประชาชนควรจะจับตาการใช้เงินเพื่อหวังผลทางการเมืองในขณะนี้อย่างเต็มที่”นายองอาจ กล่าว
นอกเหนือจากการดูดส.ส.ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาและกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้แล้ว ปรากฎว่าขณะนี้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทยการเคลื่อนไหวทางการเมืองของพรรคทรท.ก็เป็นการคลื่อนไหวที่ใช้เงินเป็นตัวตั้งในการหาคะแนนนิยมจากพี่น้องประชาชน ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับรายงานจากส.ส.และผู้สมัครส.ส.ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย ว่า มีความพยายามใช้เงินทั้งที่เป็นเงินที่ไปจากส่วนกลางที่ไม่ใช่งบประมาณแผ่นดิน และมีความพยายามใช้เงินที่เป็นงบประมาณแผ่นดินลงไปสร้างคะแนนนิยมในพื้นที่ทั่วประเทศหลายพื้นที่ การใช้เงินที่ไม่ใช่งบประมาณแผ่นดินก็ คือการซื้อของ ซื้ออาหาร ไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การซื้อข้าวสาร การนำข้าวสารจากกรมการค้าภายใน ไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนในหลายๆพื้นที่ทั่วประเทศไทย ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด “การใช้เงินงบประมาณแผ่นดินในการไปสร้างคะแนนนิยมนอกเหนือจากที่ท่านนายกฯนำไปหว่านในพื้นที่ต่างๆแล้ว ปรากฎว่าก็มีการใช้เงินงบประมาณ พาพี่น้องประชาชน ไปทัวร์ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆทั่วประเทศ โดยอ้างว่าเป็นการนำงบประมาณแผ่นดินไปใช้เพื่อการสัมมนาในเรื่องต่างๆ แต่ในความเป็นจริงก็เป็นที่เปิดเผยและรับรู้กันทั่วไปว่า ก็คือการนำเงินพาไปทัวร์มากกว่า”นายองอาจ กล่าวและว่า การเคลื่อนไหวในลักษณะเช่นนี้ นอกเหนือจากเป็นการเคลื่อนไหวที่เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตยที่ถูกต้องแล้ว ก็เป็นการเคลื่อนไหวที่มีส่วนในการทำลายระบอบประชาธิปไตยมากกว่า จึงอยากจะเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการดำเนินการใดๆที่ใช้เงินไปเพื่อประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้งในขณะนี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-