“องอาจ คล้ามไพบูลย์”ระบุรัฐบาลประกาศ 4 ปีแห่งการสร้าง อภิมหาโปรเจ็กยักษ์5แสนล้าน เป็นการระดมทุนลงขันก่อนการเลือกตั้ง หรือจะเป็น 4 ปี แห่งการทุจริต โดยกระตุ้นให้กลุ่มทุนและกลุ่มผู้รับเหมาที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลชุดนี้เร่งตัดสินใจลงขัน วางเป้าหมาย 400 เสียงเพื่อกุมอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
วันนี้ (12ก.ย.47)นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “นายกทักษิณคุยกับประชาชน” โดยระบุว่าอีก4 ปีข้างหน้าจะเป็นปีแห่งการสร้างอภิมหาโปรเจ็ก 5แสนล้านบาท และระบุว่า4 ปีที่ผ่านมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลชุดเดิมทำเอาไว้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอเรียนว่าผู้ที่สร้างปัญหาเศรษฐกิจไม่ใช่รัฐบาลนายชวน หลีกภัย แน่นอนซึ่งภาวะเศรษฐกิจดังกล่าวน่าจะเกิดจากการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณเองในสมัยที่เป็นรองนายกฯในรัฐบาลพลอ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกฯมากกว่า ซึ่งทำให้รัฐบาลนายชวนเข้ามาแก้ปัญหาจนสามารถแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง และรัฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิณได้เข้ามาเป็นรัฐบาล และเข้ามาใช้เงินในโครงการต่างๆได้อย่างเต็มที่
“คงไม่สามารถใช้เงินตามโครงการต่างๆที่ท่านประกาศไว้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการกองทุนหมู่บ้านก็ดี ไม่ว่าจะเป็นการพักหนี้เกษตรกร 3 ปีก็ดี หรือโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค จะเห็นได้ว่าล้วนแล้วแต่เป็นโครงการที่ใช้เงินจากสิ่งที่รัฐบาลของท่านนายกฯชวนช่วยแก้ไขปัญหาไว้ทั้งสิ้น ขณะนี้เมื่อท่านมาดูกับ 4 ปีข้างหน้าต่อไปนี้ซึ่งนายกฯประกาศว่า จะเป็น 4 ปีแห่งการสร้างนั้น ในส่วนของพรรคปชป.มองว่า 4 ข้างหน้าน่าจะเป็น 4 ปีแห่งการทุจริตอภิมหาโปรเจ็ก 5 แสนล้านมากกว่าจะเป็น 4 ปีแห่งการสร้าง”นายองอาจ กล่าว
นอกจากนี้ นายองอาจ ยังกล่าวอีกว่า การที่นายกฯประกาศว่า4 ปีข้างหน้าจะเป็น4ปีแห่งการสร้างนั้นพรรคประชาธิปัตย์มองว่าน่าจะเป็น4 ปีแห่งการทุจริต อภิมหาโปรเจ็ก5 แสนล้านมากกว่า เพราะถ้าดูจากการบริหารงานโครงการใหญ่ๆของรัฐบาลชุดนี้ มักจะมีข้อกล่าวหาในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนและการทุจริตเชิงนโยบาย รวมทั้งการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มธุรกิจให้กับพวกพ้องของคนในรัฐบาล ซึ่งโครงการที่อื้อฉาวที่สุดคือ โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ หรือสนามบินหนองงูเห่า ซึ่งมีมูลค่าประมษร 1.2แสนล้านบาท มีปัญหาในเรื่องของการทุจริตการเอื้อผลประโยชน์ให้กับพวกฟ้อง ซึ่งยังมีอีกหลายกรณีที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้อภิปรายในการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว และจะเห็นได้ว่ากรณีโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ ถ้าหากสังเกตให้ดีจะมีเพียงบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่เพียงบริษัทเดียว ที่มีรัฐมนตรีคนสำคัญในรัฐบาลชุดนี้ถือหุ้นอยู่ ได้รับงานก่อสร้างเกินครึ่งหนึ่งของโครงการมูลค่าเกือบ 1 แสนบ้านบาท
“การออกมาพูดเรื่องอภิมหาโปรเจ็ก5แสนล้านบาทครั้งนี้ถือเป็นการตีเกราะ เคาะกะลา เป็นแผนระดมทุนลงขันรับมือเลือกตั้งมากกว่า การประกาศโครงการใหญ่ๆในขณะนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นให้กลุ่มทุนและกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลชุดนี้เร่งตัดสินใจที่จะร่วมลงขัน สำหรับใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้เร็วขึ้น เพราะโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ และโครงการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคต่างๆที่รัฐบาลประกาศเอาไว้ล่วงหน้า ถือเป็นหลักประกันให้กลุ่มทุนหรือบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เคยได้ประโยชน์ตลอด4ปีที่ผ่านมารีบตัดสินใจเพื่อแลกกับเค้กก้อนใหญ่ที่จะไปรอแบ่งกันในวันข้างหน้า และให้ได้รับเสียงเลือกตั้งเกิน 400 เสียงเพื่อกุมอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมากกว่าเดิม จึงต้องเร่งระดมทุนระดมกระสุนใช้ในการเลือกตั้ง” นายองอาจ กล่าว โดยย้ำว่า การออกมาประกาศถึงอภิมหาโปรเจ็กของรัฐบาลสอดคล้องกับสิ่งที่รัฐบาลได้ประกาศก่อนหน้านี้ตลอดมา และวางเป้าหมายไว้ว่าจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เพราะฉะนั้น 4 ปีแห่งการสร้างโดยการประกาศของนายกฯ น่าจะเป็น 4 ปีแห่งการทุจริตอภิมหาโปรเจ็ก 5 แสนล้านมากกว่า
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-
วันนี้ (12ก.ย.47)นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “นายกทักษิณคุยกับประชาชน” โดยระบุว่าอีก4 ปีข้างหน้าจะเป็นปีแห่งการสร้างอภิมหาโปรเจ็ก 5แสนล้านบาท และระบุว่า4 ปีที่ผ่านมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลชุดเดิมทำเอาไว้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอเรียนว่าผู้ที่สร้างปัญหาเศรษฐกิจไม่ใช่รัฐบาลนายชวน หลีกภัย แน่นอนซึ่งภาวะเศรษฐกิจดังกล่าวน่าจะเกิดจากการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณเองในสมัยที่เป็นรองนายกฯในรัฐบาลพลอ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกฯมากกว่า ซึ่งทำให้รัฐบาลนายชวนเข้ามาแก้ปัญหาจนสามารถแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง และรัฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิณได้เข้ามาเป็นรัฐบาล และเข้ามาใช้เงินในโครงการต่างๆได้อย่างเต็มที่
“คงไม่สามารถใช้เงินตามโครงการต่างๆที่ท่านประกาศไว้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการกองทุนหมู่บ้านก็ดี ไม่ว่าจะเป็นการพักหนี้เกษตรกร 3 ปีก็ดี หรือโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค จะเห็นได้ว่าล้วนแล้วแต่เป็นโครงการที่ใช้เงินจากสิ่งที่รัฐบาลของท่านนายกฯชวนช่วยแก้ไขปัญหาไว้ทั้งสิ้น ขณะนี้เมื่อท่านมาดูกับ 4 ปีข้างหน้าต่อไปนี้ซึ่งนายกฯประกาศว่า จะเป็น 4 ปีแห่งการสร้างนั้น ในส่วนของพรรคปชป.มองว่า 4 ข้างหน้าน่าจะเป็น 4 ปีแห่งการทุจริตอภิมหาโปรเจ็ก 5 แสนล้านมากกว่าจะเป็น 4 ปีแห่งการสร้าง”นายองอาจ กล่าว
นอกจากนี้ นายองอาจ ยังกล่าวอีกว่า การที่นายกฯประกาศว่า4 ปีข้างหน้าจะเป็น4ปีแห่งการสร้างนั้นพรรคประชาธิปัตย์มองว่าน่าจะเป็น4 ปีแห่งการทุจริต อภิมหาโปรเจ็ก5 แสนล้านมากกว่า เพราะถ้าดูจากการบริหารงานโครงการใหญ่ๆของรัฐบาลชุดนี้ มักจะมีข้อกล่าวหาในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนและการทุจริตเชิงนโยบาย รวมทั้งการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มธุรกิจให้กับพวกพ้องของคนในรัฐบาล ซึ่งโครงการที่อื้อฉาวที่สุดคือ โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ หรือสนามบินหนองงูเห่า ซึ่งมีมูลค่าประมษร 1.2แสนล้านบาท มีปัญหาในเรื่องของการทุจริตการเอื้อผลประโยชน์ให้กับพวกฟ้อง ซึ่งยังมีอีกหลายกรณีที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้อภิปรายในการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว และจะเห็นได้ว่ากรณีโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ ถ้าหากสังเกตให้ดีจะมีเพียงบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่เพียงบริษัทเดียว ที่มีรัฐมนตรีคนสำคัญในรัฐบาลชุดนี้ถือหุ้นอยู่ ได้รับงานก่อสร้างเกินครึ่งหนึ่งของโครงการมูลค่าเกือบ 1 แสนบ้านบาท
“การออกมาพูดเรื่องอภิมหาโปรเจ็ก5แสนล้านบาทครั้งนี้ถือเป็นการตีเกราะ เคาะกะลา เป็นแผนระดมทุนลงขันรับมือเลือกตั้งมากกว่า การประกาศโครงการใหญ่ๆในขณะนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นให้กลุ่มทุนและกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลชุดนี้เร่งตัดสินใจที่จะร่วมลงขัน สำหรับใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้เร็วขึ้น เพราะโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ และโครงการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคต่างๆที่รัฐบาลประกาศเอาไว้ล่วงหน้า ถือเป็นหลักประกันให้กลุ่มทุนหรือบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เคยได้ประโยชน์ตลอด4ปีที่ผ่านมารีบตัดสินใจเพื่อแลกกับเค้กก้อนใหญ่ที่จะไปรอแบ่งกันในวันข้างหน้า และให้ได้รับเสียงเลือกตั้งเกิน 400 เสียงเพื่อกุมอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมากกว่าเดิม จึงต้องเร่งระดมทุนระดมกระสุนใช้ในการเลือกตั้ง” นายองอาจ กล่าว โดยย้ำว่า การออกมาประกาศถึงอภิมหาโปรเจ็กของรัฐบาลสอดคล้องกับสิ่งที่รัฐบาลได้ประกาศก่อนหน้านี้ตลอดมา และวางเป้าหมายไว้ว่าจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เพราะฉะนั้น 4 ปีแห่งการสร้างโดยการประกาศของนายกฯ น่าจะเป็น 4 ปีแห่งการทุจริตอภิมหาโปรเจ็ก 5 แสนล้านมากกว่า
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-