บรรจุภัณฑ์กระดาษ : แนวโน้มดี
ปี 2547 การขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ส่งผลให้ตลาดภายในประเทศมีความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษ (หีบ กล่อง ซอง ถุง) เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 9.4 เป็นมูลค่า 77,200 ล้านบาท ขณะที่ตลาดต่างประเทศแม้มีสัดส่วนไม่มาก แต่มีอัตราการขยายตัวสูง โดยเฉพาะในช่วง 10 เดือนแรกของปีมีมูลค่าส่งออก 3,206 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 17.7 ส่วนใหญ่ส่งไปยังไต้หวัน จีน และสหรัฐอเมริกา โดยจะมีมูลค่าส่งออกทั้งปีสูงถึง 3,700 ล้านบาท ส่งผลให้อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์กระดาษมีมูลค่าตลาดรวม 80,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ร้อยละ 9.7 จำแนกเป็นตลาดภายในประเทศร้อยละ 95 และตลาดต่างประเทศร้อยละ 5
ปี 2548 ตลาดภายในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องอีกประมาณร้อยละ 6.8 เนื่องจากกิจกรรมการค้าและการผลิตที่ต้องใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษยังเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าการใช้กำลังการผลิตของอุตสาหกรรมโดยรวมจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ยประมาณร้อยละ 80 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 70 ในปี 2547 โดยเน้นผลิตเพื่อส่งออกมากขึ้น แต่การเพิ่มขึ้นของราคากระดาษและน้ำมัน จะทำให้ผู้ผลิตต้องปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นประมาณ
ร้อยละ 15 ในช่วงต้นปี
ปัจจัยสนับสนุน
การขยายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อาทิ ภาคการผลิต ภาคส่งออก ค้าส่งค้าปลีก ภาคขนส่ง และการเพิ่มขึ้นของการบริโภคส่วนบุคคล ส่งผลให้มีความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษเพิ่มขึ้น
ภายในประเทศมีกำลังการผลิตการดาษคราฟท์ และกระดาษแข็ง พอเพียงพื่อใช้เป็นวัตถุดิบ
โครงการหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล (OTOP) นโยบายสนับสนุนการผลิต และการส่งออกสินค้าเกษตร และอุตสาหกรรมของรัฐฯ สนับสนุนให้มีการใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษเพิ่มขึ้น
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และสามารถผ่านกระบวนการเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้ จึงเป็นที่ยอมรับของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ปัจจัยเสี่ยง
ต้นทุนวัตถุดิบ (กระดาษคราฟท์ และกระดาษแข็ง) พลังงานและค่าจ้าง มีแนวโน้มสูงขึ้น
การแข่งขันภายในประเทศรุนแรง โดยเฉพาะตลาดกล่องกระดาษลูกฟูก ซึ่งมีผู้ผลิตมากถึง 600 ราย
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-
ปี 2547 การขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ส่งผลให้ตลาดภายในประเทศมีความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษ (หีบ กล่อง ซอง ถุง) เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 9.4 เป็นมูลค่า 77,200 ล้านบาท ขณะที่ตลาดต่างประเทศแม้มีสัดส่วนไม่มาก แต่มีอัตราการขยายตัวสูง โดยเฉพาะในช่วง 10 เดือนแรกของปีมีมูลค่าส่งออก 3,206 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 17.7 ส่วนใหญ่ส่งไปยังไต้หวัน จีน และสหรัฐอเมริกา โดยจะมีมูลค่าส่งออกทั้งปีสูงถึง 3,700 ล้านบาท ส่งผลให้อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์กระดาษมีมูลค่าตลาดรวม 80,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ร้อยละ 9.7 จำแนกเป็นตลาดภายในประเทศร้อยละ 95 และตลาดต่างประเทศร้อยละ 5
ปี 2548 ตลาดภายในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องอีกประมาณร้อยละ 6.8 เนื่องจากกิจกรรมการค้าและการผลิตที่ต้องใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษยังเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าการใช้กำลังการผลิตของอุตสาหกรรมโดยรวมจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ยประมาณร้อยละ 80 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 70 ในปี 2547 โดยเน้นผลิตเพื่อส่งออกมากขึ้น แต่การเพิ่มขึ้นของราคากระดาษและน้ำมัน จะทำให้ผู้ผลิตต้องปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นประมาณ
ร้อยละ 15 ในช่วงต้นปี
ปัจจัยสนับสนุน
การขยายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อาทิ ภาคการผลิต ภาคส่งออก ค้าส่งค้าปลีก ภาคขนส่ง และการเพิ่มขึ้นของการบริโภคส่วนบุคคล ส่งผลให้มีความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษเพิ่มขึ้น
ภายในประเทศมีกำลังการผลิตการดาษคราฟท์ และกระดาษแข็ง พอเพียงพื่อใช้เป็นวัตถุดิบ
โครงการหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล (OTOP) นโยบายสนับสนุนการผลิต และการส่งออกสินค้าเกษตร และอุตสาหกรรมของรัฐฯ สนับสนุนให้มีการใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษเพิ่มขึ้น
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และสามารถผ่านกระบวนการเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้ จึงเป็นที่ยอมรับของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ปัจจัยเสี่ยง
ต้นทุนวัตถุดิบ (กระดาษคราฟท์ และกระดาษแข็ง) พลังงานและค่าจ้าง มีแนวโน้มสูงขึ้น
การแข่งขันภายในประเทศรุนแรง โดยเฉพาะตลาดกล่องกระดาษลูกฟูก ซึ่งมีผู้ผลิตมากถึง 600 ราย
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-