นายนริศ ขำนุรักษ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกฯออกมาพรรคเสนอนายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกรัฐมนตรี นั้น ทางพรรคคิดว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะในสถานการณ์หนึ่งๆคนจะเรียกร้องผู้นำอีกแบบหนึ่ง อาทิ ในสมัยรัฐบาลชาติชาย ชุณหะวัณ มีกระแสข่าวในเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น ขณะนั้นสถานการณ์จึงเรียกร้องผู้นำใหม่หลังรัฐบาลดังกล่าว คือผู้นำแบบซื่อสัตย์สุจริต ขณะนั้นนายชวนหลีกภัย จึงได้เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นสถานการณ์เรียกร้องพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งมีแนวคิดแบบนักบริหารมืออาชีพ แต่เชื่อมั่นว่า หลังจากนี้ต่อไปในสถานการณ์แบบนี้ประชาชนจะเรียกร้องอีกแบบจะกลับมาเรียกร้องผู้นำแบบ ซื่อสัตย์ สุจริต อีกครั้งหนึ่ง
‘คำพูดของท่านนายกฯ ที่พูดในทำนองเย้นยัน เพราะว่าหลงผิดคิดว่าตนเองสามารถที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี มีความเก่งกาจสามารถที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้เพียงคนเดียว คนอื่นไม่สามารถเป็นได้ กรณีที่ออกมาพูดถึงนายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูหมิ่นหัวหน้าพรรค อยากเรียนว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นนายกรัฐมนตรีได้ และเชื่อว่าหากนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว จะไม่สร้างปัญหาให้เป็นภาระกับพี่น้องประชาชนเหมือนกับทุกวันนี้ รับรองว่า จะไม่มีเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน เอื้อผลประโยชน์กับเครือญาติ รับรองว่าการบริหารจะไม่รังแกข้าราชการ ทำลายคนดี และนายบัญญัติไม่เคยมีพฤติกรรมบ้าอำนาจจนสร้างปัญหาเสียเอง และมั่นใจว่าบ้านเมืองจะๆไม่เสียหายกับการบริหารของนายบัญญัติแน่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้สินล้นพ้นตัว และเชื่อว่าปัญหาในพื้นที่ภาคใต้จะได้รับการคลี่คลายเพราะนายบัญญัติ เข้าใจปัญหาภาคใต้ดี ไม่ใช่ฟังเพียงบางส่วน’นายนริศกล่าว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากนายบัญญัติเป็นนายกฯตนเชื่อว่า การทุจริตคอรัปชั่น จะเบาบางลง เพราะว่าเป็นคนเอาจริงเอาจังไม่สักแต่พูด ปัญหาทางสัมคมซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ จะถูกสะสางและรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์จะไม่มุ่งเน้นการเติบโตตามแศรษฐกิจ หรือตัวเลขทางจีดีพี รวมทั้งการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่กำไร มีสิ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตของประชาชน พรรคประชาธิปัตย์ก็จะไม่ให้คนของพรรคเข้าไปมีผลประโยชน์ในตลาดหุ้นแต่อย่างใด และประการสำคัญเชื่อมั่นว่า ถ้านายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นนายกฯ จะปฏิบัติตามแนวพระราชดำริอย่างเคร่งครัด ไม่ละเลย แนวพระราชดำริทุด้าน และขณะนี้คนที่รู้ทันทักษิณ เต็มบ้านเต็มบ้านเมืองแล้ว เพียงแต่ว่าบางส่วนเท่านั้นเองที่ออกมาแสดงออก และคิดว่าคนเหล่านี้คือของจริง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-
‘คำพูดของท่านนายกฯ ที่พูดในทำนองเย้นยัน เพราะว่าหลงผิดคิดว่าตนเองสามารถที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี มีความเก่งกาจสามารถที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้เพียงคนเดียว คนอื่นไม่สามารถเป็นได้ กรณีที่ออกมาพูดถึงนายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูหมิ่นหัวหน้าพรรค อยากเรียนว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นนายกรัฐมนตรีได้ และเชื่อว่าหากนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว จะไม่สร้างปัญหาให้เป็นภาระกับพี่น้องประชาชนเหมือนกับทุกวันนี้ รับรองว่า จะไม่มีเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน เอื้อผลประโยชน์กับเครือญาติ รับรองว่าการบริหารจะไม่รังแกข้าราชการ ทำลายคนดี และนายบัญญัติไม่เคยมีพฤติกรรมบ้าอำนาจจนสร้างปัญหาเสียเอง และมั่นใจว่าบ้านเมืองจะๆไม่เสียหายกับการบริหารของนายบัญญัติแน่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้สินล้นพ้นตัว และเชื่อว่าปัญหาในพื้นที่ภาคใต้จะได้รับการคลี่คลายเพราะนายบัญญัติ เข้าใจปัญหาภาคใต้ดี ไม่ใช่ฟังเพียงบางส่วน’นายนริศกล่าว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากนายบัญญัติเป็นนายกฯตนเชื่อว่า การทุจริตคอรัปชั่น จะเบาบางลง เพราะว่าเป็นคนเอาจริงเอาจังไม่สักแต่พูด ปัญหาทางสัมคมซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ จะถูกสะสางและรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์จะไม่มุ่งเน้นการเติบโตตามแศรษฐกิจ หรือตัวเลขทางจีดีพี รวมทั้งการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่กำไร มีสิ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตของประชาชน พรรคประชาธิปัตย์ก็จะไม่ให้คนของพรรคเข้าไปมีผลประโยชน์ในตลาดหุ้นแต่อย่างใด และประการสำคัญเชื่อมั่นว่า ถ้านายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นนายกฯ จะปฏิบัติตามแนวพระราชดำริอย่างเคร่งครัด ไม่ละเลย แนวพระราชดำริทุด้าน และขณะนี้คนที่รู้ทันทักษิณ เต็มบ้านเต็มบ้านเมืองแล้ว เพียงแต่ว่าบางส่วนเท่านั้นเองที่ออกมาแสดงออก และคิดว่าคนเหล่านี้คือของจริง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13 ก.ย. 2547--จบ--
-ดท-